ตอนที่
2
วายร้ายไปยุโรป
‘คามิน ธรรมทัช’ ผู้จัดการใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรปของทีเคกรุ๊ป
กำลังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อตาข้างขวาของเขากระตุกถี่ๆไม่ยอมหยุด เขาไม่ได้เชื่อเรื่องโชคลางไสยศาสตร์
แต่..บางครั้งลางสังหรณ์หรือซิกเซ็นก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องงมงายเลยทีเดียว
และวันนี้ใจเขาก็หวั่นๆว่าลางสังหรณ์ของเขาน่าจะแม่น ‘ขวาร้าย
ซ้ายดี’
ติ๊ดๆๆ
เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานดังขึ้นทำให้คนที่นั่งหน้านิ่วขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม…ใครโทรฯมาวะ? คำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปยกหูโทรศัพท์มาแนบกับหูตน
“คุณคามินคะ
ประชาสัมพันธ์ด้านล่างโทรฯขึ้นมาแจ้งว่า น้องสาวของคุณมารอพบ
จะให้เธอขึ้นมาเลยไหมคะ?” เลขาหน้าห้องโทรฯเข้ามารายงาน
“น้องสาวของผม?”
คามินถามกลับอย่างงุนงง
เขาเป็นลูกโทนไม่มีทั้งน้องสาวและน้องชาย แล้วนี่จู่ๆก็มีน้องสาวโผล่มาแสดงตัว
มันหมายความว่ายังไง?
“ค่ะ
เธอชื่อ ศศรานี และบอกว่าเป็นน้องของคุณคามินน่ะค่ะ”เลขาหน้าห้องรายงานต่อ
“อะไรนะ?”
แค่ได้ยินชื่อคนที่นั่งอยู่ก็กระเด้งตัวลุกจากเก้าอี้ทันใดคล้ายกับนั่งทับของร้อน….แย่แน่ๆๆ ชายหนุ่มอุทานลั่นในใจอย่างหวาดหวั่น นั่นไงล่ะ
ที่ตาขวากระตุกไม่หยุดเพราะเหตุนี้ใช่ไหม
‘ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมไม่รีบเผ่นหนีตั้งแต่ตากระตุกครั้งแรกวะ
จะนั่งคอยหายนะมาเยือนอยู่นี่ทำไม’
ชายหนุ่มด่าตัวเองในใจอย่างแค้นเคือง
ถ้าเขาเชื่อลางสังหรณ์ตั้งแต่แรกเขาก็คงไม่ต้องต้อนรับ ‘แขก’ที่ไม่คิดอยากจะเชิญมาอย่างนี้หรอก
“ตกลงว่า
เธอไม่ใช่น้องสาวของคุณคามินใช่ไหมคะ? ฉันจะได้ให้ประชาสัมพันธ์ช่วยเชิญเธอกลับไป”เลขาสาวถามเมื่อเจ้านายหนุ่มนิ่งเงียบไปนานหลังจากฟังรายงาน
“ไม่ต้อง”
คามินรีบห้าม
ก่อนที่หายนะจะลุกลามไปใหญ่โต เขาควรจะต้องเผชิญหน้ากับมันเพื่อหาวิธีรับมือ
“เชิญเธอขึ้นมาพบผมได้”เขาจำใจสั่งเลขาสาวออกไปในที่สุด…อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ชายหนุ่มคิดอย่างปลงๆ
“อ้อ
แล้วช่วงบ่ายผมมีนัดสำคัญอะไรหรือเปล่า?”เขาถามถึงตารางงาน
“มีประชุมกับผู้จัดการฝ่ายขายตอนบ่ายสองถึงบ่ายสามโมงแค่นี้ค่ะ”เลขาสาวเช็คตารางนัดให้
“งั้นคุณช่วยจัดการเลื่อนนัดให้ผมด้วย
เลื่อนไปเป็น อืม…”
ชายหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าช่วงไหนถึงจะเหมาะ
เพราะไม่แน่ใจว่าจะต้องใช้เวลาจัดการกับ ‘ตัวปัญหา’เฉพาะหน้านี้นานแค่ไหน
“เอาเป็นวันจันทร์เลยล่ะกัน”
‘พรุ่งนี้วันศุกร์แล้ว สงสัยคงจะเคลียร์ปัญหาไม่ได้ง่ายดายนักหรอก
ทำไมไอ้เพื่อนบ้าไม่ส่งข่าวมาก่อนเลยวะ’
