ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง จารกรรม นำรัก ตอนที่ 11



ตอนที่ 11 เจ้านายจอมกวน

ศศรานีขับรถมาที่ออฟฟิศด้านในของสเปซมาร์สด้วยความกระตือรือร้นต่างจากเมื่อวานนี้อย่างลิบลับ เพราะเธอมีจุดมุ่งหมายในใจ ทีเคไททันลูกรักคนที่สอง เธอจะต้อง(แอบ)เรียนรู้ให้มากที่สุด แล้วกลับไปสร้างดาวเทียมของตนเองขึ้นมาใหม่ เมื่อมีจุดหมาย ไฟแห่งความกระตือรือร้นก็ถูกจุดขึ้น เธอจะต้องทำได้ แถมยังมีผู้ช่วยอีกมากมาย เธอจะต้องกลัวอะไร หญิงสาวคิดอย่างฮึกเหิม
เมื่อจอดรถแล้ว หญิงสาวก็หิ้วกระเป๋าใส่ของใช้ส่วนตัวกระเป๋าเล็กๆพร้อมกับกระเป๋าสะพายไหล่ใบเล็กเดินตรงไปยังทางเข้าออฟฟิศ ด้านหน้าออฟฟิศมีผู้ชายยุโรปตัวใหญ่ยืนรอเธออยู่
“สวัสดีครับ มิสวอ ระ ริด ธรี นัน ผมอีวานโลออฟ เป็นผู้ช่วยมิสเตอร์ไวด์เดอร์”
ชายหนุ่มคนนั้นทักทายและแนะนำตัวพร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร

“สวัสดีค่ะ มิสเตอร์โลออฟ เรียกฉันว่าซาซ่าก็ได้ค่ะ ชื่อสกุลฉันค่อนข้างเรียกยากสักหน่อย”
หญิงสาวเองก็ยิ้มทักทายเขา พร้อมกับบอกให้อีกฝ่ายเรียกชื่อที่เพื่อนชาวต่างชาติใช้เรียกกัน เพราะนามสกุลเธอค่อนข้างจะเป็นปัญหาในการออกเสียงของคนต่างชาติ
“ยินดีที่ได้รู้จักครับซาซ่า งั้นคุณเรียกผมว่าอีวานก็ได้ เราคงจะได้ร่วมงานกันอีกนาน”อีวานบอกอย่างเป็นกันเอง
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะอีวาน”ศศรานีกับมือทักทายกับอีกฝ่าย รู้สึกดีเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้กวนประสาทเหมือนเจ้านายของเขา
“มิสเตอร์ไวด์เดอร์ให้ผมเอาบัตรประจำตัวมาให้ พร้อมกับแนะนำวิธีการใช้งาน และวิธีเข้าออกตึกนี้แก่คุณ”ชายหนุ่มบอกถึงเหตุผลที่เขาจะต้องมายืนรออีกฝ่ายถึงหน้าตึก
“อ้อ ขอบคุณในความกรุณาค่ะ”หญิงสาวก้มหัวให้เขาอย่างขอบคุณอีกฝ่าย
“ด้วยความยินดีครับ”อีกฝ่ายก้มหัวตอบ
“เราเข้าออฟฟิศกันเลยนะ”เขาชวน พร้อมกับยื่นบัตรประจำตัวให้เธอ
จากนั้นเขาก็อธิบายถึงวิธีใช้งาน พร้อมกับยื่นเอกสารที่เป็นรหัสผ่านให้หญิงสาวซึ่งเป็นรหัสตัวเลขถึงสิบห้าหลัก แต่ไม่เป็นปัญหากับอัจฉริยะด้านไอทีอยู่แล้ว หลังจากเข้าไปในตึกเขาก็อธิบายถึงโซนต่างๆในตึก พร้อมกับบอกเขตหวงห้ามไม่ให้คนที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปได้ พร้อมทั้งบอกข้อควรปฏิบัติเมื่ออยู่ในตึกที่มีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะพาเธอไปส่งยังโต๊ะทำงาน ที่อยู่หน้าห้องข้างๆโต๊ะของเลขาหน้าคงแก่เรียนที่พาเธอมาเมื่อวานนี้
“ฉันจะต้องนั่งที่นี่หรือคะ?”
