ตอนที่ 14-2
องค์ราชินีมาลิกาเสด็จสู่ตำหนักพระขนิษฐาในตอนพลบค่ำ
ท่านหญิงมาริยาออกมาต้อนรับหน้าตำหนักเมื่อหญิงรับใช้เข้าไปรายงาน
“เสด็จพี่
ทำไมพระองค์เสด็จมาเองล่ะเพคะ ถ้ามีอะไรให้หม่อมฉันไปเข้าเฝ้าพระองค์ที่วังดีกว่านะเพคะ”พระขนิษฐาเดินเข้ามาประคองดุจน้องน้อยเมื่อยี่สิบปีก่อนที่ยังคงออดอ้อนพี่ใหญ่ไม่เคยเปลี่ยน
“พี่อยากมาเยี่ยมหลาน
ซารีนเป็นอย่างไรบ้าง หมู่นี้ไม่เห็นไปที่วังบ้างเลย?”องค์ราชินีทรงตรัสถามถึงพระนัดดา
พลางซ่อนพระอาการทอดถอนพระทัย
“ฮึ..ทรงทอดพระเนตรเองเถอะเพคะ
วันก่อนก็ตกม้า..หม่อมฉันไม่รู้จะว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรดีแล้ว”พระขนิษฐาส่ายหน้าคล้ายระอา แต่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอิ่มเอม
พาพระนางเจ้าไปประทับพระเก้าอี้ในห้องรับรอง
องค์ราชินีทอดพระเนตรใบหน้าเปี่ยมสุขของพระขนิษฐาก็ได้แต่กล้ำกลืนความทุกข์ระทมไว้องค์เดียว..ถ้าวันนั้นพระองค์ไม่ทรงเลือกเกียรติศักดิ์…คนที่ยิ้มแย้มในวันนี้จะคงเป็นพระองค์เองใช่ไหม?…
เถอะ..ในเมื่อพระองค์ทรงเลือกเอง
พระองค์ก็ต้องทรงยอมรับสิ่งที่พระองค์เลือกแล้วให้ได้…
ฐานันดรอันสูงส่ง
ทำให้คนหลง บ้ามัวเมา
เกียรติยศ ดั่งภาพเงา
มีแต่ความเหงา เปล่าเปลี่ยวใจ
“เสด็จป้า!”
ร่างระหงในชุดกระโปรงพลิ้วไสวที่ถลาเข้ามาเกาะพระพาหาองค์ราชินี
คล้ายนกยูงรำแพนงดงามตระการตา ‘เสด็จป้า’ทรงแย้มสรวลรับ
“เป็นอย่างไรเจ้าตัวร้าย
แม่ของเจ้าฟ้องป้าหลายอย่างเชียว”องค์ราชินีทรงขู่
‘เจ้าตัวร้าย’ย่นจมูกดูน่ารักยิ่ง
“ท่านแม่ชอบว่า หญิงยังไม่ได้ทำอะไรเลย”องค์หญิงน้อยฟ้องกลับ
“อย่าทรงเชื่อเพคะ
เมื่อวานก็ขาเขยกกลับตำหนัก”คนเป็นแม่ฟ้องบ้าง
“นั่นก็เพราะ เจ้าไนลาตกใจที่ท่านแม่ร้องเสียงดังนะคะ”องค์หญิงน้อยแย้ง ที่ตนตกม้าขาเขยกเพราะมารดาต่างหากที่ทำเสียงดังจนม้าตื่นตกใจ
จนสะบัดตนหลังจากหลังของมัน
“ก็ใครให้เจ้าแอบไปขี่ม้าล่ะ”มารดาว่า
ตอนนี้กลายเป็นแม่กับลูกเถียงกันเพื่อให้องค์ราชินีทรงตัดสิน… ว่าใครผิด ใครถูก
องค์ราชินีทรงแย้มสรวลอย่างอิ่มเอมพระทัย…คงมีแต่ที่นี่กระมังที่ทำให้พระองค์รู้สึกสบายพระทัยได้..แต่เมื่อทรงระลึกถึงพระราชกิจที่ทรงเสด็จมาที่ตำหนักนี้
ก็ต้องทอดถอนพระทัยอีกครั้ง
“เจ้าไปทำบาคลาวาให้ป้าลองชิมหน่อยสิ
ฝีมือเจ้าพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า?”องค์ราชินีรับสั่ง
เพื่อกันพระนัดดาออกจากวงสนทนากับพระขนิษฐา
“เพคะ รับรองว่าเสด็จป้าต้องติดพระทัยแน่ๆ”องค์หญิงน้อยรับรองฝีมือตนเอง ก่อนจะถอนสายบัวอย่างงดงาม
และกลับเข้าตำหนักด้านในอย่างร่าเริง
องค์ราชินีถอนพระทัย ก่อนจะตรัสเบาๆกับพระขนิษฐา
“องค์ซีมา ตรัส
อยากให้เราจัดพิธีเสกสมรส ระหว่างอัลลามกับซารีน”
“อะไรนะเพคะ!”ท่านหญิงมาริยาตกใจยิ่ง…ซารีนยังเด็กนัก…แม้จะถูกเลี้ยงดูเพื่อให้เพชรยอดมงกุฎ…แต่คงไม่มีพ่อแม่คนไหนยินดี…ที่จะให้ลูกจะไปเพชรประดับบนมงกุฎ..ชีคเสเพลหรอก
“แต่ซารีนยังเด็กเกินไป”ท่านหญิงแย้ง
“พี่รู้”องค์ราชินีถอดถอนพระทัย
“แต่ดูเหมือนว่าคณะรัฐมนตรีจะบีบให้องค์ซีมาเปลี่ยนรัชทายาท”
ท่านหญิงมาริยาแอบถอนใจ …ใช่
ตนเองก็เพิ่งปรึกษากับพระสวามีในเรื่องนี้…เรื่องที่ทั้งราชสำนักต่างต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลง…และตนเองก็ยินดีมากกว่า…ถ้าลูกน้อยจะได้เป็นเพชรยอดมงกุฎของอซีซา..