คามินแอบด่ากันต์ในใจอย่างขัดเคืองที่ไม่ยอมส่งข่าวมาให้เขารู้ตัวล่วงหน้า
จะได้เตรียมตั้งรับได้ทัน ไม่ใช่ปล่อยให้โผล่มาให้ตกใจหัวใจแทบวายอย่างนี้
“ได้ค่ะ
เดี๋ยวฉันจะจัดการเลื่อนนัดให้ คุณคามินมีอะไรจะสั่งอีกไหมคะ?”เลขาสาวถาม
“ไม่
แค่นี้ก่อน ถ้ามีอะไรเพิ่ม เดี๋ยวผมจะโทรฯไปบอก”เขาสั่ง ตอนนี้หัวสมองของเขาตีบตันตั้งแต่ได้ยินชื่อ‘น้องสาว’ที่มารอพบแล้วล่ะ
“ค่ะ”เลขาสาวรับคำก่อนจะรีบไปจัดการงานตามที่เจ้านายสั่ง
ก๊อกๆๆ
เลขาสาววางสายไปไม่ถึงหนึ่งนาที
ประตูหน้าห้องก็ถูกเคาะเบาๆเป็นการขออนุญาต
เจ้าของห้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยออกยาวๆ แล้วค่อยเอ่ยอนุญาต
“เข้ามาได้”
ทันทีที่ได้ยินเสียงอนุญาตเลขาสาวก็ผลักประตูเปิดออก
และเชิญคนยืนอยู่ด้านหลังให้เข้ามาในห้องอย่างนอบน้อมตามมารยาทเลขาที่ดี
“ขอบคุณค่ะ”
แขกโค้งตัวลงและกล่าวขอบคุณเลขาสาวที่เปิดประตูให้พร้อมกับรอยยิ้มสดใส
ทำให้คนที่ทำหน้าที่บริการยิ้มตอบกลับอย่างยินดีและชื่นชม
‘น้องสาวของเจ้านายช่างน่ารักเหมือนตุ๊กตานางฟ้าจริงๆ’
คนที่กลับไปประจำที่ของตนที่หน้าห้องเจ้านายอดที่จะชื่นชมหญิงสาวผู้มาใหม่ไม่ได้
เพราะเธอช่างน่ารักดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแถมมารยาทยังงามอีกด้วย โดยไม่รู้เลยว่าคนที่อยู่ในห้องกำลังร้องครวญครางในใจเหมือนได้เจอ‘นางมารร้าย’
“สวัสดีค่ะพี่คามิน”
น้องสาวกำมะลอยกมือไหว้พี่ชายในนามอย่างอ่อนน้อมพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนหวาน
แต่คนรับไหว้ ‘ต้องพยายามอย่างยิ่ง’ที่จะปั้นหน้าฉีกยิ้มรับเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับได้
‘แต่ให้ตายเถอะ ใครมันจะไปยิ้มได้เมื่อเจอมารร้ายวะ’
“สวัสดีจ๊ะ
ทำไมจู่ๆจันทร์เจ้าถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”
เจ้าของสถานที่ถาม
พร้อมกับเดินไปดึงเก้าอี้ออกให้อีกฝ่ายนั่งลง คนถูกถามหุบยิ้มทันควัน
พร้อมกับทำหน้ามุ่ยไม่สบอารมณ์เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ตนต้องระเห็จมาถึงที่นี่
“ก็พี่กันต์สั่งพักงานจันทร์เจ้า”
คนโดนพักงานรายงานพร้อมกับฟ้องกลายๆ
แต่เจ้าของห้องไม่ยอมรับฟ้อง เพราะรู้ดีว่าคนโดนสั่งพักงาน‘ก่อคดี’อะไรไว้จึงโดนแบบนี้
และผู้เสียหายในคดีนี้ก็มีทีเคกรุ๊ปรวมอยู่ด้วย ถึงแม้จะไม่เสียหายมากมายนัก เพราะไม่ใช่งานที่ต้องทำผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกระทบใดเลย
“แล้วจันทร์เจ้ามาที่นี่เพื่อ..?”ถามแล้วเขาก็รอลุ้นด้วยหัวใจหวั่นๆ ว่าออฟฟิศของเขาจะโดนแจ็คพ็อตหรือไม่
“จันทร์เจ้าจะไปทำงานที่สเปซมาร์ส
พี่คามินช่วยจัดการให้จันทร์เจ้าด้วยนะคะ”
คนที่มาบอกจุดประสงค์
แต่คนฟังถึงกับอ้าปากค้าง ‘ไปทำงานที่สเปซมาร์ส
บ้าหรือเปล่าวะ?’