หญิงสาวถามให้แน่ใจ ก็เธอไม่ใช่เลขาของเขาเสียหน่อย ทำไมจะต้องมานั่งเป็นดอกไม้ประดับหน้าห้องของเขาด้วย ก็ไหนว่าจะให้มาช่วยเขียนโปรแกรมไม่ใช่หรือไง
“มิสเตอร์ไวด์เดอร์สั่งไว้ครับ”
มือขวาบอก เขาได้รับคำสั่งมาเช่นนั้น แม้จะไม่เข้าใจเจ้านายแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ถาม แต่เมื่อเห็นหญิงสาวที่เจ้านายระบุให้ย้ายออฟฟิศกะทันหันเขาก็ชักไม่แน่ใจว่า เจ้านายจะแปลงร่างเป็น สมภารกินไก่วัดแล้วหรือไร
คนที่ได้รับคำสั่งให้นั่งอยู่หน้าห้องได้แต่ขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เขาคงอยากให้เธออยู่ใกล้ๆเพื่อจะได้แกล้งได้ง่ายๆเท่านั้น แค่เมื่อวานก็รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดีชอบแกล้งคนอื่น พวกชอบเห็นคนอื่นมีทุกข์คนซาดิสม์
“ตอนนี้มิสเตอร์ไวด์เดอร์ไม่อยู่ออกไปข้างนอก เดี๋ยวผมจะเอางานมาให้คุณทำฆ่าเวลา ก่อนที่เขาจะกลับมา”อีวานบอก
“ค่ะ”
ศศรานีรับคำก่อนจะหันไปทักทายคนที่นั่งหน้าตายอยู่ข้างๆ หลังจากพยายามผูกมิตรอยู่ครู่ใหญ่เธอจึงได้รู้จักชื่ออีกฝ่ายว่า จอห์น และดูท่าทางก็รู้ว่าเขาจะไม่ชอบสักเท่าไรที่เธอมานั่งเสนอหน้าอยู่ข้างๆเขา
อีวานกลับออกมาจากห้องของเขาพร้อมกับเอกสารปึกหนึ่ง เขาบอกว่าอยากให้เธอลองเขียนโปรแกรมขึ้นมาสักโปรแกรมให้เขาดูก่อน เขาจะได้ประเมินว่าเธอควรจะทำงานในส่วนไหนในออฟฟิศนี้ แล้วเขาก็ให้โจทย์กับเธอ จากนั้นก็กลับไปทำงานในห้องของตนเอง

สิบนาฬิกา ลีโอนาร์ดก็กลับเข้าออฟฟิศหลังจากที่ออกไปจัดการลากน้องสาวกลับบ้าน พร้อมกับสั่งบอดีการ์ดโขยงหนึ่งติดตามเธอราวกับนักโทษฉกรรจ์ โดยไม่สนใจเสียงประท้วงโวยวายของอีกฝ่าย เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้น้องสาวตนไปยุ่งกับไอ้ผู้ชายหยิ่งยโสอย่างนั้นแน่
และเมื่อมาถึงห้องทำงาน เขาก็เห็นคนที่เขาสั่งย้ายกะทันหันกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ และดูเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะดึงดูดเธอจนไม่สนใจสิ่งรอบข้างแม้กระทั่งเขาที่ไปยืนชะโงกหน้าอยู่ไม่ห่าง และทำให้คนที่เคยเป็นจุดสนใจของทุกคนหงุดหงิดใจอย่างยิ่ง
“ทำอะไรอยู่?”
เสียงถามดังกระหึ่มอยู่บนหัว ทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนโปรแกรมสะดุ้งตกใจ และเมื่อเงยหน้าขึ้นก็เจอหน้าใบหน้าบูดบึ้งของคนที่มายืนค้ำหัวมองมาอย่างหงุดหงิด
ศศรานีถอนหายใจยาวพยายามจะปรับอารมณ์ที่กรุ่นขึ้นมาเพราะคนที่เข้ามาขัดจังหวะการทำงานของตน ก่อนจะตอบคำถามเจ้านายเจ้าอารมณ์ตรงหน้าเสียงเรียบ
“ทำงาน”ตอบสั้นๆ ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อโดยไม่สนใจใครอีก
แต่คนที่ไม่เคยถูกเมินมีหรือจะยอมให้ใครมาเมินใส่ตนได้ เขาดึงเอกสารในมือที่หญิงสาวกำลังก้มหน้าก้มตาอ่านมันขึ้นมาอ่านดูบ้าง
“เอ๊ะ!
