ซีรีย์นิยายชุด Diary Love เรื่อง โลกกลมหรือพรหมลิขิต ตอนที่ 8


ตอนที่ 8 คนที่ใช่..ยังไงก็เป็น..เธอ

วทันยูถือกระเป๋าเดินตามหาอนพัทธ์ครู่ใหญ่ก็พบว่าเขากำลังคุยกับอรปรียาอยู่ เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็เดินไปหากลุ่มเพื่อนที่รออยู่ด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ส่วนอนพัทธ์ยังยืนอยู่ที่เดิม
วทันยูเดินตรงเข้าไปหา ก็พบว่าสีหน้าของเพื่อนดูแย่กว่าหญิงสาวเมื่อสักครู่เสียอีก หรือว่าทั้งคู่ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้
เฮ้ยพัทธ์ เป็นอะไรหรือเปล่าวะ?”
อนพัทธ์หันมา แววตาเศร้าจนน่าใจหาย

ไปกินเหล้ากันเถอะ
เฮ้ย! มันเพิ่งห้าโมงนะ ร้านไหนเขาจะเปิดวะ
งั้นก็ซื้อไปกินที่ห้อง
อนพัท์บอก ก่อนเดินไปที่รถ วทันยูรีบเดินไปที่รถของตัวเองบ้าง อาการของเพื่อนตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก สงสัยคงจะทะเลาะกันรุนแรง หรือว่าอรปรียาบอกเลิก ใจหนึ่งก็ตกใจ แต่อีกใจกลับมีความหวัง นี่เขาเป็นเพื่อนที่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมที่ลุ้นให้เพื่อนรักเลิกกับแฟน

อรปรียาเดินตรงมาหาเพื่อนๆที่รออยู่ด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
นายนั่นคุยอะไรกับแกวะ?”ธีราภรณ์เอ่ยถาม
อรปรียาอึกอักลังเล ก่อนถอนใจ เขาสารภาพรักกับฉัน
สารภาพรัก!”วาสินีกับทิฆัมพรอุทานเสียงหลง ธีราภรณ์กำหมัดแน่นตาวาวอย่างโกรธจัด
แล้วแกตอบว่ายังไง?”วาสินีถามอย่างสนใจ
ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขา
อรปรียาตอบ ถ้าเธอไม่เจอเขาคนนั้น บางทีเธออาจจะลองรับอนพัทธ์มาพิจารณา แต่ตอนนี้หัวใจเธอไม่มีที่ว่างเหลือไว้ให้ใครอีกแล้ว
ไปเรียนกันเถอะ เสียเวลากับคนไร้สาระมานานแล้วธีราภรณ์เอ่ยชวนเสียงขุ่น และเดินนำไปขึ้นรถ คนอื่นๆจึงรีบเดินตาม