“จันทร์เจ้าว่ายังไงนะ?”
ชายหนุ่มถามซ้ำ
หูเขาไม่ได้ตึงหรือเพี้ยน เพียงแต่เขาอยากแน่ใจจึงขอฟังซ้ำ
คนถูกถามซ้ำขมวดคิ้ว
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายถามซ้ำเพราะอะไร แต่ก็ยอมตอบ ช้าๆชัดๆ จะได้เข้าใจและรีบไปจัดการให้โดยเร็ว
“จันทร์เจ้า
จะ ไป ทำงาน ที่ สเปซมาร์ส”
อืม…ชัดเจน แต่…ไม่เข้าใจ
“ทำไม?”เขาถามสั้นๆ
ช่วยอธิบายเหตุผลให้เขาเข้าใจหน่อยได้ไหม
“ก็จันทร์เจ้าโดนพักงานเพราะสเปซมาร์ส
ดังนั้นจันทร์เจ้าก็จะไปทำงานที่นั่นแทน”
อัจฉริยะด้านไอทีแต่สมองด้านอื่นติดลบตอบง่ายๆตามหลักตรรกศาสตร์
แต่คนฟังถึงกับกุมขมับ
“จันทร์เจ้า
จันทร์เจ้ารู้ไหมตอนนี้จันทร์เจ้ากำลังโดนไวด์เดอร์เทเลคอมกับสเปซมาร์สล่าตัวอยู่นะ
แล้วจันทร์เจ้าจะไปทำงานที่สเปซมาร์สได้ยังไง”
คามินพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจถึงสถานการณ์ของตนเองในขณะนี้
ว่าตนเองนั้นโดนหมายหัวอยู่ แล้วจู่ๆจะเดินเข้าไปมอบตัวให้ศัตรูง่ายๆอย่างนี้เหรอ
ถ้าท่านประธานฯตัวร้ายรู้เข้า เขามิตายก่อนใครเหรอ
แถมพื้นที่เกิดเหตุยังอยู่ในเขตพื้นที่ที่เขาดูแลอยู่ด้วย
“รู้ค่ะ”
คนที่โดนล่าตัวตอบอย่างไม่สบอารมณ์
คนอะไรขี้งก แค่ขอใช้ของหน่อยเดียวก็ตีโพยตีพาย อย่าให้เจอตัวๆนะ
จะทำให้จ่ายมากกว่านี้แน่ คนที่ไม่คิดว่าตัวเองทำผิดคิดอย่างแค้นเคือง
“รู้แล้วจันทร์เจ้ายังจะไปทำงานที่สเปซมาร์สอีกเหรอ?”คามินถามอย่างอ่อนใจ
ใสๆซื่อๆอย่างนี้จะไม่โดนสิงโตร้ายอย่างลีโอนาร์ดขย้ำตายเอาง่ายๆหรือไง
“ก็จันทร์เจ้าปรึกษาตะวันแล้ว
ตะวันว่าสเปซมาร์สยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ ดังนั้นถ้าจันทร์เจ้าไปทำงานที่นั่นก็น่าจะได้ความรู้ใหม่ๆมาเยอะเชียวแหละ”
ศศรานีอธิบาย
เธอไปปรึกษาอัจฉริยะอันดับหนึ่งของทีเคกรุ๊ปมาแล้วนะ
ดังนั้นวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และที่สำคัญ ‘ที่ที่อันตรายที่สุด คือ ที่ที่ปลอดภัยที่สุด’ไม่ใช่เหรอ
ได้ยินว่าใครแนะนำมา
คามินก็ทรุดลงนั่งพร้อมกับหลับตาอย่างปลงอนิจจัง….ปรึกษาใครไม่ไปปรึกษา
ดันไปปรึกษาท่านประธานฯตัวร้าย ที่ไม่เคยรู้จักคำว่า‘แพ้’ ผลก็เลยออกมาเป็นแบบนี้อย่างไรล่ะ คนที่แนะนำนั้นพิษร้ายรอบตัว เล่ห์เหลี่ยมก็เกินใคร
แต่คนที่ทำตามเหมือนสมันน้อยไร้เดียงสา จะให้ไปต่อกรกับสิงโตเจ้าป่าแสนเจ้าเล่ห์อย่างลีโอนาร์ดได้อย่างไร
คามินได้แต่ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย
แต่เขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อท่านประธานฯตัวร้ายอนุมัติแล้ว ใครล่ะจะกล้าขัด‘บัญชา’
ถ้าให้เขารับมือกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะส่งสมันน้อยเข้าถ้ำสิงโต
ยังจะง่ายกว่ารับมือกับพายุทอร์นาโดที่จะพัดมาถล่มถ้าเขาไม่ทำตามความประสงค์ของ‘จอมมาร’
“ไม่ต้องห่วงหรอก
ตะวันจะส่งเรนนี่มาช่วย”
ศศรานีบอกให้อีกฝ่ายเบาใจ
เพราะเธอจะมีผู้ช่วยคนสำคัญมาคอยช่วยเหลือ รับรองว่างานนี้เธอต้องปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์
ทันทีที่ได้ยินชื่อ‘ผู้ช่วยพิเศษ’คามินก็อยากยื่นใบลาพักร้อนสักสองเดือน
เขาจะหนีไปอยู่อลาสก้า จะไปอยู่กับเอสกิโมที่นั่นสักระยะ จะได้หนีพ้น‘ตัววายร้าย’ที่จะมา‘ก่อเหตุ’ในไม่ช้านี้ …แต่เขาก็ทำไม่ได้ดังที่คิด
อยากจะร้องตะโกนดังๆระบายความอัดอั้นตันใจออกไปให้ตึกทั้งหลังพังทลายลงมาเดี๋ยวนี้เลย
“เอาล่ะ
เราจะมาวางแผนกันว่าจะทำยังไงกันดี แล้วกันต์รู้เรื่องนี้หรือยัง?”
