ตอนที่ 17 พายุร้าย กำลังจะมา (1)


ตอนที่ 17 พายุร้าย กำลังจะมา

“เราจะไปยุโรป”เสียงใสเอ่ยขึ้นหลังจากที่สั่ง สั่ง สั่ง และสั่งงานเสร็จ
“อะไรนะครับ!”กันต์อุทานหลังจากที่จด จด จด และจดคำสั่งเสร็จเช่นกัน
แต่เมื่อเห็นคนสั่งขมวดคิ้วดุ เขาจึงต้องเปลี่ยนคำถามใหม่ “ไปทำไมครับ?”
“ไปดูว่า ไอ้พวกที่อยู่ที่ยุโรปว่ามันกินรำแทนข้าวหรือยังไง ทำไมงานที่สั่งไปถึงไม่มีอะไรคืบหน้าบ้างเลย”คนพูดตาเป็นประกายวาววับ
ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่าง หนาวแทนพวกที่อยู่ที่ยุโรป แต่ก็ทำได้แค่เพียงสวดมนต์แผ่เมตตาให้ในใจเท่านั้นสัพเพสัตตา..สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์….สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ รักษาตัวรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ ภัย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเถิด
“เตรียมการเดินเสร็จแล้ว โทรฯไปบอกเราด้วย”สั่งเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจของคนที่อยู่ในห้องประชุมดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ในทันทีที่ประตูห้องปิดลงเมื่อคนก้าวพ้นออกไป
 เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจทุกคนต่างมองหน้ากันพร้อมกับอมยิ้มที่ภูเขาหลุดออกจากอกของตนสักที ปล่อยมันไปทับอกพวกที่อยู่ยุโรปบ้างเถอะทำกรรมร่วมกันมา ก็ต้องรับกรรมร่วมกันสิ จะปล่อยให้ที่นี่รับกรรมอยู่ที่เดียวได้อย่างไร
กันต์ต่อโทรศัพท์ถึงผู้รับกรรมรายต่อไป
“มีอะไรว่ามา”เสียงปลายสายบอกว่ากำลังหงุดหงิดยิ่ง น่าจะเป็นเพราะงานกำลังยุ่ง
กันต์ยิ้มไม่ถือสาอีกฝ่ายไหนๆตนก็กำลังจะมีความสุขอยู่แล้วจะไปถือโทษโกรธคนที่กำลังจะเป็นทุกข์ไปทำไม
“แค่จะโทรมาบอกว่า พายุเฮอริเคนกำลังจะพัดไปถล่มนาย”
“เฮอะ สงสัยว่านายคงจะไม่มีเวลาดูข่าว มันพัดผ่านฉันไปหลายวันแล้วโว้ย”เสียงปลายสายเยาะเย้ยอย่างสะใจที่เขาถูกใช้งานจนหัวหมุน ไม่มีเวลาแม้แต่จะติดตามข่าวสาร
กันต์ยิ้มตาเป็นประกายอย่างขันๆที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง
“ลูกนั้นฉันรู้”เขาเว้นช่วงพลางยิ้มกว้างมากขึ้น
“แต่ที่ฉันพูดถึง คือลูกที่กำลังจะไปจากเมืองไทย จะพัดไปถล่มหัวนายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ต่างหาก หึๆๆ”ขอหัวเราะให้สะใจสักหน่อยเถอะ
“ห๊ะ! กำลังจะมารึ?...ตายห่…..
อีกฝ่ายสบถยาวเหยียดก่อนจะกระแทกหูโทรศัพท์ดังโครม โชคดีที่กันต์คาดการณ์ได้ล่วงหน้าจึงยกหูโทรศัพท์ออกห่างจากหูของตน ไม่อย่างนั้นขี้หูของเขาคงกระเด็นกระดอนออกมาข้างนอกแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองท่านรองประธานพร้อมกับอมยิ้มป่านนี้พวกที่อยู่ที่ยุโรปคงจะเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้ว
“เอาล่ะ ไปจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย”เขาสั่งลูกน้อง ทุกคนคำนับก่อนจะรีบไปจัดการกับงานของตน เพราะถ้าขืนชักช้าพายุเฮอริเคนอาจจะพัดถล่มแถวนี้ก่อนจะพัดไปถล่มยุโรปก็ได้

