ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง ยอดร้าย ยอดรัก ตอนที่ 3-1


ตอนที่ 3 ตามตอแย

อะไรนะ! ชีคนาซจะมาทานอาหารที่นี่ และเชิญเราด้วย
อาทิตยาถามกลับอย่างหงุดหงิดกับข่าวใหม่ที่ได้รับ เพราะทันทีที่กลับมาถึงโรมแรมที่พัก พนักงานต้อนรับก็รี่เข้ามารายงานอย่างนอบน้อมว่า ท่านชีคจะเดินทางมารับประทานอาหารที่นี่และขอเชิญ มิสเตอร์อาทิตย์ร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยค่ะ
ค่ะ
พนักงานสาวโค้งคำนับนอบน้อมกว่าเดิมเพราะสายตาวาววับที่ตวัดมองมาทำให้เธอสั่นสะท้านในใจ
แขกบังคับเชิญถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้ารับทราบ เมื่อพนักงานสาวคนนั้นเดินกลับไป คนรับเชิญ’ก็โยนภาระไปที่มือซ้ายของตนทันที

ไผทไปก็แล้วกัน
แต่อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธทันควันเหมือนกัน
เจ้านายไปน่ะดีแล้ว เผื่อจะได้หาวิธีถ่วงเวลากับท่านชีคได้ ส่วนผมจะเรียกประชุมเตรียมการ แล้วจะรายงานให้ทราบทีหลัง

ใครเล่าอยากจะไปเผชิญกับ ชีคนาซ อซีซา บาฮจาเพียงลำพัง แถมเขายังระบุชัดว่าเชิญ มิสเตอร์อาทิตย์ ไม่ใช่ และมิสเตอร์ไผทสักหน่อย ขืนเขาเสนอหน้าเข้าไปแทน ชีคน่ากลัวคนนั้นคงจะไล่ตะเพิดเขาออกมาแน่ แม้จะรู้สึกผิดที่ต้องปล่อยให้เจ้านายไปพบกับชีคนาซเพียงลำพัง แต่เขามั่นใจว่า ชีคนาซจะไม่ทำอันตรายเจ้านายของเขาแน่ อีกอย่างคนอันตรายแบบนั้นต้องเจอคนอันตรายแบบนี้แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน
ไผทอมยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ บาฮจา กรุ๊ป ใครเลยจะคาดคิดว่า เจ้านายของตนจะทำอะไรบ้าบิ่นขนาดจับชีคตัวโตเหมือนยักษ์ทุ่มลงแบบนั้น  เขาแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นสายตาวาววับเอาเรื่องของชีคนาซ เพราะข่าวที่เขารับรู้มา ชีคนาซ อซีซา คือมัจจุราชแห่งดรูไรดาราน ฆ่าคนได้ง่ายดายราวกระพริบตา แต่แล้วเขาต้องประหลาดใจยิ่ง เมื่อท่านชีคไม่เอาเรื่องแถมยังดูเหมือนจะพอใจเจ้านายของตนอยู่ไม่น้อย
พอใจ ไผทชะงัก มองสำรวจเจ้านายของตนอย่างรวดเร็ว ที่เขาเห็นอยู่ในตอนนี้คือหนุ่มน้อยหน้าสวยเจ้าอารมณ์ที่กำลังโมโหโทโสหันหาที่ระบาย  จนทำให้อดหวั่นใจไม่ได้ หวังว่าเจ้านายตัวร้ายคงจะไม่ไประบายอารมณ์กับชีคนาซจนเกิดเรื่องใหญ่โตขึ้นหรอกนะ  คนใกล้ชิดมีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กตรงหน้านี้ ร้ายกาจขนาดไหน
           
คนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด คิดหาทางปฏิเสธ แต่ประตูด้านหน้าของโรงแรมเปิดออกก่อน พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามา ไผทหันไปคำนับทักทาย ก่อนกระซิบอย่างแผ่วเบากับเจ้านายของตน
ขอให้โชคดีนะครับ
แล้วเขาก็รีบเผ่นหนีไปเข้าลิฟท์ก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นคนโชคร้ายเสียเอง                    
ใบหน้าเรียวเสลามองตามร่างคนที่เผ่นหนีหายไปอย่างเข่นเขี้ยว ฮึ่ม ฝากไว้ก่อนเถอะ

ชีคนาซ ก้าวตรงมาหาคนตัวเล็กที่ยืนหน้าบึ้งตึงรออยู่หน้าลอบบี้  เขาอมยิ้มนึกขัน ไอ้ตัวเล็กนี่มันขี้โมโหจริงๆ มีเรื่องไหนนะที่จะทำให้มันพอใจได้บ้างเขาไม่เอะใจเลยสักนิดว่าทำไมตนถึงคิดอยากจะทำอะไรให้ มันพอใจ
เจ้าชอบอาหารอิตาเลี่ยนไหม?”ร่างสูงเอ่ยถามทันทีที่เดินมาถึง
อะไรผมกินก็ได้คนเป็นแขกตอบเสียงสะบัดบ่งบอกสภาวะอารมณ์อย่างไม่คิดจะปิดบัง
อาหารอิตาเลี่ยนที่นี่อร่อยไม่เป็นสองรองใคร
ชีคนาซออกใบรับรองโดยไม่สนใจอาการฮึดฮัดของอีกฝ่าย ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับพนักงานต้อนรับที่ยืนรอรับคำสั่งอย่างนอบน้อม ฝ่ายนั้นโค้งคำนับก่อนจะเดินนำไปยังห้องอาหาร
ตั้งแต่มาถึงที่นี่ เจ้าได้กินอะไรบ้างหรือยัง?”ท่านชีคถามยิ้มๆเมื่อเดินเคียงข้างกันไป
ยัง ตอบพลางมองหน้าคนถามอย่างระแวง
มิน่าล่ะ เจ้าถึงได้หงุดหงิดนักท่านชีคว่าพลางหัวเราะเบาๆ
ผมไม่ได้โมโหหิว” ‘คนหงุดหงิดแหวหน้าง้ำเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายพูดกระทบ
อ้อ ไม่ได้โมโหหิว แล้วเจ้าโมโหเรื่องอะไรล่ะ?”ชีคนาซแกล้งทำไขสือ           
ผมไม่ได้โมโหอะไร แล้วทำไมท่านต้องมาทานอาหารไกลถึงที่นี่ด้วย นี่คือเรื่องที่ทำให้โมโห ความจริงอยากจะถามว่า ถ่อมาทำไมตั้งไกลทั้งๆที่โรงแรมนี้กับบาฮจา กรุ๊ปอยู่คนละมุมเมืองเลย
ก็อาหารที่นี่อร่อย แล้วอีกอย่างที่นี่ก็เป็นโรงแรมของข้า ข้าจะมาทานอาหารโรงแรมของตัวเองบ้างไม่ได้หรือไง?ชีคนาซถามอย่างอารมณ์ดี  นั่นยิ่งทำให้อีกคนอารมณ์เสียยิ่งขึ้น
คนอารมณ์เสียมองค้อน อยากจะบอกเหลือเกินว่า ได้น่ะได้ แต่ทำไมต้องมาทำให้คนอื่นเดือดร้อนด้วย แต่ต้องยอมอดทนกล้ำกลืนคำพูดเอาไว้ เพราะไม่อย่างนั้นคงจะได้รบกับชีคนาซ ก่อนได้ออกตามหาปาริฉัตต์แน่ๆ
           
ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องอาหาร ที่พนักงานต้อนรับเปิดประตูรอ อาทิตยาก็ต้องถอนหายใจยาวพลางคิดในใจ แค่ได้กลิ่นก็อิ่มแล้ว ถ้าต้องกินทุกจานแค่จานละคำก็คงจะอิ่มไปถึงสามวัน
ทำไม? เจ้าไม่ชอบหรือ?”ท่านชีคถามเมื่อเห็นอาการถอดถอนใจของคนตัวเล็กข้างกาย
เปล่าหรอก.. แต่ท่านไม่คิดว่ามันมากเกินไปรึ?