คามินว่าอย่างปลงตก
ก่อนจะถามถึงเพื่อนรักเพื่อนแค้นที่ส่ง‘ตัวหายนะ’มาให้เขาพร้อมกันทีเดียวเลย‘สองตัว’
“ไม่รู้สิคะ
จันทร์เจ้าคุยกับตะวันแล้ว จันทร์เจ้าก็จับเครื่องมาเลย ยังไม่ได้บอกพี่กันต์
ไม่แน่ใจว่าตะวันบอกหรือยัง?”
คนที่มาโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้าบอกตรงๆ
หลังจากออกจากเกาะก็แวะกลับไปพักที่บ้านกับครอบครัวแค่วันเดียว
คืนนั้นก็โทรฯคุยกับท่านประธานฯที่อยู่ตะวันออกกลาง หลังจากที่พูดคุยกันและฝ่ายนั้นแนะนำให้มาทำงานที่สเปซมาร์ส
เธอก็จองตั๋วเครื่องบินทันที เพราะมีวีซ่าถาวรอยู่แล้ว
คามินพยักหน้า
‘ป่านนี้ไอ้เพื่อนตัวดีคงจะรู้แล้วล่ะ แล้วมันยังใจร้ายไม่ยอมบอกเขาให้รู้ตัวล่วงหน้าอีก
คงจะกลัวว่าเขาจะชิ่งหนีให้มันมารับกรรมแทนแน่ๆ’คามินคิดอย่างแค้นเคืองคนที่อยู่เฝ้าเกาะ
“โอเค
เดี๋ยวพี่จะคุยกับมัน”เขาตัดบท งานนี้คงต้องด่ามันยาว..เอาให้หายแค้น ฮึ่ม
“ว่าแต่จันทร์เจ้าจะพักที่ไหน?”เขาถามเรื่องใหม่
เขาไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้จองโรงแรมไว้แล้วหรือยัง
“ห้องของพี่ไงคะ”คนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้าบอกง่ายๆ
‘นั่นไง กูว่าแล้วเชียวว่าวันนี้วันซวยของกู’
คามินคร่ำครวญในใจกับโชคร้ายของตนเอง
ความจริงห้องที่คอนโดของเขาก็มีห้องพัก ไว้สำหรับแขกหนึ่งห้อง
เพราะบางทีกันต์ก็จะมาพักกับเขาเวลาที่เดินทางมาตรวจงานโซนนี้
แต่จะให้ศศรานีไปอยู่ห้องพักแขกมันคงไม่เหมาะแน่ ถึงแม้เขากับเธอจะไม่ทำอะไรให้เสียหาย
แต่เขาก็ต้องให้เกียรติ์อีกฝ่าย โดยเฉพาะพ่อแม่ของเธอเป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคมเมืองไทย
คงจะไม่เหมาะแน่ถ้ามีใครเอาไปพูดว่าลูกสาวไปนอนค้างอ้างแรมกับผู้ชายเมื่ออยู่ต่างบ้านต่างเมือง
และในเมืองนี้คนไทยมักจะไปมาหาสู่กันกลมเกลียวกว่าอยู่บ้านเกิดเมืองนอน ดังนั้นไม่ว่าใครจะขยับตัวทำอะไร
คนไทยคนอื่นๆก็จะรู้กันทั่ว
“พี่ว่า
เราไปหาห้องพักใหม่ดีกว่า จันทร์เจ้าอาจจะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน”คามินแนะนำเสียงนุ่มนวลพยายามหว่านล้อมให้คนที่คิดจะยึดห้องพักของเขาให้เปลี่ยนใจ
“แล้วมันจะหาได้หรือคะ
นี่ก็จะบ่ายสองโมงแล้ว”
ศศรานีแย้ง