*********************

“ท่านชีคครับ หุ้นอดีบา ออยล์ที่ท่านชีคสั่งให้ไปกว้านซื้อเอาไว้ ถูกมือดีซื้อไปหมดแล้วครับ”อารบีเข้ามารายงาน
“ใคร?”
ชีคนาซขมวดคิ้ว ด้วยคิดว่าตนเร็วแล้วนะ ทันทีที่มีข่าวว่าหุ้นอดีบา ออลย์ร่วง เขาก็สั่งคนให้ไปกว้านซื้อเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรมันก็ควรจะเป็นของเขามาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
“ทีเคกรุ๊ปครับ”
อารบีรายงานเสียงเครียดทีเคกรุ๊ป ไม่จับธุรกิจน้ำมันมาก่อน แต่ทำไมจู่ๆ ทีเคถึงมากว้างซื้อหุ้นอดีบาออยล์ เพราะเรื่องเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวมาหรือว่ามีจุดประสงค์อื่นที่มากกว่านั้น
“ทีเครึ?”ชีคนาซถามกลับอย่างแปลกใจเช่นกัน
หลังจากที่เขากลับไปดูข้อมูลของทีเคกรุ๊ป ก็พบว่าเป็นบริษัทที่เติบโตจนน่าทึ่ง จากบริษัทเล็กๆในประเทศเล็กๆ เจริญเติบโตขึ้นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี และที่สำคัญบริษัทนี้ไม่มีการเปิดเผยถึงผู้บริหารสูงสุดด้วย ผู้ที่ทำหน้าเป็นหลักในการออกงานหรือติดต่อธุรกิจคือรองประธานบอร์ดบริหาร ชายหนุ่มหน้าอ่อนเยาว์ดูเจ้าสำอางที่ได้สมญาในวงการธุรกิจ ลูกแกะเคลือบยาพิษ ด้วยหน้าตาที่อ่อนเยาว์มีรอยยิ้มละไมอยู่เป็นนิจทำให้นักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการต่างมองว่าเป็นลูกแกะอ้วนพี ที่เสือ สิงห์ทั้งหลายต่างหมายจะขย้ำแต่แล้วเสือ สิงห์เหล่านั้นก็เพลี่ยงพล้ำให้ลูกแกะน้อยอย่างง่ายดาย
ทีเคกรุ๊ปขยายธุรกิจโดยอาศัยการเทคโอเวอร์บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แล้ว แล้วเข้ามาบริหารต่อยอดธุรกิจให้เติบโตขึ้นอีก ผู้บริหารทุกธุรกิจล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ไม่มีประวัติว่าเป็นทายาทธุรกิจใดมาก่อน แต่ทุกคนกลับทำงานเก่งจนน่าตกใจ….
แต่ที่เขาสนใจ และยังหาข้อมูลไม่ได้คือ ไอ้ตัวเล็กทำอะไรในทีเคกรุ๊ปหรือมันคือหนึ่งในทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงเหล่านั้น?
“งั้นดูไปก่อนว่าทีเคจะทำอะไรต่อ”ชีคนาซสั่ง
ถ้าเป็นบริษัทอื่นเขาคงจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หุ้นอดีบา ออยล์กลับมาแล้ว แต่กับทีเคกรุ๊ป เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเพราะไม่รู้ว่าถ้าเขาทำอะไรลงไปจะกระทบมันหรือไม่
ทั้งๆที่ทุกการกระทำของเขาล้วนแต่คิดถึงมันเป็นอันดับแรก แล้วมันล่ะ มันเคยคิดถึงเขาบ้างไหม? ทั้งๆที่บอกว่าจะรีบกลับมา แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว จะโทรศัพท์มาหาสักหน่อยก็ไม่ได้ ไม่รู้หรือไงว่ามีใครคิดถึงมันแทบเป็นแทบตายอยู่ตรงนี้ชีคนาซถอนหายใจยาว  ไม่ว่ารู้ว่าเขาควรจะทำยังไงจึงจะสามารถบรรเทาความคิดมันลงได้บ้าง

************
ทันทีที่ท่านประธานทีเคกรุ๊ป เดินทางมาถึงตึกสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรป ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ตึกทั้งตึกก็โกลาหลคล้ายโดนพายุเฮอริเคนพัดถล่ม
แทนไทที่ตาม เฝ้าน้องสาวไม่ให้คลาดสายตาตามคำสั่งบิดา รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมทุกคนดูหวาดกลัวน้องสาวของตนจนตัวสั่นงันงกขนาดนั้น  ที่ตึกทีเคที่กรุงเทพฯก็เห็นอยู่หรอกว่าทุกคนวุ่นวาย แต่ยังไม่มีใครแสดงอาการหวาดผวาให้เห็นแบบนี้เพราะเขาไม่รู้นั่นเองว่า คนที่เข้าประชุมในประเทศไทยในตอนที่เขาอยู่ด้วยนั้นล้วนแต่เป็นพวกผู้บริหารระดับสูงที่ทำงานด้วยกันตลอด เรียกว่าโดนจนชิน ทำให้พวกนั้นไม่ค่อยจะแสดงอาการหวาดผวาเท่าไรคนเราเห็นถ้าฟ้าผ่าเฉียดตัวเองไปมาอยู่ทุกวันไม่นานก็ชินกับสายฟ้าไปเองแหละ
แต่พนักงานที่ประจำตามสาขาต่างๆทั่วโลกนั้นนานๆจะเจอ ฟ้าพิโรธสักที อาการแบบนี้จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่ท่านประธานเดินทางไปตรวจเยี่ยมสาขาเหล่านั้น
“นี่เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ท่านประธานต้องการครับ”
คามิน  ธรรมทัชผู้จัดการใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรปเปิดข้อมูลต่างๆที่เตรียมไว้ให้ท่านประธานดูโชคดีที่กันต์โทรศัพท์มาส่งข่าวทำให้เขามีเวลาระดมกำลังหาข้อมูลได้มากขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นตึกหลังนี้อาจจะโดนถล่มยับไปแล้ว