คนที่โดนขัดจังหวะอีกครั้งร้องประท้วง พร้อมกับเม้มปากมองคนที่มากวนตาวาว จะหาเรื่องกันใช่ไหม?
คนที่เข้ามากวนคนอื่นมองตอบอย่างท้าทาย เขาจะดูเสียอย่าง จะทำไม
“เอาคืนมานะ ฉันกำลังทำงาน”คนโดนแย่งงานไปบอกเสียงแหว ไม่สนใจหรอก ก็เป็นเพียงเจ้านายชั่วคราวเท่านั้นใครจะไปเกรงใจ
“ใครเอามาให้”เจ้านายชั่วคราวถาม แต่ยังไม่ยอมคืนงานให้
“คุณอีวานค่ะ”คนโดนแย่งงานตอบเสียงแข็ง
“คุณอีวาน?”
อีกฝ่ายถามเสียงสูง เพิ่งเจอกันไม่ใช่หรือ ทำไมถึงเรียกมือขวาของเขาสนิทสนมขนาดนั้น ทีกับเขา มิสเตอร์ไวด์เดอร์ เรียกซะห่างเหิน ทั้งๆที่เขาบอกว่าให้เรียก ลีโอ แต่ไม่เห็นจะยอมเรียกชื่อของเขาเลย
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำ ไม่เข้าใจอีกฝ่ายจะถามเสียงสูงไปทำไม ก็ตัวเองสั่งเองไม่ใช่หรือไง โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีปัญหาเรื่องงานที่เธอได้รับ แต่มีปัญหาที่เธอเรียกมือขวาอย่างสนิทสนมต่างหาก
“ต่อไปให้เรียกว่า มิสเตอร์โลออฟ”เจ้านายสั่งอย่างเอาแต่ใจ
คนที่ถูกสั่งทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะมีปัญหาทำไม ก็อีวาน โลออฟ บอกให้เธอเรียกเขาว่า อีวานนี่นา
“ทำไม? หรืออยากเรียกอีวาน?”คนพาลเริ่มหาเรื่อง
“เปล่าค่ะ”
คนที่ถูกหาเรื่องปฏิเสธ ไม่เข้าใจว่าเขาจะมาสนใจเรื่องไร้สาระพวกนี้ทำไม แล้วเมื่อไรจะคืนงานให้เธอเสียที เธอจะได้เริ่มทำงาน ขี้เกียจทะเลาะกับคนไม่มีเหตุผล
“แล้วก็เรียกผมว่า ลีโอ”คนไม่มีเหตุผลสั่งต่อ
“ทำไมฉันจะต้องเรียกคุณว่าลีโอ ก็ในเมื่อคุณบอกให้ฉันเรียกคุณอีวาน ว่ามิสเตอร์โลออฟ?”คนรับคำสั่งถามอย่างกังขา
“ก็มันไม่เหมือนกัน”คนสั่งตอบ
“ไม่เหมือนกันตรงไหน?”คนถามซัก
“ก็อีวานกับคุณเพิ่งรู้จักกันไม่ได้สนิทกัน ดังนั้นคุณจะต้องเรียกเขาว่ามิสเตอร์โลออฟ”คนตอบให้เหตุผล
“แต่ฉันกับคุณก็เพิ่งรู้จักกันเช่นกัน”คนที่เพิ่งจะรู้จักกันแย้ง
“ผมกับคุณรู้จักกันแล้วตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แถมยังไปทานอาหารด้วยกันอีก เราไม่สนิทกันตรงไหน?”