เธอพอจะรู้ว่าที่พักเมืองนี้หาค่อนข้างยาก ส่วนเรื่องราคาเธอไม่ได้กังวลอะไร เพราะถึงอย่างไรทีเคกรุ๊ปก็จ่ายได้อยู่แล้ว
“ทันสิ”
คนที่จะโดนยึดห้องรับคำ
เพราะอย่างไรเขาจะต้องหาห้องพักให้เธอให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นตัวเขาเองนี่แหละจะต้องหาห้องพักใหม่ให้ตัวเอง
และเขาก็ไม่อยากวุ่นวายย้ายข้าวของของตัวเองไปที่อื่น เพราะกว่าจะจัดการให้เรียบร้อยก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเป็นวัน
แต่คนที่มีแค่กระเป๋าใบเดียวจะหิ้วไปที่ไหนก็ได้
“ตามใจค่ะ
จันทร์เจ้ายังไงก็ได้”
คนที่ยังไม่มีที่พักบอกง่ายๆ
ตามประสาคนที่ไม่คิดอะไรซับซ้อน
ข้อดีอย่างหนึ่งของศศรานีคือไม่เรื่องมากทั้งเรื่องอาหารและที่อยู่อาศัย
เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจ ดังนั้นระหว่างคฤหาสน์กับกระท่อมสำหรับเธอมันก็เหมือนกันคือมีไว้สำหรับนอนพัก
ดังนั้นไม่ว่าห้องจะเล็กหรือใหญ่ ขอให้เธอสามารถเข้าไปซุกตัวนอนได้เธอก็ไม่มีปัญหาใด
คามินถอนหายใจอย่างโล่งอกที่จะไม่โดนยึดห้องไป
แต่ปัญหาเฉพาะหน้าขณะนี้คือเขาจะไปหาห้องพักให้หญิงสาวที่ได้ไหน เพราะเมืองนี้ห้องพักค่อนข้างหายากและแพงมาก
คนโสดส่วนใหญ่จึงมักจะแชร์ห้องพักกันเพื่อประหยัดรายจ่ายและไม่ต้องดิ้นรนหาห้องพักให้เหนื่อยนัก
เพราะห้องไหนที่มีคนอยู่คนเดียวเขาจะมีประกาศหารูมเมท
แต่จะให้ศศรานีไปแชร์ห้องรวมกับใครนั้นคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะทีเคกรุ๊ปจะไม่ยอมปล่อยให้หัวกะทิอย่างนี้ไปอยู่กับใครเพื่อป้องกันไม่ให้ใครล่วงรู้ความลับของเธอ
และที่สำคัญตัววายร้ายอาจจะเล่นงานเพื่อนร่วมห้องได้ถ้าฝ่ายนั้นทำอะไรให้ขัดเคืองใจ
ดังนั้น
‘กันไว้ดีกว่าแก้’
หลังจากนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
คามินก็ต่อโทรศัพท์ไปยังฝ่ายไอทีให้หาข้อมูลห้องพักหรือบ้านพักที่มีประกาศขายหรือเช่า
จากนั้นเขาก็โทรฯไปสั่งการผู้จัดการฝ่ายขายให้ทีมเซลที่ออกพื้นที่ทุกคนหยุดงานของตัวเองชั่วคราว
แต่ให้คอยรับข้อมูลของฝ่ายไอทีที่จะส่งไปให้
และหลังจากได้รับข้อมูลแล้วให้ตระเวนไปดูห้องพักหรือบ้านพักที่ประกาศให้เช่าหรือขายเหล่านั้น
แล้วให้ส่งรูปพร้อมทั้งข้อมูลมาให้เขาพิจารณา
ระหว่างรอข้อมูลเขาก็หันไปถามคนที่นั่งทำตาแป๋วอยู่ตรงหน้า
“แล้วจันทร์เจ้า
กินอะไรมาหรือยัง?”