อาทิตยาดูรายงานต่างๆที่ต้องการอย่างรวดเร็ว “เรียกประชุม เราจะอธิบายถึงแผนต่อไปให้ฟัง” คนสั่งยังคงอ่านข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์อย่างสนใจ
คามินคำนับก่อนจะโทรศัพท์สั่งให้เลขาเรียกผู้บริหารเข้าประชุม เดี๋ยวนี้
ผู้บริหารเหล่านั้นคงจะรู้ตัวดีจึงมารออยู่ที่หน้าห้องก่อนแล้ว เพราะทุกคนรู้ดี ถ้าชักช้าฟ้าอาจจะผ่าโดยไร้เมฆฝนก็เป็นได้
เมื่อองค์ประชุมพร้อมแล้วท่านประธานก็อธิบายถึงแผนการต่างๆอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างคำนับพร้อมจดจำหน้าที่ของตนเอาไว้อย่างแม่นยำ ด้วยรู้ดีงานจะผิดพลาดไม่ได้
เมื่อประชุมสั่งการเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านประธานก็บอกกับผู้จัดการใหญ่ ที่ยังคงอยู่ในห้องประชุมรอรับคำสั่งต่อ
“เราจะพาพี่ชายทัวร์ยุโรปสักหน่อย”
“ทัวร์ยุโรป!”ท่านผู้จัดการใหญ่อุทานตาโต ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินเจ้านายอยากจะไปท่องเที่ยว..แต่นี่จู่ๆบอกว่าจะพาพี่ชายทัวร์จะไม่ให้เขาประหลาดใจได้อย่างไร
“ทำไม? มีปัญหางั้นรึ? หรืออยากให้เรานั่งทำงานที่นี่ด้วยสักอาทิตย์?”ท่านประธานถามพลางเลิกคิ้วตาเป็นประกาย ที่คนเห็นแล้วรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก
“ไม่ครับ เจ้านายพักผ่อนบ้างน่ะดีแล้วครับ”คามินรีบสนับสนุนทันที
แค่มาที่นี่วันเดียวตึกของเขาทั้งตึกยังมีสภาพที่เขาไม่อาจบรรยายได้ขนาดนี้ ถ้านั่งทำงานอยู่ที่นี่สักอาทิตย์จริงดังว่าสงสัยเขาอาจจะต้องไปซื้อตึกหลังใหม่เพราะว่าที่นี่อาจจะไม่มีพนักงานคนไหนกล้ากลับมาทำงานอีกเพราะยังหวาดผวาไม่คลาย
“มีอะไรให้โทรเข้ามือถือ และอย่าส่งคนไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเรา”
“และถ้าเรารู้ว่ามีใครส่งคนไปสอดแนมละก็….”ท่านประธานไม่พูดต่อ แต่ทำท่าปาดคอให้ดู ทำเอาผู้จัดการใหญ่หน้าซีดเผือด ไม่จำเป็นต้องขู่กันขนาดนั้นหรอกแค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าตอแยแล้ว

เมื่อจัดการสั่งงานและขู่เสร็จ อาทิตยาก็พาแทนไทกลับโรงแรมที่พักอย่างร่าเริง แผนการทุกอย่างถูกวางไว้อย่างแนบเนียน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้ เพราะคนที่ฉลาดรู้ทันอย่างกันต์อยู่เฝ้าเมืองไทยคนอื่นๆก็ไม่น่าเป็นห่วง

เมื่อกลับถึงโรงแรมก็เรียกหัวหน้าบอดีการ์ดที่ติดตามมาในครั้งนี้มาสั่งงาน
“จำไว้งานจะนี้ให้ใครจับได้ไม่ได้โดยเฉพาะ กันต์ถ้าเธอทำได้ จบทริปนี้เราจะตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าชุด”เจ้านายสั่งพร้อมกับมีสินบนล่อใจ
“รับรองครับ เจ้านาย”บอดีการ์ดคำนับรับคำอย่างยินดี
 หัวหน้าชุดบอดีการ์ดของทีเคกรุ๊ป ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ ตอนนี้มีเพียงแปดคนเท่านั้น และมันคือหนึ่งในความใฝ่ฝันของเขา เชน  เตโชดมยิ้มอย่างยินดี งานนี้เขาต้องทำให้สุดความสามารถ
“ดี เราไปล่ะ ถ้ามีอะไรให้โทรมา แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เราให้เธอตัดสินใจเองได้เลย”

เจ้านายมอบอำนาจให้ บอดีการ์ดคำนับอย่างยินดี ใครจะว่าเจ้านายร้ายกาจอย่างไรก็ตามยามลับหลัง แต่ทุกคนรู้ดี แม้เจ้านายจะร้ายแต่จริงใจและดูแลลูกน้องทุกคนด้วยหัวใจเสมอ และนั่นทำให้ทุกคนมอบหัวใจรักและภักดีต่อเจ้านายของตนเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น