อนพัทธ์ซื้อเหล้ามาสิบขวด วทันยูมองขวดเหล้าแล้วต้องส่ายหน้า ไอ้นี่มันกะจะฆ่ากันให้ตายหรือไงนะถึงได้ซื้อมามากขนาดนี้  พอถึงห้องอนพัทธ์ก็ไม่พูดไม่จาผสมเหล้าแล้วกระดกเข้าปากสามแก้วรวด
เฮ้ย! พอแล้วไอ้พัทธ์ เดี๋ยวก็เมาไม่รู้เรื่องกันพอดี
กินเหล้ามันก็ต้องเมา ไม่เมาจะกินทำแป๊ะอะไรวะอนพัทธ์เถียงพร้อมยกแก้วที่สี่ขึ้นกระดก
เฮ้ย แกเล่าเรื่องให้ฉันฟังก่อนสิโว้ย ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่มาถึงก็กระดกเอาๆ ไม่พูดไม่จา แกทะเลาะกับอรมาใช่ไหม?”
ทะเลาะ?”อนพัทธ์ส่ายหน้าโงนเงนไปมา
ม่าย  ม่ายด้ายทะเลาะกันเสียงเริ่มอ้อแอ้
ไม่ทะเลาะกันแล้วแกมากินเหล้าหาพระแสงอะไรวะความอดทนของวทันยูสิ้นสุดลง
ฉลอง
เสียงตอบอ้อแอ้นั้นทำให้วทันยูต้องเลิกคิ้วสูง อาการของอนพัทธ์ตอนนี้ไม่น่าจะมีความสุขจนต้องเลี้ยงฉลอง
ฉลองเรื่องอะไรวะ?”
ฉลองอกหักครั้งที่สองเพราะผู้หญิงคนเดียว
ห๊า! แกว่ายังไงนะ?” วทันยูอุทาน เขย่าเพื่อนที่ทำท่าว่าจะพับลงไปนอนกองให้ตื่นขึ้นมาอธิบายให้รู้เรื่อง
แกหูหนวกหรืองายวะ ฉานบอกว่าฉานอกหัก แกเคยเห็นคนโง่ไหม  ถ้าไม่เคยเห็นก็ดูซะ ดูฉานนี่
อนพัทธ์ตบอกตัวเองปุๆ โง่ที่หลงรักผู้หญิงคนเดียวอยู่ได้ตั้งนานสองนาน ถูกเขาปฏิเสธแล้วยังไม่จำ
วทันยูตาโตอย่างคาดไม่ถึง อนพัทธ์หลงรักผู้หญิงและโดนหักอกถึงสองครั้ง แล้วเขาก็ต้องชะงัก ผู้หญิงนั้นคงไม่ใช่..
นายอย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนั้นคือ อร
ก็เออสิวะ แล้วแกคิดว่าฉานปายรักแมวที่หนายเสียงอ้อแอ้นั้นยังพอฟังรู้เรื่อง
ก็ไหนแกบอกว่า แกกำลังคบกับเค้าอยู่ไม่ใช่รึ?”
ฉานบอกแกตอนหนายว่าคบกับเค้าอยู่คนเมายังพอมีสติเถียงกลับ
ก็ตอนที่ฉันเจอเขาครั้งแรก แกบอกว่าเค้าเป็นคนพิเศษของแก
ฮึ ช่าย เขาเป็นคนพิเศษของฉาน แต่ฉานม่ายช่าย คนพิเศษของเขา ....ผู้หญิงอะไรวะใจแข็งชะมัดอนพัทธ์พึมพำพลางกระดกแก้วเหล้าอีกครั้ง
ถ้าเขาไม่คิดอะไรกับแก แล้วทำไมเขาต้องถักผ้าพันคอให้แกด้วย?”
ผ้าพานคอหนาย?”
ก็ที่เขาฝากฉันมาให้แกไงวทันยูช่วยฟื้นความทรงจำของเพื่อนที่เริ่มเลือนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
อ้อ ผ้าพานคอนั่นอนพัทธ์พยักหน้าหงึกหงัก
ฉานซื้อไปฝากเพื่อนเขา กะใช้ยัยนั่นเป็นสะพานซะหน่อย  หน็อยทำเป็นเล่นตัว น่าโมโหชะมัด
คนพูดต่อยหวือไปข้างหน้าคล้ายคนที่กล่าวถึงนั่งอยู่ตรงนั้น วทันยูต้องหลบหมัดที่ต่อยมาอย่างสะเปะสะปะนั่น
แล้วเค้าร้องไห้ทำไม?
วทันยูถามอย่างแปลกใจ..ถ้าเธอปฏิเสธอนพัทธ์ก็ไม่น่าจะร้องไห้เสียใจขนาดนั้น
อนพัทธ์ส่ายหน้า ฉานไม่รู้ รู้แต่ว่าเค้าร้องไห้เพราะคนอื่น..ม่ายช่ายฉาน
คนอื่น ใคร?”
อนพัทธ์เมาหลับไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงคำถามที่ค้างคาใจวทันยู เธอร้องไห้เพราะใคร?

