ตอนที่ 17 พายุร้าย กำลังจะมา
“เราจะไปยุโรป”เสียงใสเอ่ยขึ้นหลังจากที่สั่ง สั่ง สั่ง
และสั่งงานเสร็จ
“อะไรนะครับ!”กันต์อุทานหลังจากที่จด จด จด และจดคำสั่งเสร็จเช่นกัน
แต่เมื่อเห็นคนสั่งขมวดคิ้วดุ เขาจึงต้องเปลี่ยนคำถามใหม่
“ไปทำไมครับ?”
“ไปดูว่า ไอ้พวกที่อยู่ที่ยุโรปว่ามันกินรำแทนข้าวหรือยังไง
ทำไมงานที่สั่งไปถึงไม่มีอะไรคืบหน้าบ้างเลย”คนพูดตาเป็นประกายวาววับ
ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมต่าง ‘หนาวแทน’พวกที่อยู่ที่ยุโรป แต่ก็ทำได้แค่เพียงสวดมนต์แผ่เมตตาให้ในใจเท่านั้น…สัพเพสัตตา..สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์….สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ…
รักษาตัวรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ ‘ภัย’
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเถิด
“เตรียมการเดินเสร็จแล้ว โทรฯไปบอกเราด้วย”สั่งเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจของคนที่อยู่ในห้องประชุมดังขึ้นพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
ในทันทีที่ประตูห้องปิดลงเมื่อคนก้าวพ้นออกไป
เมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจทุกคนต่างมองหน้ากันพร้อมกับอมยิ้มที่ภูเขาหลุดออกจากอกของตนสักที
…ปล่อยมันไปทับอกพวกที่อยู่ยุโรปบ้างเถอะ…ทำกรรมร่วมกันมา ก็ต้องรับกรรมร่วมกันสิ …จะปล่อยให้ที่นี่รับกรรมอยู่ที่เดียวได้อย่างไร
กันต์ต่อโทรศัพท์ถึงผู้รับกรรมรายต่อไป
“มีอะไรว่ามา”เสียงปลายสายบอกว่ากำลังหงุดหงิดยิ่ง
น่าจะเป็นเพราะงานกำลังยุ่ง
กันต์ยิ้มไม่ถือสาอีกฝ่าย…ไหนๆตนก็กำลังจะมีความสุขอยู่แล้วจะไปถือโทษโกรธคนที่กำลังจะเป็นทุกข์ไปทำไม
“แค่จะโทรมาบอกว่า พายุเฮอริเคนกำลังจะพัดไปถล่มนาย”
“เฮอะ สงสัยว่านายคงจะไม่มีเวลาดูข่าว
มันพัดผ่านฉันไปหลายวันแล้วโว้ย”เสียงปลายสายเยาะเย้ยอย่างสะใจที่เขาถูกใช้งานจนหัวหมุน
ไม่มีเวลาแม้แต่จะติดตามข่าวสาร
กันต์ยิ้มตาเป็นประกายอย่างขันๆที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง…
“ลูกนั้นฉันรู้”เขาเว้นช่วงพลางยิ้มกว้างมากขึ้น
“แต่ที่ฉันพูดถึง คือลูกที่กำลังจะไปจากเมืองไทย
จะพัดไปถล่มหัวนายในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ต่างหาก
หึๆๆ”ขอหัวเราะให้สะใจสักหน่อยเถอะ
“ห๊ะ! กำลังจะมารึ?...ตายห่…..”