คนตีสนิทแย้งหน้าซื่อ แต่แววตาเจ้าเล่ห์ แต่ถ้าอยากจะ สนิทมากกว่านี้เขาก็ไม่ขัดข้องหรอกนะ ยินดีจัดให้ เดี๋ยวนี้เลยก็ยังได้
คนที่เถียงใครไม่ค่อยทันได้แต่กัดฟันอย่างโกรธกรุ่น เพราะคิดไม่ออกว่าจะเถียงคนลื่นไหลอย่างไรดี
เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธคนที่เข้ามาหาเรื่องก็อารมณ์ดีขึ้นทันใด นี่เขาเป็นพวกซาดิสม์หรือไงนะถึงชอบเห็นคนอื่นเจ็บปวด แต่เขาก็เพิ่งจะเป็นนะ ก็เธอโกรธแล้วน่ารักยิ่งกว่าตอนทำหน้าเย็นชานี่นา แก้มใสๆ แดงเรื่อมองแล้วเหมือนแอปเปิ้ลกำลังสุก น่าจะลองกัดดูสักคำว่าจะหวานกรอบดีไหม
“ไม่ต้องทำแล้วงานนี้ นี่มันงานเด็กๆ เดี๋ยวตามผมเข้าไปในห้อง ผมจะหางานใหม่ให้ทำ”
เจ้านายสั่ง ก่อนจะโยนเอกสารปึกนั้นไปที่โต๊ะเลขาที่อยู่ข้างๆ เป็นความหมายว่าเก็บมันไปไกลๆ เลขาที่รู้ใจเจ้านายก็รีบเก็บเอกสารปึกนั้นเข้าตู้ที่อยู่ข้างตัวทันใด คนที่นั่งมองเหตุการณ์ได้แต่กรอกตา โปรแกรมที่ตนนั้นลงมือเขียนเกือบจะเสร็จกลับถูกโยนทิ้งเสียอย่างนั้น ถ้าบอกว่า งานเด็กๆจะเอามาให้เธอทำตั้งแต่แรกให้เสียเวลาทำไม
ศศรานีจำต้องเดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องด้วยใบหน้าบูดบึ้ง เธอจะกลายเป็นโรคความดันโลหิตสูงกับโรคหัวใจไหมหลังจากที่ออกจากที่นี่ไปแล้ว แถมอาจจะได้โรคเครียดเพิ่มขึ้นมากอีกโรคหนึ่งก็เป็นได้ ไม่ได้การล่ะ จะต้องขอให้ปรายฟ้าส่งยารักษาโรคทั้งสามมาให้ก่อน กันไว้ดีกว่าแก้ คนที่จำต้องอดทน เพราะกรรมที่ตนก่อ คิดหาวิธีป้องกันตนเองจากโรคร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะเจอเจ้านายร้ายกาจเข้า
ลีโอนาร์ดลอบมองคนเดินตามที่ทำหน้าบึ้งก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่พอใจกับคำสั่งของเขานัก แต่ก็ขัดไม่ได้ จึงทำได้แค่เพียงโมโหฮึดฮัดอยู่คนเดียว เห็นแล้วก็ยิ่งกระตุ้นให้คนอยากแกล้งยิ่งขึ้น ก็แสดงออกขนาดนั้นเป็นใครบ้างจะไม่อยากแกล้งเล่น
ชายหนุ่มเดินไปลากเก้าอี้ที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานมาวางไว้ใกล้ๆเก้าอี้ทำงานของตนเอง พร้อมกับกวักมือเรียกคนที่ยืนเม้มปากแน่นอยู่ไม่ห่างให้มานั่งลง จากนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ทำงานของตนเองอย่างสบายใจเฝ้ามองคนที่เดินลากเท้ามานั่งตามคำสั่งพร้อมรอยยิ้มของผู้ชนะ จากนั้นก็เปิดคอมพิวเตอร์พลางครุ่นคิดว่าจะหางานอะไรให้คนที่นั่งหน้างออยู่ข้างๆทำดี
ศศรานีนั่งมองคนที่นั่งทำงานของตนโดยไม่ยอมสั่งงานเธอสักทีอย่างหงุดหงิด ผ่านมาแล้วเกือบครึ่งชั่วโมงคนที่สั่งให้เดินตามเข้ามารับงานก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะให้เธออะไร นอกจากมานั่งดูเขาทำงานของตนเองเฉยๆ ตกลงว่าเขาแค่อยากจะกวนประสาทเธอเล่นแค่นั้นใช่ไหม
“กำลังหางานให้อยู่ ใจเย็นๆ”