มิใช่อัลลาม….แต่องค์ราชินีเล่าจักทรงทำฉันใด
“หม่อมฉันขอปรึกษาท่านพี่ก่อน”พระขนิษฐาต่อรอง ด้วยไม่อาจหักหาญน้ำพระทัยพระพี่นาง
“พี่เข้าใจ…นึกถึงซารีนให้มาก…อย่าให้หลานเหมือนพี่”ประโยคสุดท้ายแผ่วเบาคล้ายรำพึงกับพระองค์เอง
“พี่จะยื้อเรื่องเอาไว้ให้นานที่สุด..ตกลงกันได้แล้วค่อยบอกพี่”องค์ราชินีตรัส
ด้วยรู้ เกียรติศักดิ์
มิอาจเทียบ รักสมัครสมาน
ด้วยรู้ ใจที่ร้าวราน
มิอาจผสาน ด้วยฐานันดรใด
“พี่จะกลับก่อน
ให้คนส่งบาคลาวาไปให้พี่ที่วังก็แล้วกัน”
องค์ราชินีรับสั่ง
ก่อนจะเสด็จออกจากตำหนักโดยมีพระขนิษฐาตามส่งเสด็จ ด้วยความหนักใจ…จักทำฉันใดดี..ถ้าไม่ทำตามพระกระแสรับสั่ง
ก็จะเป็นการขัดพระบรมราชโองการ…แต่ถ้ายอม…แล้วชีวิตลูกน้อยจักเป็นฉันใด
“องค์หญิงเพคะ องค์หญิง”เฮบานางกำนัลต้นห้องที่สนิทสนมดุจพี่น้องกระซิบเรียกอยู่ใกล้ๆ
“มีอะไรรึ? ทำไมต้องกระซิบด้วย”องค์หญิงซารีนลดสรุเสียงลงตาม เนื่องจากในห้องเครื่องมีคนครัวอยู่มากมายและอาจจะตะแคงหูรอคาบข่าวไปฟ้องมารดาอยู่ก็ได้
“องค์หญิงรามือสักครู่เถอะเพคะ
หม่อมฉันมีข่าวใหญ่จะรายงาน”เฮบาลดเสียงให้เบาลงอีก
จนเจ้าหญิงซารีนต้องตะแคงพระกรรณฟัง
“ออกไปข้างนอกเถอะเพคะ”นางกำนัลเร่ง
องค์หญิงพยักพระพักตร์ก่อนจะหันไปสั่งคนครัว “เจ้าช่วยดูต่อให้เราด้วย”
“มีอะไรลึกลับนักหนา เฮบา?”องค์หญิงตรัสถามหลังจากถูกอีกฝ่ายฉุดลากมาไกล จนไร้ผู้คน
“หม่อมฉันมีอะไรจะทูลเพคะ”เฮบาตอบพลางหันซ้ายหันขวาให้แน่ใจว่าปลอดคน
“มีอะไรก็ว่ามาสิ
เราต้องไปดูบาคลาวาให้เสด็จป้านะ”องค์หญิงทรงเริ่มหงุดหงิดเมื่ออีกฝ่ายยังไม่ยอมบอกว่าฉุดตนมาทำไม
“ก็หม่อมฉันได้ยิน
พระราชินีทรงรับสั่ง…”เฮบาหยุดกลืนน้ำลาย ด้วยรู้ดีว่า
ไม่ควรจะ…แอบฟัง
“เรื่องอะไร?”เจ้าหญิงซารีนเริ่มพระทัยเสีย
“เรื่อง..จะให้องค์หญิงเสกสมรสกับชีคอัลลามเพคะ”เฮบาทำหน้าเหยเกแทนผู้เป็นนาย
ด้วยรู้ดีว่าบุรุษที่เอ่ยถึงเป็นที่โจษจันแค่ไหนในดรูไรดาราน
“อะไรนะ!”เจ้าหญิงซารีนอุทานพระพักตร์ซีดเผือด…จะให้แต่งงานกับชีคอัลลามนี่นะ…เป็นตายยังไงก็ไม่แต่ง
“เจ้าได้ยินจริงรึ เฮบา?”เจ้าหญิงทรงคาดคั้นอย่างร้อนพระทัย
“แน่เพคะ หม่อมฉันถึงได้รีบมาทูลองค์หญิงให้ทรงทราบอย่างไรล่ะเพคะ”นางกำนัลรับรองแข็งขัน เรื่องการข่าวไม่มีใครเกินตนได้แน่
“เราจะไปหาท่านแม่”เจ้าหญิงซารีรับสั่ง
“ไม่ได้นะเพคะ”เฮบาห้ามเสียงหลง
“ทำไมจะไม่ได้..ท่านแม่จะยอมให้เราแต่งกับชีคเสเพลนั่นได้อย่างไร”องค์หญิงทรงกริ้ว
“แต่ถ้าองค์หญิงไปถามท่านหญิง
หม่อมฉันจะต้องโดนทำโทษแน่ๆเพคะ”หน่วยข่าวว่าน้ำตาคลอ
เจ้าหญิงซารีชะงัก จริงสิ ถ้าไปถาม
ท่านแม่ต้องรู้ว่าเฮบาแอบฟังแล้วเอามาฟ้องแน่..แล้วจะทำอย่างไรดี?