อีกฝ่ายสบถยาวเหยียดก่อนจะกระแทกหูโทรศัพท์ดังโครม
โชคดีที่กันต์คาดการณ์ได้ล่วงหน้าจึงยกหูโทรศัพท์ออกห่างจากหูของตน
ไม่อย่างนั้นขี้หูของเขาคงกระเด็นกระดอนออกมาข้างนอกแล้ว
ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองท่านรองประธานพร้อมกับอมยิ้ม…ป่านนี้พวกที่อยู่ที่ยุโรปคงจะเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้ว
“เอาล่ะ ไปจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย”เขาสั่งลูกน้อง
ทุกคนคำนับก่อนจะรีบไปจัดการกับงานของตน
เพราะถ้าขืนชักช้าพายุเฮอริเคนอาจจะพัดถล่มแถวนี้ก่อนจะพัดไปถล่มยุโรปก็ได้
*********************
“ท่านชีคครับ หุ้นอดีบา ออยล์ที่ท่านชีคสั่งให้ไปกว้านซื้อเอาไว้
ถูกมือดีซื้อไปหมดแล้วครับ”อารบีเข้ามารายงาน
“ใคร?”
ชีคนาซขมวดคิ้ว ด้วยคิดว่าตนเร็วแล้วนะ ทันทีที่มีข่าวว่าหุ้นอดีบา
ออลย์ร่วง เขาก็สั่งคนให้ไปกว้านซื้อเอาไว้
เพราะถึงอย่างไรมันก็ควรจะเป็นของเขามาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
“ทีเคกรุ๊ปครับ”
อารบีรายงานเสียงเครียด…ทีเคกรุ๊ป ไม่จับธุรกิจน้ำมันมาก่อน แต่ทำไมจู่ๆ
ทีเคถึงมากว้างซื้อหุ้นอดีบาออยล์
เพราะเรื่องเด็กสาวที่ถูกลักพาตัวมาหรือว่ามีจุดประสงค์อื่นที่มากกว่านั้น
“ทีเครึ?”ชีคนาซถามกลับอย่างแปลกใจเช่นกัน
หลังจากที่เขากลับไปดูข้อมูลของทีเคกรุ๊ป
ก็พบว่าเป็นบริษัทที่เติบโตจนน่าทึ่ง จากบริษัทเล็กๆในประเทศเล็กๆ
เจริญเติบโตขึ้นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี
และที่สำคัญบริษัทนี้ไม่มีการเปิดเผยถึงผู้บริหารสูงสุดด้วย
ผู้ที่ทำหน้าเป็นหลักในการออกงานหรือติดต่อธุรกิจคือรองประธานบอร์ดบริหาร ชายหนุ่มหน้าอ่อนเยาว์ดูเจ้าสำอางที่ได้สมญาในวงการธุรกิจ
‘ลูกแกะเคลือบยาพิษ’
ด้วยหน้าตาที่อ่อนเยาว์มีรอยยิ้มละไมอยู่เป็นนิจทำให้นักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการต่างมองว่าเป็นลูกแกะอ้วนพี
ที่เสือ สิงห์ทั้งหลายต่างหมายจะขย้ำ…แต่แล้วเสือ
สิงห์เหล่านั้นก็เพลี่ยงพล้ำให้ลูกแกะน้อยอย่างง่ายดาย
ทีเคกรุ๊ปขยายธุรกิจโดยอาศัยการเทคโอเวอร์บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แล้ว
แล้วเข้ามาบริหารต่อยอดธุรกิจให้เติบโตขึ้นอีก
ผู้บริหารทุกธุรกิจล้วนแต่เป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่ไม่มีประวัติว่าเป็นทายาทธุรกิจใดมาก่อน
แต่ทุกคนกลับทำงานเก่งจนน่าตกใจ….
แต่ที่เขาสนใจ และยังหาข้อมูลไม่ได้คือ
ไอ้ตัวเล็กทำอะไรในทีเคกรุ๊ป…หรือมันคือหนึ่งในทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงเหล่านั้น?