วทันยูจัดการลากเพื่อนที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นห้องขึ้นเตียง และลงมือเก็บขวดเหล้าที่ล้มกลิ้งให้เข้าที่ เมื่อมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เพิ่งห้าโมงกว่า ชายหนุ่มตัดสินใจกลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า...ถึงเวลาที่เขาควรจะหาความจริงแล้วใช่ไหมเธอร้องไห้เพราะใคร?

อรปรียาก้าวออกจากลิฟท์ของห้องสมุดเดินตรงไปที่เดิมอย่างคุ้นเคย และแล้วหัวใจเธอก็แทบหยุดเต้นเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่..ที่เดิม...ตรงนั้น เธอกำลังจะหันกลับ แต่เขาหันมาเห็นเธอซะก่อน ทั้งคู่มองตากันอย่างหยั่งเชิงอยู่ครู่ใหญ่ ชายหนุ่มก็เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
เกลียดผมมากจนอยากหนีหน้าเลยหรือ?”น้ำเสียงนั้นแสดงความน้อยใจอย่างชัดเจน
เปล่าสักหน่อย แล้วทัน..เอ่อ..คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดใจ
ผมมารอ.. คำว่า..คุณ..ติดอยู่บนริมฝีปาก อยากเอ่ยออกไปใจแทบขาดแต่ก็กลัวจะเจอความเย็นชาหมางเมินเช่นวันวาน
อรปรียาเบือนหน้าหนี ยิ่งอยากลืมก็ยิ่งเจอ เขาจะมาที่นี่อีกทำไม ในเมื่อมันไม่มี ที่เดิม..ของเราอีกต่อไปแล้ว