อาหารนับสิบชนิดวางเรียงรายเต็มโต๊ะยาวเหยียด แถมแต่ละจานยังใหญ่เท่าถาดขนาดย่อมๆ ปริมาณอาหารมากมายขนาดนี้คงพอเลี้ยงคนสิบคนได้สบายๆ แต่ขณะนี้ทั้งห้องมีเก้าอี้เพียงสองตัว 
กินก่อนสิ แล้วค่อยบอกว่ามันมากไปหรือเปล่าท่านชีคบอกยิ้มๆ ก่อนเลื่อนเก้าอี้ให้คนตัวเล็กนั่ง แล้วตัวเองก็เดินอ้อมไปนั่งลงอีกฟากโต๊ะ
เชิญ
เมื่อเห็นคนตัวเล็กยังคงนั่งนิ่ง ชีคนาซจึงลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าก่อน คนตัวเล็กถอนหายใจอีกครั้งก่อนรับประทานอาหารบ้างแต่เพียงไม่กี่คำก็รวบช้อน
อะไรกัน! เจ้าอิ่มแล้วรึ?”ท่านชีคเอ่ยทักทันทีที่ มันวางช้อนเพราะคอยสังเกตอยู่ตลอดเวลา
หรือว่าอาหารไม่อร่อย?คนถามขมวดคิ้ว ก่อนจะพยักหน้าเรียกพนักงานเสิร์ฟเตรียมเปลี่ยนเมนู
คนอิ่มก่อนรีบบอก เปล่า ผมอิ่มแล้ว ผมกินได้แค่นี้แหล่ะ
ทำไมเจ้าถึงได้กินน้อยนัก เจ้าอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต ต้องกินเยอะๆรู้ไหมท่านชีคสอนคล้ายมันเป็นเด็กไม่รู้ความ
ผมโตแล้ว” ‘คนโตแล้วแต่ตัวเล็กขัดขึ้นอย่างหงุดหงิดที่ถูกว่าเป็นเด็ก
ถ้าอย่างเจ้าเรียกว่าโต ข้าก็คงเป็นยักษ์แล้วมั้งท่านชีคว่ายิ้มๆ
ท่านทานอาหารของท่านไปเถอะ ไม่ต้องมาสนใจการเจริญเติบโตของผมหรอก” ‘คนตัวเล็กตัดบทอย่างหงุดหงิด
แต่ข้าไม่ชอบให้ใครมานั่งมองเวลาทานอาหารชีคนาซบอกเสียงเข้ม
ก็ได้..งั้นผมจะกลับห้องพักล่ะ” ‘คนตัวเล็กบอกพลางขยับตัวจะลุกตามคำพูดแต่ต้องชะงัก
ไม่ได้! เจ้ายังไปไหนไม่ได้
ท่านชีคตวาดสั่งเสียงดังอย่างขัดใจ เมื่อเห็นมันจะลุกขึ้นจริงๆ คนที่เคยถูกคนรุมล้อมเอาใจอยู่เสมอ ย่อมต้องทนไม่ได้เมื่ออยู่ๆจะมีใครสักคนทำเมินเฉยหรือผละหนีซึ่งๆหน้า
เจ้าไม่รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหารเลยหรือไง?ชีคนาซเอ็ดต่อแต่ยอมลดเสียงให้เบาลง
ก็ท่านบอกเองว่าไม่ชอบให้ใครมานั่งมองเวลาทานอาหาร ผมก็จะออกจากห้องนี้ไปตามใจท่านแล้วไงคนที่ไม่ยอมใครเลยเช่นกันเถียง ใบหน้างอง้ำตาวาววับไม่พอใจอย่างยิ่งเมื่อโดนคนตวาดสั่ง
ข้าหมายความว่า ให้เจ้าทานอาหารเป็นเพื่อนข้าท่านชีคแสร้งถอนใจ ยอมอ่อนลงเมื่อสบตาวาววับของอีกฝ่ายที่แสดงชัดว่าไม่พอใจตนอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยยอมลงให้ใครมาก่อน