เขาอดถามอย่างห่วงใยไม่ได้
คนที่เคยมีคนคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา แล้วเดินทางมาคนเดียวอย่างนี้จะดูแลตัวเองเป็นไหม
“จันทร์เจ้ากินแซนวิชมาแล้วค่ะ”ศศรานียิ้มก่อนตอบรับอย่างอ่อนหวานตามนิสัย
คามินเห็นดังนั้นก็ได้แต่แอบถอนหายใจ
ศศรานีเป็นตัววายร้ายที่ดูอ่อนโยนที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะ‘ก่อเหตุร้าย’น้อยที่สุด เพียงแต่เธอร้ายแค่ด้านวิศวกรรมและไอทีเท่านั้น
ส่วนด้านอื่นๆนั้นเธอยังเหมือนเด็กที่ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก
อยากรู้อยากเห็นแต่ไม่เคยระแวงระวัง แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาเป็นห่วงได้อย่างไร ยิ่งเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงสิงห์ร้ายที่เหลี่ยมจัดรอบตัวแถมยังเป็นเจ้าพ่อเทเลคอม
งานนี้อัจฉริยะด้านไอทีจะหนีพ้นเขี้ยวเล็บเขาไปได้หรือ
“เดี๋ยวพี่จะให้ซาร่าจัดอะไรมาให้
จันทร์เจ้าไปนั่งอ่านหนังสือเล่นที่มุมโน้นก่อนนะ พี่ขอเคลียร์งานก่อนแป๊ปนึง
แล้วเราค่อยออกไปดูที่พักกัน”เจ้าของห้องบอก
‘มุมโน้น’ที่เขาชี้บอกคือมุมหนึ่งของห้องกว้างที่มีชุดรับแขกสุดหรูจัดวางไว้
น่าจะมีไว้สำหรับรับรองแขกพิเศษ ผนังด้านหลังไม่ห่างจากชุดรับแขกมีชั้นวางหนังสือที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบแต่ไม่ค่อยมีใครได้อ่าน
เพราะเจ้าของห้องนั้นยุ่งจนไม่มีเวลาสนใจ ส่วนแขกที่มาพบล้วนแต่มาเพราะเรื่องธุรกิจ
เวลาของพวกเขาทุกนาทีมีค่าจึงไม่ใครมีเวลาพอจะมานั่งอ่านหนังสือเล่นที่ห้องทำงานของคนอื่น
ดังนั้นหนังสือพวกนั้นจึงถูกซื้อมาเพื่อประดับห้องให้ดูดีมีระดับเท่านั้นเอง
ศศรานีเดินไปเลือกหนังสือมาอ่านตามที่เจ้าของห้องแนะนำ
เธอชอบอ่านหนังสือ ขอเพียงมีหนังสือในมือจะให้เธอไม่ไปไหนทั้งวันก็ได้
เพียงแต่เธออ่านหนังสือเร็วมาก ดังนั้นที่เกาะพันดาวจึงมีห้องสมุดที่มีหนังสือมากมายยิ่งกว่าหอสมุดแห่งชาติ
เพราะทุกคนที่นั่นล้วนชอบค้นคว้าทดลองสิ่งต่างๆ
และหนังสือก็คือตัวสาร์ทเตอร์ที่ดีที่สุด
ที่จะช่วยจุดประกายไฟในสมองของเหล่าอัจฉริยะให้โลดแล่นจนสามารถค้นคว้าและผลิตสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆขึ้นมา
เมื่อเห็นแขกก้มหน้าก้มตาอยู่กับหนังสือ
คามินก็ต่อโทรศัพท์ถึงคนที่อยู่เมืองไทยทันที
เขาไม่สนใจหรอกว่าตอนนี้ที่นั่นมันจะกี่โมงกี่ยาม เพราะที่มันส่งวายร้ายมาหาเขาโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าแบบนี้
มันก็สมควรแล้วล่ะที่จะโดนเขาก่อกวนกลับอย่างนี้
“ว่าไง?”ปลายสายตอนรับเสียงเนือย
“นายรู้ใช่ไหมว่าวายร้ายโผล่มาที่นี่?”คามินถามเสียงเครียด
“อืม”ปลายสายตอบรับง่ายๆ