คนที่นั่งทำงานของตนอยู่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจะอ้าปากถาม คนที่ถูกรู้ทันจึงมองค้อน แต่ก็ยอมนั่งสงบนิ่งต่อไป
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง งานที่ว่า กำลังหาอยู่ยังหาไม่ได้สักที และคนที่นั่งรอก็หมดความอดทน
“มิสเตอร์ไวด์เวอร์”ศศรานีเรียกเจ้านายเสียงเขียว
“ลีโอ”อีกฝ่ายเอ่ยแก้อย่างใจเย็น แต่ตายังจ้องหน้าจอมอนิเตอร์
“มิสเตอร์ไวด์เดอร์”อีกฝ่ายยืนยันที่จะเรียกอย่างเดิม
ลีโอนาร์ดถอนหายใจกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย อยากได้ความสนิทสนมใช่ไหม ได้..เขาจัดให้ และก่อนที่ริมฝีบางจะได้เอ่ยประท้วงประโยคต่อไปริมฝีปากหนากว่าก็ประกบลงอย่างถนัดถนี่ แถมมือใหญ่ยังรั้งต้นคออีกฝ่ายไว้ไม่ให้ถอยหนี จากนั้นเรียวลิ้นเชี่ยวชาญก็รุกไล่ลิ้นเล็กลิ้นที่ไม่มีทางหนีให้ยอมจำนน
คนที่ถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัวได้แต่เบิกตากว้างยิ่งกว่าไข่ห่าน เริ่มเจ็บหน้าอกเพราะลืมหายใจ ตัวก็นิ่งแข็งคล้ายดังรูปปั้น
“หายใจทางจมูกสิ”
คนที่จู่โจมถอนริมฝีปากออก พลางบอกคนที่นั่งนิ่งใบหน้าไร้สีเลือดให้หายใจเพราะกลัวอีกฝ่ายจะหมดสติไปเพราะขาดออกซิเจน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และการค้นพบในครั้งนี้ทำให้คนที่บดจูบลงอีกครั้งอิ่มเอมใจอย่างประหลาด คราวนี้เขาบรรจงจูบเธออย่างแผ่วเบาเพื่อสอนประสบการณ์ให้สมันน้อยไร้เดียงสาได้รู้จักกับรสจุมพิตที่หวานล้ำน่าประทับใจสมกับเป็นจุมพิตแรกของเธอ
แต่คนที่แข็งค้างหาได้รู้สึกหวานล้ำสมกับอีกฝ่ายบรรจงมอบให้ไม่ เพราะสมองของเธอเกิดอาการชัทดาวน์ไปแล้ว ไม่สามารถรีสตาร์ทสมองขึ้นมาใหม่ได้ในขณะนี้
และเมื่อชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก เขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งคล้ายกับช็อกไปแล้ว   เด็กหนอเด็ก  แค่โดนจูบ ยังถึงกับช็อก ถ้าเขาทำอะไรมากกว่านี้ไม่หัวใจวายไปเลยหรือไง  คนที่ล่วงละเมิด เด็กคิดอย่างปลงๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะค่อยๆสอน มีครูเก่งๆอย่างเขารับรองไม่นานก็เก่งเอง
คนที่วางแผนจะกินเด็กคิดอย่างครึ้มใจ จากนั้นก็ก้มหน้าทำงานของตนต่อไป ปล่อยให้คนที่กำลังช็อกให้สติกลับมาเอง อยากรู้นักว่าพอได้สติแล้วจะต่อว่าเขาอย่างไร
กว่าคนที่ช็อกไปจะได้สติกลับมาก็ครู่ใหญ่ พอได้สติหญิงสาวก็ขมวดคิ้วครุ่นคิด เมื่อสักครู่เขาทำอะไรกับเธอ แค่เขาเอาปากประกบปากเธอทำไมสมองของเธอถึงว่างเปล่าขาวโพลนอย่างนั้น หรือว่าเขาเป็นพวกมนุษย์ไฟฟ้าที่สามารถสูบพลังงานไฟฟ้าไปจากคนอื่นได้ เมื่อเขาสูบพลังงานไฟฟ้าในตัวของเธอไปจนหมด ทำให้สมองของเธอมีไฟฟ้าไม่พอเพียงจนชัทดาวน์ลงกะทันหัน
คนที่รู้จักและคุ้นเคยกับอาการของคอมพิวเตอร์เริ่มวิเคราะห์หาสาเหตุของอาการสมองตัวเองที่ออเร่อไปชั่วขณะตามแบบฉบับอัจฉริยะทางไอที
“ได้สติแล้วรึ?”