แต่ผมอิ่มแล้วคนอิ่มก่อนบอกอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าทำให้ขัดใจอย่างนี้มาก่อนเลย
กินแค่สามคำ เจ้าจะอิ่มได้ยังไง กินซะ อย่าทำตัวเหมือนเด็กเกเรท่านชีคดุ ราวกับอีกฝ่ายเป็นเด็กดื้อ ไม่ยอมรับประทานอาหารจนต้องบังคับ
ท่านต่างหากที่ทำตัวเหมือนเด็กเอาแต่ใจ” ‘เด็กเกเรย้อนทันควัน ไม่ยอมแพ้
เจ้าว่าข้าเป็นเด็กเอาแต่ใจงั้นรึ?ชีคนาซ อซีซาถลึงตาใส่ไอ้ตัวร้ายที่นั่งทำตาวาวอยู่คนละฝากโต๊ะ
ก็มันจริงไหมล่ะ ผมบอกว่า..อิ่ม อิ่ม อิ่ม ท่านยังจะบังคับให้กินอีก อยากให้ผมท้องแตกตายหรือไงคนอิ่มแล้วต่อว่าเสียงดังอย่างหงุดหงิด
ชีคนาซมองอาการของมันที่เหมือนเด็กกำลังงอแงเพราะถูกขัดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนโบกมือตัดบท
เอาล่ะๆ เจ้าไม่กินก็ได้ แต่ต้องนั่งอยู่เป็นเพื่อนข้า
ท่านชีคสั่งก่อนจะลงมือจัดการอาหารตรงหน้าต่อ โดยไม่สนใจอาการฮึดฮัดของมันที่นั่งทำปากขมุบขมิบอยู่ตรงหน้า
เจ้าว่าอะไรข้า?ท่านชีคเงยหน้าขึ้นจ้อง มันเขม็ง
ผมสวดมนต์หลังอาหารต่างหากอีกฝ่ายปดหน้าตาเฉย
อย่าให้ข้ารู้นะว่าเจ้าแอบว่าข้า ไม่งั้นเจ้าเจอดีแน่ท่านชีคคาดโทษ มันมองค้อนแต่ยอมสงบปากสงบคำ

ท่านจะทานอาหารไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยหรือไง?”
อาทิตยาแหวขึ้นอย่างเหลืออด หลังจากที่ต้องทนนั่งมอง ชีคนาซละเลียดอาหารมานานกว่าสองชั่วโมงและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ เพราะยังเรียกบริกรมารับออเดอร์อยู่เรื่อยๆ ราวกับจะชิมอาหารทุกอย่างที่มีอยู่ในใบเมนู
เจ้าจะรีบร้อนไปไหน?
ท่านชีคถามอย่างใจเย็น ความจริงเขาไม่เคยรับประทานอาหารนานขนาดนี้หรอก แต่วันนี้เขาแค่อยากจะแกล้งคนที่นั่งหน้างอเป็นม้าหมากรุกอยู่ฝั่งตรงข้ามต่างหาก ยิ่งเห็นมันหงุดหงิดยิ่งทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างประหลาด
แต่นี่มันสองชั่วโมงกว่าแล้วนะ?
คนหน้างอบอกอย่างหงุดหงิด ต้องมานั่งดูคนอื่นกินอาหารแล้วยังขยับตัวไปไหนไม่ได้นี่มันยิ่งกว่านักโทษอีก
อีกตั้งนานกว่าจะค่ำท่านชีคบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน เมื่อเหลือบดูนาฬิกาแขวนบนฝาผนัง
คนตัวเล็กตาเหลือก อย่าบอกนะว่าท่านจะทานอาหารไปจนกระทั่งถึงค่ำ?”