วทันยูมองคนที่ยืนอยู่ห่างๆอย่างน้อยใจ เธอเกลียดเขาจนไม่อยากมองหน้ากันเลยหรือไร..เขาไปทำอะไรให้เธอจึงได้เกลียดเขานักหนา....
อ้าวไอ้ทัน...อยู่นี่พอดีเลย ช่วยเราหอบหนังสือกลับหน่อยดิ
ศศิมาหอบหนังสือนิยายกองโตมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าชายหนุ่มอย่างยินดีที่ผู้ช่วยอย่างไม่คาดฝัน โดยไม่รู้สถานการณ์ตรงหน้าเลย
อรปรียาเม้มปากแน่น  ที่ๆเธอเคยนั่งประจำ ถูกเขายึดไปยังพอทน แต่นี่เขากลับพาอีกใครคนมายึดมันไปด้วย..ทนไม่ไหวแล้ว หญิงสาวเดินฉับๆเข้าไปหา ก่อนวางหนังสือลงอย่างแรง จนหญิงสาวอีกคนสะดุ้ง
โต๊ะตัวนี้ฉันจองแล้ว เชิญพวกคุณไปนั่งที่อื่นเธอประกาศความเป็นเจ้าของเสียงแข็ง
ศศิมาหันขวับมามองผู้มาใหม่อย่างเอาเรื่อง แล้วก็ต้องอุทานอย่างแปลกใจ
แฟนไอ้พัทธ์
ฉันไม่ใช่แฟนพัทธ์อรปรียาปฏิเสธอย่างตกใจ
 “ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้พัทธ์ แล้วเมื่อวานคุณร้องไห้เพราะใครวทันยูถามเรื่องที่เขาค้างคาใจทันที
อรปรียาหน้าแดง ทั้งโกรธทั้งอาย เขากล้าถามเธออย่างนี้ต่อหน้าแฟนตัวเองได้ยังไง
ศศิมามองคนนั้นทีคนนี้ที ก็พอจะรู้อะไรขึ้นมาอย่างลางๆ
ฉันกลับล่ะ
จู่ๆคนที่เพิ่งประกาศเป็นเจ้าของโต๊ะก็จะหนีหน้าดื้อๆ ไม่ยอมตอบคำถามนั้น
ผมไปส่ง
ชายหนุ่มฉวยหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว เขาตั้งใจแล้วว่าวันนี้เขาต้องรู้ความจริงให้ได้
ต่อหน้าแฟนคุณนะอรปรียาอุทานอย่างตกใจ
ไม่ใช่แฟนผม / ฉันไม่ใช่แฟนมันวทันยูกับศศิมาปฏิเสธขึ้นพร้อมกัน
อรปรียาตาโตอย่างคาดไม่ถึง แววตาที่งวยงงเริ่มเปล่งประกายอย่างยินดี
เฮ้ยไอ้ทัน ถ้ายังไม่รู้ว่าเธอร้องไห้เพราะใครล่ะก็ นายก็ไปกินหญ้าที่คณะเกษตรเถอะศศิมาตบไหล่เพื่อนเบาๆก่อนจะรวบหนังสือทั้งหมดหอบหนีไป
อรปรียาอ้าปากค้างหน้าแดงก่ำ..ทำไมผู้หญิงคนนั้นไม่ไว้หน้าเธอบ้าง
วทันยูได้ยินดังนั้นก็หัวใจพองโต..แสดงว่าเธอร้องไห้เพราะเขา..เขาอยากจะร้องไชโยออกมาดังๆจริงๆแต่ติดที่ว่าที่นี่คือห้องสมุด จากชายหนุ่มที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่เมื่อสักครู่กลับกลายเป็นคนสดชื่นขึ้นแค่ชั่วพริบตา เขายิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นทำให้คนที่ยืนเผชิญหน้าหัวใจเต้นระรัวจนต้องเมินหน้าหนี
อรร้องไห้เพราะเข้าใจทันผิดใช่ไหมชายหนุ่มถามดวงตาแวววาวดุจดวงดาว