คนที่สูบพลังงานไฟฟ้าไปจากคนอื่นถาม เมื่อเห็นอีกฝ่ายได้สติแถมยังมองหน้าตนอย่างคนคว้า ตาใสคู่นั้นมีเครื่องหมายคำถามฉายชัด จนคนถามอดอมยิ้มไม่ได้ เด็กหนอเด็ก ช่างใสซื่อไร้เดียงสาจริงๆ
“คุณ..คุณทำอะไร?”คนไร้เดียงสาถามกลับตาโต
“ไม่รู้เหรอ? ผมจะทำซ้ำให้ดูอีกรอบดีไหม?”
คนที่ชอบ ทำมากกว่าพูด..ยื่นหน้าเข้าไปใกล้เด็กไร้เดียงสาหมายจะมอบบทเรียนใหม่ให้เด็กอนุบาลทางเพศศึกษาได้เรียนรู้เพิ่มเติม แต่แล้วเขาก็ต้องผงะไปเพราะหมัดที่ลอยมากระทบใบหน้าเต็มแรง
คนปล่อยหมัดกระเด้งตัวถอยไปยืนอยู่ในระยะปลอดภัยในทันใด ถึงแม้เธอจะไม่ได้เก่งกาจเรื่องการต่อสู้ แต่คนของทีเคกรุ๊ปทุกคนจะต้องผ่านหลักสูตรต่อสู้มาด้วยกันทั้งนั้น แล้วใครจะปล่อยให้คนอื่นมาชัทดาวน์สมองตนเองง่ายๆเล่า
ลีโอนาร์ดหันไปมองคนที่ต่อยเขาอย่างไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตื่น หนีไปยืนอยู่ห่างๆและมองมาทางเขาอย่างระแวง เขาก็ต้องถอนหายใจยาว สงสัยเขาจะทำให้ สมันน้อยตื่นกลัวแล้วกระมัง
“กลับมานั่งนี่เถอะ”เขาบอกง่ายๆ
แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าทันใด “ไม่”
คำตอบหนักแน่น พร้อมมองหน้าเขาอย่างระแวง ใครจะอยากไปอยู่ใกล้ๆคนที่พร้อมกระโจนขย้ำตนเองล่ะ
ลีโอนาร์ดเหลือบมองสมันน้อยที่ส่ายหน้าปฏิเสธที่จะเข้าใกล้ตนก็ส่ายหน้ายิ้มๆ สงสัยเขาจะก้าวข้ามขั้นเร็วไปหน่อย เหยื่อจึงตื่นตัว แต่ไม่เป็นไรหรอก เด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างนั้นจะระแวงเขาไปได้สักกี่วันกัน
เมื่อคิดจะทำให้อีกฝ่ายตายใจ สิงห์ร้ายก็ไม่ทำท่ารุกไล่ต่อ เพียงแต่สั่งงานและปล่อยให้อีกฝ่ายกลับออกไปทำงานของตน เมื่อนั่งอยู่ตามลำพังเขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก อืมรสชาติสมันน้อยไร้เดียงสานี่ไม่เลวจริงๆถ้าได้ชิมทั้งตัว เนื้อคงจะนุ่มหวานละมุนลิ้นแล้วเขาจะทำอย่างไรจึงจะได้ชิมเนื้อสมันน้อยตัวนี้ทั้งตัวนะ

สิงโตหนุ่มคิดวางแผนที่จะจับสมันน้อยกินเป็นอาหารหลังจากที่ได้ทดลองชิมแล้วก็ติดใจ แต่สมันน้อยที่ตื่นตกใจจะยอมเป็นเหยื่อเขาง่ายๆอย่างนั้นเหรอ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น