อืม...
ท่าครุ่นคิดของชีคนาซกวนต่อมโทสะของคนมองยิ่งนัก
ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอกนะ ผมมาทำงาน ไม่ใช่มากิน
คนมาทำงานแผดเสียงดังสะท้านสะเทือนห้อง ดวงตาเป็นประกายวาววับราวกับจะแผดเผาอีกฝ่ายให้มอดไหม้เป็นจุล
เจ้าต้องทำอะไรหนักหนา?”ท่านชีคเลิกคิ้วถามยิ้มๆอย่างสบายใจ
ทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่กิน กิน กิน อย่างนี้
อาทิตยาบอกอย่างหงุดหงิด เพราะความที่เป็นคนที่คิดเร็วทำเร็ว ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำให้รู้สึกอึดอัดขัดเคืองยิ่งนักเมื่อมาเจอคนที่ทำอะไรอืดอาดเฉื่อยชาแบบนี้
เจ้าเคยดูแข่งอูฐไหม?”ชีคนาซเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ
แข่งอูฐ?”อาทิตยาถามกลับ ไม่เข้าใจว่าแข่งอูฐมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่ทะเลาะกันอยู่ในขณะนี้
 “ผมไม่ได้มาเที่ยว รีบบอกไว้ก่อนเมื่อสังหรณ์ใจว่าจะถูกชีคเอาแต่ใจคนนี้ลากไปโน่นมานี่ตามอำเภอใจ
แค่ไปดูแป๊บเดียวไม่เสียเวลามากหรอกน่าท่านชีคบอกยิ้มๆเมื่อคิดหาที่เที่ยวที่ใหม่ได้
เจ้ารู้ไหมว่าจ๊อกกี้ของข้าทันสมัยที่สุดในคาบสมุทรอาหรับเลยนะท่านชีคคุยอวดอย่างภูมิใจ
ทันสมัย? จ๊อกกี๊เนี่ยนะ?” คนถามตาโตอย่างกังขาพูดถึงคนหรือหุ่นยนต์กันแน่
ใช่ ไปดูกันเถอะ
ชีคนาซรวบช้อนแล้วลุกขึ้นยืนทันที ก่อนจะก้าวออกจากห้องอาหารพร้อมกับลากคนตัวเล็กให้ปลิวตาม
เดี๋ยว! ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าจะไปกับท่านคนถูกลากทักท้วง พยายามขืนตัวเอาไว้แต่ก็แพ้แรงคนตัวโตกว่าอยู่ดี
เจ้าจะอุดอู้อยู่แต่โรงแรมนี้ทำไม ไปดูแข่งอูฐดีกว่า สนุกนะคนชวนพยายามหว่านล้อมและยังลากคนตัวเล็กให้เดินตาม
แต่ผมต้องทำรายงาน” ‘คนตัวเล็กบอกพลางพยายามแกะมือหนาที่แข็งแรงราวกับคีมคีบออกจากข้อมือตัวเอง แต่ก็ไร้ผล
ชีคนาซชะงักเท้า เจ้าจะทำรายงานได้อย่างไร ในเมื่อเจ้ายังไม่ได้ไปดูเครื่องเจาะน้ำมันเลย ชีคนาซถามอย่างกังขา แต่มือยังคงจับจูงไม่วางราวกับกลัวว่ามันจะหลบลี้หนีหายไปต่อหน้า
“ผมไม่ได้มีงานแค่อย่างเดียวนะ”คนถูกลากแย้ง
“งั้น ถ้าเจ้าไปกับข้า ข้าอาจจะพิจารณาเรื่องเครื่องเจาะน้ำมันใหม่”ชีคนาซเริ่มติดสินบน