บอกทันสิว่าอรร้องไห้เพราะทันชายหนุ่มคาดคั้นเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบ
แต่คนตรงหน้าแทนที่จะตอบคำถาม น้ำตาใสๆกลับเอ่อล้นขอบตา
 อร คุณอย่าร้องไห้นะ
เสียงละล่ำละลักของเขานั้นเหมือนสั่งให้เธอร้องไห้ออกมา น้ำใสๆไหลอาบสองข้างแก้มทันที วทันยูหันซ้ายหันขวาก่อนจะตัดสินใจคว้าข้อมือเล็กๆนั้นลากไปยังมุมที่ลับตาคน
โชคดีที่ห้องนั้นตอนนี้มีคนอ่านหนังสืออยู่เพียงไม่กี่คน เมื่ออยู่กันตามลำพังชายหนุ่มก็ดึงร่างบางที่ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุดเข้าสู่อ้อมกอดเพื่อปลอบขวัญ
อรปรียาตกใจตัวแข็งทื่อเลิกร้องไห้เป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้สติก็เริ่มดิ้นรน
ปล่อยนะตาบ้า คนฉวยโอกาสหญิงสาวตวาดแว๊ดหน้าแดงก่ำ
ก็อรร้องไห้ทำไมล่ะ รู้ไหมแค่เห็นน้ำตาอร หัวใจทันก็แทบจะขาดแล้ว
ชายหนุ่มว่า แต่เขาก็ยอมปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระอย่างเสียดาย
อรปรียาค้อนขวับ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ยังเหลือค้างบนใบหน้า  วทันยูมองกริยาของคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนหวาน
มองอะไรนักหนาอรปรียาแหว รู้สึกขัดเขินที่ถูกจ้องมองอย่างนี้
มองคนน่ารักชายหนุ่มตอบตาพราว
บ้าหญิงสาวมองค้อน
บ้าก็บ้ารัก
คำพูดนั้นทำให้หน้าใสๆแดงก่ำถึงลำคอ วทันยูมองอาการของคนตรงหน้าด้วยหัวใจฟองฟู อยากจะดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้งแต่ก็กลัวว่าเธอจะโกรธ
เลิกมองได้แล้ว เขินนะ คนเขินมองค้อน
ชายหนุ่มจึงหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข
อรต้องทนเขินหน่อยนะ เพราะตอนนี้ทันบังคับร่างกายของตัวเองไม่ได้
หญิงสาวค้อนขวับ วันนี้เธอขว้างค้อนใส่เขาเกือบโหลแล้วมั้ง
ไปคุยกันที่อื่นดีกว่า เดี๋ยวรบกวนคนอื่นเขาชายหนุ่มเอ่ยชวน พร้อมเอื้อมมือไปคว้ามือบางมากุมไว้แน่น
เดินเองได้ ไม่หลงทางหรอก
หญิงสาวบอก พยายามบิดมือตัวเองออกจากมือใหญ่ แต่ราวกับว่ามือเขาทากาวเอาไว้ บิดยังไงก็ไม่ยอมออก
ไม่ได้กลัวอรหลง แต่กลัวทันหลงต่างหาก รู้ไหมตอนนี้สมองทันมันไม่ยอมทำงานเอาเสียเลยเขาบอกตาพราว
สมองไม่ทำงาน ก็พิการไปแล้วล่ะหญิงสาวมองค้อน
ก็ใช้หัวใจทำงานแทนไงครับชายหนุ่มยิ้มกว้างตาพราวระยิบ
อรปรียาส่ายหน้ายิ้มเขิน หัวใจพองฟู เหมือนกำลังโบยบินอยู่บนปุยเมฆ

