ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง ยอดร้าย ยอดรัก ตอนที่ 5-1


ตอนที่ ทรายนี้ยังมีน้ำ(ใจ)

ร่างเล็กที่นอนซมอยู่บนเตียงเริ่มขยับตัว ทำให้ร่างสูงที่นั่งนิ่งๆอยู่เดินเข้ามาดู
ฟื้นแล้วรึ?
เสียงถามเป็นภาษาอาหรับดังขึ้นใกล้หู ปาริฉัตต์ปรือตาขึ้นอย่างลำบาก ร่างกายทุกส่วนร้อนผ่าวเหมือนนอนอยู่บนกองไฟ กับทั้งหนักอึ้งคล้ายมีก้อนหินผูกถ่วงไว้ ริมฝีปากแห้งผากเผยอขึ้น
น้ำ...เสียงแหบแห้งดังลอดออกไปเพียงแผ่วเบา เป็นภาษาไทย         
อะไรนะ?คำถามเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงแปลกแปร่ง แต่ยังพอฟังรู้เรื่อง
“น้ำ..ขอน้ำ”คนป่วยก็เปลี่ยนภาษาเป็นภาษาอังกฤษเช่นกันเพราะคุ้นเคยดีอยู่แล้ว

ครู่ต่อมาก็มีหยดน้ำหยดลงบนริมฝีปากที่แห้งผากที่ละหยดช้าๆ ปาริฉัตต์แลบลิ้นเลียน้ำที่หยดลงบนริมฝีปาก
ขออีก..มากๆเธอร้องขอ เพราะน้ำแค่นี้ไม่พอจะทำให้คอที่แห้งเป็นผงชุ่มชื่นขึ้นเลย
แล้วก็รู้สึกว่ามีแก้วน้ำมาจ่อที่ริมฝีปาก มือแข็งแกร่งช้อนคอเธอขึ้นเพื่อช่วยพยุงให้เธอลุกเอนจะได้ดื่มน้ำได้ถนัด หญิงสาวพยายามจะดื่มน้ำมากๆให้สมใจ
ช้าๆเสียงกระซิบบอกทุ้มกังวาน เจือคำปลอบโยน
เมื่อได้ดื่มน้ำจนพอใจแล้ว หญิงสาวก็ปรือตาขึ้นมอง ภาพที่เห็นเลืองลางสลัวเหมือนอยู่ท่ามกลางหมอกควัน เธอรู้เพียงว่าเขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ ใบหน้าถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำเหลือเพียงดวงตาคมดุแลดูน่ากลัวจนหญิงสาวผงะอย่างตกใจ
“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”เขากล่าว ก่อนจะหมุนตัวเดินหนี
“เดี๋ยวค่ะ”
หญิงสาวเรียกรั้งเขาไว้ ก่อนจะพยุงกายลุกนั่ง เธอรู้สึกไว้ใจเขาอย่างประหลาด อาจจะเป็นเพราะประโยคที่เขาบอกว่าจะไม่ร้ายเธอนั้นหนักแน่นจนเธอวางใจ
“คุณเป็นใครคะ? และที่นี่คือที่ไหน?”หญิงสาวถาม
“ข้าเป็นใครมันไม่สำคัญหรอก ส่วนที่นี่คือคฤหาสน์ของชีคอัลลาม รัฐดรูไรดาราน”
“ดรูไรดาราน  ดรูไรดาราน ”หญิงสาวทวนเบาๆเพื่อทบทวนความทรงจำ
“อะ! แขกที่เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเมื่อวานนี้”
หญิงสาวนึกได้ เพราะเธอเป็นหัวหน้าฝ่ายต้อนรับประจำโรงแรมอาร์ทรายา และจำได้ว่ามีแขกจากตะวันออกกลางเข้าพักกลุ่มใหญ่เมื่อสองวันก่อนและพนักงานต้อนรับสาวๆต่างระริกระรี้อยากออกมาต้อนรับแขกคณะนี้เพราะเผื่อโชคดีพวกเธออาจจะ ตกบ่อน้ำมันก็ได้
“ใช่”
 “แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้?..