“เราจะทำอย่างไรกันดีเฮบา ..เราไม่อยากแต่งงานกับชีคอัลลาม”องค์หญิงทรงปรับทุกข์
“เพคะ”เฮบาตอบรับอย่างเข้าใจผู้เป็นนาย…
ผู้หญิงทั้งดรูไรดารานล้วนไม่อยากแต่งงานกับชีคอัลลามทั้งนั้น …ยกเว้นแต่พวกที่เห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองจึงจะยอมพลีกายเพื่อแลกกับสมบัตินอกกายเหล่านั้น
“จริงสิ
ถ้าเราหนีไปหาท่านยายที่อเล็กซานเดรียล่ะ”องค์หญิงตาเป็นประกายอย่างนึกได้
ท่านยายดูริยา มีพลานามัยไม่ค่อยแข็งแรง
จึงหนีอากาศอันร้อนระอุไปซื้อบ้านพักตากอากาศที่เมืองอเล็กซานเดรีย
ถ้าหนีไปพึ่งท่านยายเสด็จป้ากับท่านแม่ก็ไม่อาจทำอะไรได้.แม้แต่องค์ซีมายังต้องเกรงใจ..
เจ้าหญิงซารีนคิดอย่างหมายมาด…หนีไปตายเอาดาบหน้ายังดีกว่าจะต้องแต่งงานกับชีคเสเพลที่มีนางในฮาเล็มนับร้อย
“แต่เราจะหนีไปอย่างไรเพคะ?”
เฮบาถามอย่างกังวลใจ
ด้วยความที่ชินกับการอยู่ในกรอบรั้วแคบๆของพระราชวัง
แม้จะเคยออกไปข้างนอกบ้างก็ล้วนแต่มีองครักษ์ติดตามอย่างใกล้ชิด…แต่หนี..หมายถึงต้องไปผจญภัยกันเพียงลำพัง…แล้วผู้หญิงสองคนที่ไม่เคยอยู่นอกวังเลย..จะใช้ชีวิตกันอย่างไร
“ได้สิน่า…เราต้องวางแผนกันให้ดีก่อน”องค์หญิงคิดอย่างนึกสนุก…โลกในวังช่างแคบนัก
อยากลองใช้ชีวิตนอกวังมานานแล้ว
“เอาฟาริคไปด้วยไหมเพคะ?”นางกำนัลถามถึงองครักษ์ที่คอยตามอารักขาไม่ห่าง
“ไม่ได้
เดี๋ยวฟาริคก็ไปฟ้องเสด็จพ่อหรอก”เจ้าหญิงพระพักตร์บึ้งด้วยรู้ดีองครักษ์รายนั้นจงรักภัคดีต่อชีคอามัลแค่ไหน
“เจ้าไปหาข่าวสิว่า
วันสองวันนี้จะมีกองคาราวานจะออกจากดูรฮาลไปต่างเมืองไหม?”เจ้าหญิงทรงเริ่มแผนการ
“แล้วอย่างไรเพคะ?”นางกำนัลซักเพราะชักจะตื่นเต้นตาม
“เราจะปลอมตัวปะปนไปด้วย
ถ้าออกจากดูรฮาลได้ เรามีทางจะไปอเล็กซานเดรียได้แน่”เจ้าหญิงแน่พระทัยทั้งๆที่ไม่เคยรู้เลยว่าโลกภายนอกนั้นโหดร้ายแค่ไหน
“เพคะ
หม่อมฉันจะหาข่าวมาให้ละเอียดเลย”นางกำนัลรับคำ รีบออกไปปฏิบัติภารกิจของตนทันที..จากนี้ไปจะได้โบยบินออกไปสู่โลกกว้างสักที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น