อรปรียายอมให้เขาเดินจูงมือไปจนถึงลานจอดรถ ก่อนเขาจะพาเธอไปยังรถของตัวเองและเปิดประตูให้เธอ
แล้วรถอรล่ะ?”
เดี๋ยวค่อยกลับมาเอา เราไปหาอะไรกินกันก่อน ทันมีร้านๆนึงที่อยากพาอรไป
พูดจบเขาก็อ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ และขับรถออกไป


แล้วทำไมทันถึงไม่มาห้องสมุดเลยล่ะ?อรปรียาถามเรื่องที่ค้างคาใจตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมา
ก็ทันคิดว่าอรเป็นแฟนไอ้พัทธ์นะสิ
บ้าสิ ใครเป็นแฟนนายพัทธ์ อรปรียามองค้อน
ทันจะไปรู้เหรอ ก็ไอ้พัทธ์มันบอกว่าอรเป็นคนพิเศษของมัน แถมอรยังฝากผ้าพันคอไปให้มันอีก แล้ววันนั้นที่เราไปกินข้าวด้วยกัน พอไอ้พัทธ์มาอรก็ไปรีบร้อนหนีไปทันทีเลย  ทันน้อยใจแทบตายเลยรู้ไหมชายหนุ่มว่ายิ้มๆ
บ้าสิ..อรเจอเพื่อนอรต่างหาก อรบอกว่าพวกนั้นว่าจะรีบกลับไปอ่านหนังสือด้วยกัน ถ้าเกิดพวกนั้นเห็นอรนั่งเอ้อระเหยอยู่กับทัน มีหวังอรโดนพวกมันเล่นงานแย่แน่ อีกอย่างผ้าพันคอผืนนั้นไม่ใช่ของอรสักหน่อยหญิงสาวอธิบายพลางมองค้อน
ทันรู้แล้ว ไอ้พัทธ์มันสารภาพหมดแล้ว ตอนนี้มันเมากลิ้งอยู่ในห้องแน่ะ
อรปรียาหน้าเสีย จริงเหรอ แล้ว..เขาเป็นอะไรมากไหม?”
คำถามแสดงความห่วงใยนั้นทำให้คนฟังหน้าตึง
อรเป็นห่วงมัน?”ถามเสียงสูงไม่บิดบังความรู้สึก
อรปรียาส่ายหน้ายิ้มๆ เขาเป็นเพื่อนอรนะ อีกอย่างที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะอร
วทันยูถอนใจ ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเกรงใจ
มันว่า มันอกหักเพราะอรสองครั้ง แสดงว่ามันเคยบอกรักอรมาแล้วครั้งนึงใช่ไหม?”
อรปรียามองหน้าเขาอย่างลังเล ก่อนพยักหน้ารับ ตอนม.4 น่ะ
แล้วอรก็ปฏิเสธมัน
ใช่ อรกลัวหนุ่มฮ็อต ทันไม่รู้หรอกว่าตอนมัธยมพัทธ์นะฮ็อตจะตาย สาวๆล้อมหน้าล้อมหลังเต็มไปหมด
แล้วอรไม่ชอบเหรอ ใครๆเขาก็ชอบควงกับหนุ่มฮ็อตกันทั้งนั้น
อรปรียาส่ายหน้า หน้าง้ำ ไม่ชอบ ตอนม.ต้น เพื่อนสนิทของอรเคยเป็นแฟนกับหนุ่มฮ็อตของโรงเรียน แล้วก็โดนกลุ่มสาวๆของเจ้านั่นลากไปตบซะยับเยิน แถมเจ้าบ้านั่นมันยังขอเลิกคบกับเธออีก อรก็เลยเป็นโรคหวาดระแวงนะ
แล้วเธอก็จ้องหน้าเขาเขม็ง แล้ว..ทันแน่ใจนะ ว่าอรจะไม่โดนใครลากไปตบ
วทันยูยิ้มอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมา ก่อนจะกล่าวเสียงหนักแน่น
ใครที่กล้าแตะอรแม้เพียงปลายเล็บ มันจะต้องแหลกคามือทันแน่
อรปรียาสะดุ้งโหยงยิ้มแหย อย่าโหดนักได้ไหม อรกลัวนะ
วทันยูยิ้ม อย่ากลัวเลย เพราะใครที่ทันพูดนั่น รวมถึงตัวทันเองด้วย ถ้าทันทำร้ายอรแม้เพียงปลายเล็บ ทันก็จะไม่มีวันให้อภัยตัวเองด้วยเหมือนกัน
อรปรียาหน้าแดงก่ำ บ่นอุบอิบ ไม่ใช่แค่ปลายเล็บหรอก ทันน่ะ....ทั้งตัวเลยล่ะ
ชายหนุ่มยิ้มกว้างตาพราว นั่นเขาไม่เรียกว่าทำร้ายสักหน่อย เขาเรียกว่าปลอบใจต่างหาก แต่แหม... อรน่าจะร้องไห้นานกว่านี้นะ ทันจะได้กอด เอ๊ย จะได้ปลอบนานๆหน่อย
หญิงสาวฟาดแขนคนข้างตัวอย่างเหลืออด แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะลั่นอย่างมีความสุข