หญิงสาวชะงัก เมื่อภาพความทรงจำก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมา วันก่อนหลังเลิกงาน เพื่อนร่วมรุ่นได้โทรศัพท์มาชวนไปเลี้ยงฉลองก่อนจะสละโสด เธอจึงโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านว่าอาจจะกลับดึกหรือไม่ก็อาจจะค้างกับเพื่อนเลยไม่ต้องเป็นห่วง แต่หลังจากรับประทานอาหารเสร็จและไปฟังเพลงกันต่อ เพื่อนที่เธอตั้งใจจะไปค้างด้วยนั้นบังเอิญมีธุระด่วนต้องออกไปต่างจังหวัดทันที ทำให้เธอและกลุ่มเพื่อนสลายตัว กลับบ้านของตัวเอง และระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านนั้น มีรถเก๋งคนหนึ่งขับตัดหน้าและเบรคกระชั้นชิดทำให้รถที่เธอขับอยู่นั้นเบรคไม่ทันจนชนเข้าอย่างจัง โชคดีที่เธอขับรถไม่เร็วและคาดเข็มขัดนิรภัยจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ และขณะที่เธอเปิดประตูรถเพื่อออกมาดูคู่ก็กรณีก็ปรากฏว่ามีชายในชุดดำสองคนที่ขับรถตามหลังมาจอดต่อท้ายเปิดประตูลงมา และกรูกันเข้ามาจับเธอพร้อมกับใช้ผ้าปิดปากปิดจมูกเธอ จากนั้นบรรยากาศรอบตัวก็มืดมิดลงทันใด
ผู้ชายพวกนั้น...คุ..คุณลักพาตัวฉันมาหญิงสาวกระเถิบตัวหนีอย่างหวาดกลัว
ไม่ใช่ข้าเขาปฏิเสธเสียงเรียบ
แต่ผู้ชายพวกนั้น..ปาริฉัตต์มองหน้าเขาอย่างระแวง
ใช่...พวกเขาจับตัวเจ้ามา  แต่ไม่ใช่คำสั่งของข้าชายหนุ่มยืนยัน
ไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร?หญิงสาวยังคงไม่เชื่อใจเขา
ข้าบอกแล้วไง ว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของชีคอัลลามชายหนุ่มว่าพลางถอนหายใจอีกครั้ง
คุณหมายความว่าชีคอัลลามจับตัวฉันมา งั้นหรือคะ?ปาริฉัตต์มองหน้าเขาอย่างตกใจ ชายหนุ่มพยักหน้ารับ
เขาจะจับตัวฉันมาทำไม?หญิงสาวถามอย่างกังขา
แล้วผู้ชายเขาเอาผู้หญิงมาทำอะไรล่ะ?เขาย้อนถาม
ปาริฉัตต์นิ่งคิด แล้วร่างบางก็สั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว ไม่..ไม่จริง ฮือๆๆ พ่อจ๋า แม่จ๋าช่วยปลาด้วย
หญิงสาวเริ่มร้องไห้ตัวสั่นอย่างหน้าสงสาร
หยุดร้องไห้เถอะ ร้องไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก
ชายหนุ่มบอกเสียงเนือย เขาเห็นภาพแบบนี้มาจนชินชาเสียแล้ว
“แล้วคุณจะให้ฉันหัวเราะหรือไง?”