“งั้นดูไปก่อนว่าทีเคจะทำอะไรต่อ”ชีคนาซสั่ง
ถ้าเป็นบริษัทอื่นเขาคงจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หุ้นอดีบา
ออยล์กลับมาแล้ว แต่กับทีเคกรุ๊ป เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร…เพราะไม่รู้ว่าถ้าเขาทำอะไรลงไปจะกระทบมันหรือไม่
ทั้งๆที่ทุกการกระทำของเขาล้วนแต่คิดถึงมันเป็นอันดับแรก
แล้วมันล่ะ มันเคยคิดถึงเขาบ้างไหม? ทั้งๆที่บอกว่าจะรีบกลับมา
แต่นี่ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว จะโทรศัพท์มาหาสักหน่อยก็ไม่ได้
ไม่รู้หรือไงว่ามีใครคิดถึงมันแทบเป็นแทบตายอยู่ตรงนี้…ชีคนาซถอนหายใจยาว
ไม่ว่ารู้ว่าเขาควรจะทำยังไงจึงจะสามารถบรรเทาความคิดมันลงได้บ้าง
************
ทันทีที่ท่านประธานทีเคกรุ๊ป
เดินทางมาถึงตึกสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรป ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
ตึกทั้งตึกก็โกลาหลคล้ายโดนพายุเฮอริเคนพัดถล่ม
แทนไทที่ตาม ‘เฝ้า’น้องสาวไม่ให้คลาดสายตาตามคำสั่งบิดา
รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมทุกคนดูหวาดกลัวน้องสาวของตนจนตัวสั่นงันงกขนาดนั้น
ที่ตึกทีเคที่กรุงเทพฯก็เห็นอยู่หรอกว่าทุกคนวุ่นวาย
แต่ยังไม่มีใครแสดงอาการหวาดผวาให้เห็นแบบนี้…เพราะเขาไม่รู้นั่นเองว่า
คนที่เข้าประชุมในประเทศไทยในตอนที่เขาอยู่ด้วยนั้นล้วนแต่เป็นพวกผู้บริหารระดับสูงที่ทำงานด้วยกันตลอด
เรียกว่า‘โดนจนชิน’
ทำให้พวกนั้นไม่ค่อยจะแสดงอาการหวาดผวาเท่าไร…คนเราเห็นถ้าฟ้าผ่าเฉียดตัวเองไปมาอยู่ทุกวันไม่นานก็ชินกับสายฟ้าไปเองแหละ…
แต่พนักงานที่ประจำตามสาขาต่างๆทั่วโลกนั้น…นานๆจะเจอ ‘ฟ้าพิโรธ’สักที
อาการแบบนี้จึงเกิดขึ้นทุกครั้งที่ท่านประธานเดินทางไปตรวจเยี่ยมสาขาเหล่านั้น
“นี่เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ท่านประธานต้องการครับ”
‘คามิน
ธรรมทัช’ผู้จัดการใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรปเปิดข้อมูลต่างๆที่เตรียมไว้ให้ท่านประธานดู…โชคดีที่กันต์โทรศัพท์มาส่งข่าว…ทำให้เขามีเวลาระดมกำลังหาข้อมูลได้มากขนาดนี้
ไม่อย่างนั้นตึกหลังนี้อาจจะโดนถล่มยับไปแล้ว
อาทิตยาดูรายงานต่างๆที่ต้องการอย่างรวดเร็ว “เรียกประชุม
เราจะอธิบายถึงแผนต่อไปให้ฟัง”
คนสั่งยังคงอ่านข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์อย่างสนใจ
คามินคำนับก่อนจะโทรศัพท์สั่งให้เลขาเรียกผู้บริหารเข้าประชุม ‘เดี๋ยวนี้’
ผู้บริหารเหล่านั้นคงจะรู้ตัวดีจึงมารออยู่ที่หน้าห้องก่อนแล้ว
เพราะทุกคนรู้ดี ถ้าชักช้าฟ้าอาจจะผ่าโดยไร้เมฆฝนก็เป็นได้
เมื่อองค์ประชุมพร้อมแล้วท่านประธานก็อธิบายถึงแผนการต่างๆอย่างรวดเร็ว