ชายหนุ่มค้นแผ่นซีดีที่เรียงอัดแน่อยู่หน้ารถ ก่อนจะหยิบซีดีแผ่นหนึ่งออกมา
รู้ไหม เพลงที่อรเปิดให้ฟังวันนั้นมันบาดใจทันชะมัด  ทันไม่ชอบเล๊ยไอ้เพลงแนวแอบรักเนี่ย ฟังแล้วมันเศร้าพิลึก นี่มันต้องเพลงนี้
แค่เสียงดนตรีดังขึ้น หญิงสาวก็หน้าแดงก่ำ เอื้อมมือหมายจะปิดเพลงนั้นเสียอย่างเขินจัด แต่คนขับรถกลับละมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมากุมมือเธอไว้ พร้อมหันมาดุเบาๆ
นี่อย่าซนได้ไหม คนเค้าจะฟังเพลง
เพลงอื่นก็มีตั้งเยอะตั้งแยะอรปรียาบ่นอุบอิบ หน้าแดงระเรื่อ
          ********
               ใช่เลย โดนใจฉันเลย ไม่มีมากไป  ไม่มีน้อยไป ถูกใจทุกอย่าง
ใช่เลย  คือเธอแน่นอน บอกกันได้เลย ที่เคยต้องการ ประมาณนี้เลย....ใช่เลย
               * ต้องสวยขนาดนั้น  ต้องหวานขนาดนี้ ทุกอย่างกำลังดี คนนี้ใช่เลย
               อย่าสวยไปกว่านั้น อย่าหวานไปกว่านี้ เอาแค่ที่เธอมี แค่นี้ได้เลย
               ใช่เลย  คือคนนี้เลย ที่รอตั้งนาน ที่ใจต้องการ ประมาณนี้เลย...ใช่เลย
               