หญิงสาวแหว เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจ ซ้ำยังทำเสียงเบื่อหน่ายใส่เธออีก
ชายหนุ่มนิ่งอึ้งอย่างคาดไม่ถึงว่าจะโดนย้อนแบบนี้ เพราะที่เคยเห็นหญิงสาวมากมายที่เข้ามาอยู่ที่นี่ ถ้าไม่โวยวายอย่างคนเสียสติก็จะยินดีปรีดากับแก้วแหวนเงินทองที่ชีคอัลลามประเคนให้ระหว่างที่ยังเป็นของใหม่ ไม่มีสักคนจะมาชักสีหน้าและกล้าย้อนเขาแบบนี้
“ใช่ หัวเราะสิ เจ้าไม่รู้หรือว่ามีผู้หญิงมากมายแค่ไหนที่อยากมาอยู่ที่นี่”เขาบอกเสียงหยัน ความขมขื่นแล่นขึ้นมาจนแน่นหน้าอก เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เรื่องที่คนๆหนึ่งอยากมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้จนถึงขนาดทรยศได้แม้กระทั้งคนที่รักเธอสุดหัวใจ
“แต่ไม่ใช่ฉัน”หญิงสาวแย้งเสียงแข็ง เธอเองไม่ได้อับจนสิ้นหนทางจนต้องยอมขายศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงกิน
“หึ ถ้าได้เจอกับท่านชีค เจ้าอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”ชายหนุ่มกล่าวต่อ
ไฟสามารถหลอมละลายเหล็กที่แข็งแกร่งได้ฉันใด ทรัพย์สินและอำนาจก็สามารถละลายหัวใจคนได้ฉันนั้น  กี่คนแล้วล่ะที่ใจหลอมละลายจนติดอยู่ในกรงทองแห่งนี้ จนตาย
“ฉันยังยืนยันว่าฉันไม่สนใจ ฉันเคยเจอชีคอัลลามแล้ว และท่านก็ไม่ใช่สเปคของฉันแน่”ปาริฉัตต์ตอบอย่างมั่นใจ
ตุ่มต่อขาเช่นนั้น ต่อให้ฉาบทองทั้งตัวเธอก็ไม่สนใจหรอก เพราะครอบครัวของเธอก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตอก เธอเองก็ได้ทำงานอยู่ในเครือบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก และที่สำคัญเธอนั้นมีหนุ่มในฝันอยู่แล้ว หนุ่มหล่อ สมาร์ท ฉลาด นิ่งๆ ดูอบอุ่นเป็นแฟมิลี่แมนแบบท่านรองฯนั่นต่างหากที่เธอวาดฝันไว้ ฉะนั้นโอ่งราชบุรีอย่างชีคอัลลามหรือจะทำให้เธอเปลี่ยนใจได้
มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นนิดๆ เมื่อเห็นท่าทีมั่นอกมั่นใจของหญิงสาว ใช่..เขาเห็นสายตาของเธอที่มองตามผู้ชายคนหนึ่งที่เดินผ่านหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ไปในวันที่เขาต้องอยู่โยงคอยเฝ้าดูเธอ ถ้าสเปคของเธอคือผู้ชายคนนั้น ชีคอัลลามก็ต้องไม่ใช่สเปคของเธอแน่ๆ ในเมื่อเธอชอบผู้ชายสูงโปร่ง แต่ชีคอัลลามกลับคล้ายโอ่งเดินได้เช่นนี้
“คุณพอจะช่วยฉันได้ไหมคะ?”