และเสียงตอบรับนั้นทำให้คนที่โทรฯไปอยากจะบินไปต่อยอีกฝ่ายสักหมัดให้มันรู้สึกตัวเสียบ้างว่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนขนาดไหน
“ทำไมนายไม่โทรฯมาบอกฉันบ้างวะ”คามินต่อว่าเพื่อน
ทั้งๆที่ปกติมันก็โทรฯมากวนประสาทเขาบ่อยๆ แต่เรื่องสำคัญแบบนี้มันกลับปิดปากเงียบ
“ฉันก็เพิ่งรู้
นายอย่าเพิ่งโวยวายได้ไหม นายคิดว่าฉันสบายหรือไง เจ้านายตัวร้ายเพิ่งโทรฯมาบอกและสั่งงาน
จนฉันอยากจะย้ายหนีไปอยู่ดาวอังคารอยู่แล้ว”
อีกฝ่ายโวยวายกลับ
คิดว่าโดนอยู่ฝ่ายเดียวหรือไง เขาไม่น่าจะพูดประชดเลยว่าให้ไปปรึกษาเจ้านายตัวร้าย
ก็รู้อยู่แล้วว่าคนคนนั้นเป็นยังไง เคยยอมใครเสียที่ไหน
คามินชะงักกึก
คำต่อว่ายาวเหยียดที่คิดเอาไว้หยุดอยู่ที่ริมฝีปาก เมื่อได้ยินประโยคของปลายสาย
นั่นสินะ คนที่จะโดนคนแรกไม่มีใครหรอกนอกจากกันต์ คนใกล้ชิดที่สุด คนที่ฉลาดที่สุด
และเป็นคนที่รับภาระหนักที่สุดเช่นกัน ความอัดอั้นที่แล่นมาจุกอกลบฮวบลงทันทีที่รู้ว่ามีคนรับกรรมหนักกว่าตน
ความทุกข์ไม่มีใครมาแบ่งเบาไปได้หรอก แต่เราจะทุกข์น้อยลงถ้ารู้ว่ามีใครที่เป็นทุกข์มากกว่าเรา
“เอ่อ
แล้วตอนนี้นายทำอะไรอยู่ล่ะ?”คนถามเปลี่ยนโทนเสียงเป็นเห็นอกเห็นใจ‘เพื่อนทุกข์’
“กำลังจัดกำลังเสริม
ดีกว่าปล่อยให้จอมมารลงมาเล่นเอง”
กันต์บอก
เขาจะต้องรีบจัดการหาคนมาช่วยศศรานีให้ดีที่สุด ให้เจ้านายตัวร้ายมั่นใจว่า‘ตัวร้ายเดียงสา’นั่นปลอดภัยพอ
หาไม่แล้วเจ้านายคงจะลงมาเล่นเอง และนั่นหายนะจริงๆจะมาเยือน
“เออ
เออ รีบๆจัดมา อย่าให้ลงมาเล่นเองเชียว ไม่งั้นฉันตายแน่
รับมือกับสามวายร้ายไม่ไหวแน่ๆ”
คามินรีบบอกอย่างหวาดหวั่น
แค่สองคนที่มานี่เขาก็รับมือยากแล้วนะ ถ้าให้จอมมารนั่นมาอีก
รับรองเลยว่าเขาจะต้องลาพักร้อนไปนอนอยู่กับพวกเอสกิโมแน่
“สามวายร้ายไหนวะ?”กันต์ถาม
เพราะตอนนี้อยู่ที่ยุโรปหนึ่ง ที่ทะเลทรายหนึ่ง ที่เกาะอีกหนึ่ง
“ก็จากอเมริกาไงล่ะจะมาสมทบ”คามินกระแทกเสียงตอบ
“ห๊า! จริงรึ? ทำไมฉันไม่รู้”กันต์ถามอย่างตกใจ ทำไมเขาพลาดข่าวนี้
“ก็..บอกเองว่า…ให้มาช่วย”คามินเว้นชื่อคนที่ไม่ควรเอ่ย
เพราะไม่แน่ใจว่าคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ไม่ไกลจะได้ยินหรือไม่
“เดี๋ยวฉันเช็คกับติณห์ก่อน”กันต์บอก
เขาจะต้องเช็คข่าวให้แน่ จะได้ปรับแผนได้ทัน
“เออๆ
เช็คแล้วบอกฉันด้วยว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”คามินรีบบอก
ถ้าเป็นไปได้ก็ช่วยหาทางกันไว้อย่าให้มาจะดีกว่า
“ได้
แล้วตอนนี้นายทำอะไรอยู่?”กันต์ตอบรับแล้วถามต่อ เขาจะได้รู้สถานการณ์ปัจจุบัน
“ตอนนี้กำลังรอข่าวจากพวกที่ให้ไปตระเวนหาที่พัก
ไม่แน่ใจว่าวันนี้จะหาได้หรือเปล่า?”คามินตอบอย่างกังวล และถ้าวันนี้ไม่ได้ที่พัก คนที่จะต้องไปหาที่ซุกหัวนอนใหม่ก็ต้องเป็นเขานี่แหละ
ชายหนุ่มคิดอย่างปลงๆ
“โอเค