คนถูกติดสินบนชะงัก ไม่ได้ต้องการเครื่องเจาะสำรวจน้ำมัน แต่ต้องการเวลา เพราะการตามหาคนจะต้องใช้เวลานานพอสมควร ถ้าชีคนาซจะพิจารณาเรื่องเครื่องเจาะใหม่อาจจะมีเวลาเพิ่ม ไม่ใช่แค่ไปดูแล้วถูกไล่กลับ
“ท่านพูดจริงใช่ไหม?”คนถามตวัดสายตามองอย่างคาดคั้น
“ข้าพูดจริงเสมอ”ชีคนาซตอบ แต่แอบยิ้มใจใน แค่จะพิจารณาใหม่ ไม่ได้หมายความว่า ตอบตกลงสักหน่อย
“งั้นผมขอบอกคนของผมก่อน”คนถูกลากต่อรอง
“ได้”ชีคนาซอนุญาต
ท่านก็ปล่อยมือผมก่อนสิ คนถูกลากให้เดินตามบอก ไม่ชอบใจที่อีกฝ่ายยังจับแขนตนไว้มั่น ราวกับว่าจะลากไปไหนต่อไหนตามใจตนเช่นนี้ตลอดไป
ชีคนาซยอมปล่อยมือแต่ยังยืนคุมอยู่ไม่ห่าง คนถูกปล่อยตัวชั่วคราวหยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะกดโทรศัพท์หามือซ้ายของตน
ไผท ประชุมเสร็จหรือยัง?”ถามด้วยภาษาไทย เพื่อไม่ให้คนที่ยืนตะแคงหูรอฟังเข้าใจ
ครับปลายสายตอบรับ
มาหาเราที่ลอบบี้หน่อย ...ตอนนี้เลยนะสั่งเสร็จก็กดวางสาย ก่อนจะเขยิบถอยห่างคนที่ขยับมายืนชิด
ภาษาของเจ้าเพราะดีนะ เจ้าพูดว่าอะไรน่ะ?”ท่านชีคหลอกถาม
ก็แค่บอกให้คนของผมมาเจอที่ลอบบี้ ก็แค่นั้นคนถูกถามนิ่วหน้าใส่คนช่างซัก
ไม่ถึงหนึ่งนาที ไผทก็เดินออกจากลิฟท์ตรงมายังคนทั้งคู่
จะไปไหนกันหรือครับ?”เขาถามอย่างแปลกใจ เมื่อรู้สึกว่าเจ้านายตนยังไม่กลับห้องพักในตอนนี้
ไปดูแข่งอูฐท่านชีคตอบพร้อมกับเดินนำ แต่ก็ยังรั้งรอร่างเล็กให้เดินเคียงข้าง

นาซีม หัวหน้าบอดีการ์ดของชีคนาซ อซีซา บาฮจา ที่ยืนรออยู่หน้าโรงแรมมองแขกพิเศษสองคนที่เดินมากับเจ้านายของตนอย่างพิจารณา เขาเองรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ได้รับคำสั่งด่วนให้เพิ่มกำลังคนเพราะมีแขกจะร่วมเดินทางไปเมืองดาเรนในวันพรุ่งนี้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีแขกคนไหนเคยร่วมเดินทางไปกับท่านชีคเลย แล้วนี่ท่านจะพาแขกของท่านไปไหนอีก?’
ไปสนามแข่งอูฐบาลาชีคนาซ อซีซาสั่ง นาซีมโค้งคำนับก่อนรีบเดินไปเปิดประตูรถให้
แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อท่านชีคผายมือเชิญคนตัวเล็กให้ขึ้นรถ ก่อนท่านจะเดินอ้อมไปขึ้นอีกด้าน ส่วนผู้ชายอีกคนก้าวขึ้นนั่งหน้าคู่คนขับ

นาซีม ขึ้นรถอีกคันขับตามไป เพิ่งรู้ว่าคนตัวเล็กคือแขกคนสำคัญของเจ้านายตน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น