ปาริฉัตต์เริ่มคิดหาลู่ทางช่วยตัวเอง ผู้ชายตรงหน้าถึงแม้จะดูสูงใหญ่แถมปกปิดหน้าตาทำให้น่ากลัว แต่สัญชาตญาณบอกเธอว่า เขาสามารถพึ่งพาได้
“ให้ข้าช่วยเจ้านี่นะ?”ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ เธอคิดอะไรอยู่หรือเปล่าทำไมกล้าขอให้เขาช่วย ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้ว่าเขาคือบริวารของผู้ชายที่จับเธอมา
“ใช่ คุณพอจะมีทางช่วยฉันได้ไหม? หรือไม่ก็บอกฉันทีว่าฉันควรจะทำยังไงถึงจะหนีไปได้”หญิงสาวถาม
“แล้วทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าจะช่วยเจ้า หรือคิดหาวิธีให้เจ้าหนีไป เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าข้าเป็นลูกน้องของชีคอัลลาม”ชายหนุ่มถามตรงๆ
“ใช่ ฉันรู้ว่าคุณเป็นลูกน้องของชีคอัลลาม แต่ไม่รู้สิ”หญิงสาวยักไหล่
“ซิกเซนต์ของฉันบอกว่าคุณพึ่งพาได้ และมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยฉันให้พ้นจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ได้”
หญิงสาวบอกตามความรู้สึก เธอมีซิกเซนต์ค่อนข้างแม่น แม้แต่วันที่เกิดเรื่องซิกเซนต์ก็เตือนเธอ เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงไม่สามารถหาทางป้องกันไว้ก่อนได้ หรือบางทางอาจจะเป็นกรรมลิขิตที่เธอไม่สามารถหนีพ้นก็เป็นได้
ชายหนุ่มถอนหายใจ…..ใช่ เขาห่วงใยเธอ อย่างที่ไม่เคยห่วงใยใคร แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงมีความรู้สึกอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะตลอดเวลาสองวันที่เขาเฝ้าดูเธออยู่ที่โรงแรมอาร์ทรายา เขาถูกความสดใสของเธอดึงดูดสายตาเอาไว้ ทำให้เขาคิดถึงเด็กสาวคนหนึ่งเมื่อสิบปีก่อน เด็กสาวที่เคยสวยสดใสแบบนี้ แต่ทรัพย์สินและความสะดวกสบายได้เปลี่ยนเธอไปจนหมดสิ้น ไม่เหลือเค้าความสดใสที่เคยมี มีแต่ความงดงามฟุ้งเฟ้อที่เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ แม้กระทั่งหักหลังใครสักคน เพื่อให้ตัวเองรอด เขาไม่อยากให้เด็กสาวคนนี้ เป็นเหมือนเด็กสาวคนนั้น
“เจ้าพักผ่อนเถอะ”ชายหนุ่มตัดบท
“แต่คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าจะช่วยฉันหรือเปล่า?”หญิงสาวท้วงเสียงแผ่ว
“เจ้าควรอยู่อย่างสงบ และอย่าพยายามหนีอย่างเด็ดขาด เพราะพวกยามได้รับคำสั่งให้ฆ่าทุกคนที่คิดหนี แต่พวกมันจะไม่ฆ่าทิ้งทันทีหรอกนะ พวกมันจะรุมโทรมจนกว่าเจ้าจะเหลือแต่ซากแล้วค่อยไปโยนทิ้งไว้กลางทะเลทรายให้เป็นเหยื่อของสัตว์ร้าย ฉะนั้นถ้ายังรักจะมีชีวิตอยู่ต่อก็อย่าพยายามหนีเองโดยเด็ดขาด”เขาเตือนเสียงเข้มก่อนจะเดินออกไปแล้วปิดประตูล็อคกุญแจจากด้านนอก
ปาริฉัตต์มองตามคนที่เดินหนีไปโดยที่ไม่ได้ตกปากรับคำใดๆ แต่เธอกลับรู้สึกวางใจ เพราะน้ำเสียงที่เขาเตือนเป็นประโยคสุดท้ายนั้นดูจริงจังและห่วงใยอยู่ในที

หญิงสาวนั่งกอดเข่ามองๆไปรอบๆห้องที่คุมขัง ห้องกว้างที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงามกลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในคุกที่แสนอึดอัดอึดอัด  เธอทิ้งตัวลงนอนอีกครั้งอย่างอ่อนล้า เพราะยาสลบยังไม่หมดฤทธิ์ จากนั้นก็เริ่มสวดมนต์ภวนาในใจ ขอให้ตัวเองแคล้วคลาดปลอดภัยจากเรื่องเลวร้ายในครั้งนี้ และได้กลับไปเจอหน้าครอบครัวโดยเร็วด้วยเถอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น