ถ้ามีอะไรนายโทรฯฉันทันทีเลยนะ ส่วนเรื่องคนและแผนการรอแป๊บนึง คาดว่าพรุ่งนี้จะนัดประชุมได้”กันต์บอก
“โอเค
ขอบใจ”คามินตอบรับก่อนวางสาย
ติ๊ดๆๆๆ
เสียงโทรศัพท์มือถือของศศรานีดังขึ้น เจ้าของเครื่องรับสายเพียงครู่ก็เดินยิ้มร่ามาหาเจ้าของห้องที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด
เพราะตาขวาของเขากระตุกอีกแล้ว
“ตะวันค่ะ
พี่คามิน”เจ้าของโทรศัพท์บอกพร้อมกับยื่นโทรศัพท์รุ่นลิมิแตทให้
‘นั่นไง…ลางสังหรณ์แม่นจริงๆด้วยวันนี้’
คนที่จำต้องรับสายถอนหายใจเบาๆ
ไม่อยากให้คนปลายสายได้ยินหาไม่แล้วอาจจะเกิดฟ้าผ่าผ่านทางโทรศัพท์ได้
“ครับ”
คามินรับสายสั้นๆ
เพราะปกติเขาก็พูดมากไม่ได้อยู่แล้ว
นอกจากรับคำสั่งพร้อมกับจดจำให้มั่นและปฏิบัติตามให้ดีที่สุด
“ไปส่งจันทร์เจ้าที่เมืองมิวนิค
ชีคนาซจะส่งคนมารับที่สนามบิน เพื่อพาเธอไปพักที่คฤหาสน์ และให้อยู่ที่นั่นจนกว่าจะหาทางเข้าไปทำงานที่สเปซมาร์สได้
เธอช่วยตามไปดูความเรียบร้อยด้วยก็แล้วกัน”ท่านประธานตัวร้ายฯสั่งงานผ่านโทรศัพท์
“ครับ”
คามินรับคำสั้นๆ
ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ตนไม่ต้องตระเวนหาที่พักให้คนที่ยืนมองตาแป๋วอยู่ใกล้ๆ
แต่เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเจ้านายถึงยอมให้คนของตัวเองไปอยู่ในคฤหาสน์ของคนอื่นง่ายๆ
แถมชีคนาซ อซีซา บาฮจายังได้ชื่อว่าเพลย์บอยระดับโลกอีกด้วย แล้วจะวางใจให้สมันน้อยตาใสไปอยู่ใต้กรงเล็บได้เหรอ
“เราคุยกับจันทร์เจ้าหน่อย”สั่งงานเสร็จก็ขอสายอีกคน
คามินส่งโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ
ศศรานีรับโทรศัพท์ก่อนตอบรับ เพียงแค่ “ค่ะ ค่ะ ค่ะ ค่ะ”
คามินไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไรบ้าง เพราะอีกฝ่ายเพียงแค่รับคำ
ก็คงเหมือนกับเขาที่ทำได้แค่เพียงตอบรับเท่านั้น
“ตะวันบอกว่าคนของชีคนาซจะมารับจันทร์เจ้าไปพักที่คฤหาสน์ระหว่างรอเข้าทำงานที่สเปซมาร์ส
ส่วนที่พักหลังจากไปทำงานที่สเปชมาร์สแล้ว ตะวันจะให้พี่กันต์จัดการให้ค่ะ”ศศรานีรายงานเจ้าของห้องหลังจากวางสายแล้ว
คามินพยักหน้ารับก่อนถอนหายใจ
แสดงว่าวันนี้เขาจะต้องเดินทางไปที่เมืองมิวนิคตามบัญชาสินะ
เขาโทรฯไปบอกเลขาหน้าห้องให้จัดการจองตั๋วเครื่องบิน
แล้วโทรฯไปสั่งให้แม่บ้านเตรียมกระเป๋าเดินทาง
และไม่ลืมโทรฯไปหาฝ่ายไอทีให้หยุดหาข้อมูลพร้อมกับสั่งฝ่ายขายที่ตระเวนหาที่พักให้หยุดและกลับไปทำหน้าที่ของตนได้ตามปกติ
จากนั้นก็พยักหน้าชวนคนที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆให้เตรียมตัวเดินทางต่อ
โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์เขาสามารถอยู่ดูความเรียบร้อยที่มิวนิคตามที่เจ้านายสั่งได้อีกหนึ่งวัน
วันอาทิตย์ค่อยบินกลับมาทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น