                               ***********
เสียงทุ้มร้องคลอพร้อมส่งตาหวานมาเป็นระยะ แต่อีกคนกลับเมินมองออกนอกหน้าต่าง หน้าใสแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด
 จนกระทั่งรถจอดสนิท อรปรียาก้าวลงรถมองดูร้านอาหารอย่างงงๆ ก๋วยเตี๋ยวเรือ ลุงหนวดชายหนุ่มลงจากรถ เดินอ้อมมาจูงมือคนที่ทำหน้างงเข้าไปในร้าน
วันนี้คนไม่แน่เหมือนทุกวัน ชายหนุ่มจดรายการของตัวเองกับของหญิงสาว ก่อนจะจูงมือเธอก้าวไปยังโต๊ะตัวในสุด
ทันมาร้านนี่บ่อยหรือคะ?”อรปรียาเอ่ยถามเมื่อนั่งลงแล้ว
ก็ไม่บ่อย แต่มีความทรงจำดีๆที่ร้านนี้เขาบอก ตาแวววาวอย่างมีความสุข
อรปรียากำลังจะถามแต่เด็กในร้านยกก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟก่อน หญิงสาวตักเครื่องปรุงใส่อย่างละนิดเช่นเคยและต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นคนตรงหน้าตักพริกเกือบเต็มช้อน
ก็ไหนว่า กินเผ็ดไม่ได้ไง?”หญิงสาวอดถามไม่ได้ เพราะเขาเคยบอกในวันที่ไปกินข้าวด้วยกัน
เปล่า เพียงแต่คนที่ทันรัก..เขากินเผ็ดไม่ได้เขาบอกพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น
อรปรียาชะงัก เขารู้ได้ยังไง?  ถ้ารู้จากอนพัทธ์ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้เพราะอนพัทธ์ไม่สนิทกับเธอเลย และไม่เคยไปกินข้าวด้วยกันด้วยซ้ำ
วทันยูมองเครื่องหมายคำถามในตาของคนตรงหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ
สักประมาณสองเดือนก่อน ทันมากินก๋วยเตี๋ยวที่นี่ และนั่งตรงนี่ และวันนั้นคือวันที่ทันมีความทรงจำดีๆที่นี่
อรปรียามองหน้าคนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงหน้าด้วยหัวใจเต้นระทึก เมื่อสองเดือนก่อนเธอก็มากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้แต่นั่งโต๊ะนั้น หญิงสาวชะงัก โต๊ะที่เธอเคยนั่งจะมองเห็นคนที่นั่งโต๊ะนี้ไม่ชัดนักเพราะมีลังใส่แก้วเปล่าวางคั่นไว้
ทันนั่งอยู่ครู่หนึ่งก็มีสาวสวยสี่คนก้าวเข้ามาในร้าน และตามมาด้วยประเทืองหกนาง แถมคุยกันได้มันส์มาก แต่ทันก็เห็นสาวน้อยมัดผมหางม้านั่งอ่านหนังสืออยู่โดยไม่สนใจใคร ยังแอบค่อนในใจว่า สมาธิดีชะมัด แล้วประเทืองนางหนึ่งก็ใช้หนังสือเคาะหัวเธอ  แทนที่จะโกรธ เธอกลับยิ้มกว้าง รู้ไหมว่ารอยยิ้มนั้นทำให้ใครบางที่นั่งอยู่ตรงนี้หัวใจแทบหยุดเต้น ตั้งแต่วันนั้นทันก็นอนฝันถึงเธอคนนั้นทุกคืน
คนเล่าตาเป็นประกายแวววาวอย่างมีความสุข อรปรียาก้มหน้ายิ้มเขินไม่กล้าสบตา จนมือคนที่นั่งตรงข้ามยื่นมาช้อนคางให้เงยหน้าขึ้น
ทันหลงรักเจ้าของรอยยิ้มนั้นทันที  เสียดายแทบตายเมื่อไอ้พัทธ์บอกว่า เธอคือคนพิเศษของมัน  แต่ทันก็ยังบ้าขับรถตามเธอไปถึงห้องสมุด แถมยังแกล้งเดินชนโต๊ะให้เธอหันมามอง อรว่าทันบ้ามากไหม?”
อรปรียาตาโตเมื่อรู้ว่าเหตุการณ์ในห้องสมุดวันนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการจงใจของเขา หญิงสาวคลี่ยิ้มหวานให้คนตรงหน้า เมื่อเขากล้าเปิดใจให้รู้ขนาดนี้แล้วเธอยังจะกลัวอะไรอีก
แล้วทันรู้ไหม ว่าทำไมครั้งแรกที่เราเจอกันอรถึงไม่กล้ามองหน้าทัน
วทันยูชะงักตาโตอย่างคาดหวัง
“เพราะ..?”
เพราะ”คนตอบอึกอักขัดเขิน หน้าแดงก่ำลามไปถึงลำคอ
“เพราะ..?”คนอยากฟังคำตอบถามย้ำ ตาเป็นประกายแวววาวอย่างคาดหวัง
“เพราะ..ไม่กล้ามองนานนะสิ แค่เห็นรอยยิ้มของทัน ใจอรก็สั่นคล้ายๆจะเป็นลม อรจึงต้องทำเมินไม่มอง เพราะกลัวจะทำตัวเปิ่นๆให้ตัวเองขายหน้า
งั้นก็เป็น..รักแรกพบ เหมือนกันใช่ไหม
วทันยูถามเสียงกระซิบอย่างตื้นตัน ไม่ใช่เขาฝ่ายเดียวที่รู้สึกแต่เธอก็เช่นกันไม่ว่าจะเป็นเพราะโลกมันกลม หรือว่าพรหมลิขิต ที่ทำให้เขาได้มาเจอกับเธอ สำหรับเขามันคือปาฏิหาริย์ที่สุดในชีวิต เพราะโลกนี้จะพบคนที่ ใช่ เพียงครั้งแรกที่สบตานั้นหายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก

อรปรียามองอาการตื้นตันของคนตรงหน้าแล้ว ก็อดที่จะยิ้มหวานไม่ได้ เขาอาจจะไม่เลิศเลอเหมือนพระเอกนิยายในโลกจินตนาการที่เธอชื่นชอบ แต่เขาคือพระเอกในชีวิตจริงที่เธอสัมผัสได้ หนทางข้างหน้านั้นอาจจะไม่หวานชื่นตลอดไปและอาจจะไม่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ได้ แต่เธอบอกตัวเองแล้วว่า..ขอแค่ได้สัมผัสกับคำว่า รักสักครั้งในชีวิต ย่อมดีกว่าจินตนาการถึง ความรักจากการอ่านนิยายเป็นร้อยเล่มแล้ว


********The end***************
โปรดติดตาม 'แผนรักร้าย นายกะล่อน'

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น