ทุกคนต่างคำนับพร้อมจดจำหน้าที่ของตนเอาไว้อย่างแม่นยำ ด้วยรู้ดี…งานจะผิดพลาดไม่ได้
เมื่อประชุมสั่งการเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านประธานก็บอกกับผู้จัดการใหญ่
ที่ยังคงอยู่ในห้องประชุมรอรับคำสั่งต่อ
“เราจะพาพี่ชายทัวร์ยุโรปสักหน่อย”
“ทัวร์ยุโรป!”ท่านผู้จัดการใหญ่อุทานตาโต …ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินเจ้านายอยากจะไปท่องเที่ยว..แต่นี่จู่ๆบอกว่าจะพาพี่ชาย ‘ทัวร์’จะไม่ให้เขาประหลาดใจได้อย่างไร
“ทำไม? มีปัญหางั้นรึ? หรืออยากให้เรานั่งทำงานที่นี่ด้วยสักอาทิตย์?”ท่านประธานถามพลางเลิกคิ้วตาเป็นประกาย
ที่คนเห็นแล้วรู้สึกหนาวไปถึงกระดูก
“ไม่ครับ
เจ้านายพักผ่อนบ้างน่ะดีแล้วครับ”คามินรีบสนับสนุนทันที
แค่มาที่นี่วันเดียวตึกของเขาทั้งตึกยังมีสภาพที่เขาไม่อาจบรรยายได้ขนาดนี้
ถ้า ‘นั่งทำงานอยู่ที่นี่สักอาทิตย์’จริงดังว่าสงสัยเขาอาจจะต้องไปซื้อตึกหลังใหม่เพราะว่าที่นี่อาจจะไม่มีพนักงานคนไหนกล้ากลับมาทำงานอีกเพราะยังหวาดผวาไม่คลาย
“มีอะไรให้โทรเข้ามือถือ และอย่าส่งคนไปรบกวนเวลาพักผ่อนของเรา”
“และถ้าเรารู้ว่ามีใครส่งคนไปสอดแนมละก็….”ท่านประธานไม่พูดต่อ แต่ทำท่าปาดคอให้ดู
ทำเอาผู้จัดการใหญ่หน้าซีดเผือด …ไม่จำเป็นต้องขู่กันขนาดนั้นหรอก…แค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าตอแยแล้ว
เมื่อจัดการสั่งงานและขู่เสร็จ อาทิตยาก็พาแทนไทกลับโรงแรมที่พักอย่างร่าเริง
แผนการทุกอย่างถูกวางไว้อย่างแนบเนียน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้
เพราะคนที่ฉลาดรู้ทันอย่างกันต์อยู่เฝ้าเมืองไทย…คนอื่นๆก็ไม่น่าเป็นห่วง
เมื่อกลับถึงโรงแรมก็เรียกหัวหน้าบอดีการ์ดที่ติดตามมาในครั้งนี้มาสั่งงาน
“จำไว้…งานจะนี้ให้ใครจับได้ไม่ได้โดยเฉพาะ
กันต์…ถ้าเธอทำได้ จบทริปนี้เราจะตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าชุด”เจ้านายสั่งพร้อมกับมีสินบนล่อใจ
“รับรองครับ เจ้านาย”บอดีการ์ดคำนับรับคำอย่างยินดี
‘หัวหน้าชุด’บอดีการ์ดของทีเคกรุ๊ป
ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ ตอนนี้มีเพียงแปดคนเท่านั้น
และมันคือหนึ่งในความใฝ่ฝันของเขา ‘เชน เตโชดม’ยิ้มอย่างยินดี
งานนี้เขาต้องทำให้สุดความสามารถ
“ดี เราไปล่ะ ถ้ามีอะไรให้โทรมา แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
เราให้เธอตัดสินใจเองได้เลย”
เจ้านายมอบอำนาจให้ บอดีการ์ดคำนับอย่างยินดี …ใครจะว่าเจ้านายร้ายกาจอย่างไรก็ตามยามลับหลัง
แต่ทุกคนรู้ดี แม้เจ้านายจะร้ายแต่จริงใจและดูแลลูกน้องทุกคนด้วยหัวใจเสมอ
และนั่นทำให้ทุกคนมอบหัวใจรักและภักดีต่อเจ้านายของตนเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น