ซีรีย์นิยายชุด Diary Love เรื่อง แผนรักร้าย นายกะล่อน ตอนที่ 2-1


ตอนที่ 2 แผนร้ายของนายกะล่อน

อนพัทธ์เลิกคิดมากเรื่องอรปรียาเพราะมีเรื่องใหม่ให้ครุ่นคิด เขานอนคิดทั้งคืนว่าเขาควรจะทำยังไงถึงจะจีบยัยหัวฟูตัวร้ายนั่นติด เพราะก่อนหน้านี้เขาเคยคิดจะให้หล่อนเป็นสะพานเหยียบไปหาอรปรียา แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้จะเพียรหาของกำนัลไปฝากแต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจซ้ำยังฝากเพื่อนเขามาคืนเสียอีก  ฮึ ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำเด็ดขาด ตัวเขาเองก็ผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนแค่ผู้หญิงคนเดียวไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกน่า


วันต่อมาอนพัทธ์ใช้วิธีสะกดรอยตามเป้าหมาย โชคดีที่สี่สาวเรียนวิชาmechanicalที่คณะของเขาเป็นวิชาสุดท้าย จากนั้นก็ขับรถไปส่งอรปรียาที่ห้องสมุด แล้วขับรถตรงกลับบ้านพักโดยไม่รู้ตัวว่าถูกสะกดรอยตามเลยแม้แต่น้อย
อนพัทธ์ขับรถตามอย่างใจเย็น จนกระทั่งถึงบ้านแฝดหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรรที่ตั้งอยู่ฝั่งหลังมอสามสาวก็จอดรถไว้หน้าบ้านก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน อนพัทธ์จอดรถอยู่ไม่ห่างพลางครุ่นคิดหาวิธีที่จะเข้าไปตีสนิทยังไงดี
ครู่หนึ่งสองสาวที่อยู่ในบ้านก็ออกมาและขับรถออกไป แสดงว่าตอนนี้ในบ้านนั้นมีเพียงเป้าหมายของเขาเพียงคนเดียว  อนพัทธ์ยิ้มกริ่มกำลังจะเดินไปกดออดหน้าบ้านหลังนั้น แต่แล้วบ้านหลังติดกันที่เขากำลังเดินผ่านกันก็มีชายวัยกลางคนเปิดประตูออกมาพร้อมถือป้าย ให้เช่า อนพัทธ์ชะงัก
พี่ครับ บ้านนี้ว่างหรือฮะ?”
ชายคนนั้นพยักหน้ารับ ครับ คนเช่าคนก่อนเพิ่งย้ายออกเมื่อเช้านี้ น้องสนใจไหม?”
ครับ พี่คิดค่าเช่าเดือเท่าไหร่ล่ะ?”
สี่พัน แต่ต้องจ่ายล่วงหน้าสองเดือน บวกกับเดือนนี้ก็เป็นสามเดือน ค่าประกันอีกพันนึง
อนพัทธ์บวกเลขในใจ หมื่นสาม เงินในกระเป๋ามีเพียงสามพันกว่าบาท
พี่รอผมแป๊บนึงนะ ผมไปกดตังค์ก่อน อย่าเพิ่งให้ใครเช่านะฮะชายหนุ่มกำชับ
 เจ้าของบ้านพยักหน้ารับอย่างยินดี ก่อนจะไขประตูกลับไปรอคนเช่ารายใหม่ในบ้าน อนพัทธ์รีบเดินไปหน้าปากซอยที่มีตู้ATMตั้งอยู่ เพียงห้านาที ชายหนุ่มก็กลับมาพร้อมเงินเต็มกระเป๋า
เข้ามาดูบ้านก่อนสิ น้องจะอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนล่ะ?”
อนพัทธ์เดินเข้าบ้านพลางตอบคำถามคนเดียวครับ เอ่อ..แต่บางทีเพื่อนอาจจะมาค้างด้วย
เจ้าของบ้านพยักหน้ารับรู้ สมัยนี้นักศึกษามักจะมาเช่าบ้านอยู่เป็นคู่ๆ มีให้เห็นจนชินตา สองคนที่เพิ่งย้ายออกไปก็เช่นเดียวกัน แต่เขาเป็นเพียงเจ้าของบ้าน ในเมื่อพ่อแม่ของเด็กยังไม่ว่าอะไร เขาจะทำอะไรได้ นอกจากทำเอาหูไปนาเอาตาไปไล่ ถือซะว่ามันเป็นไปตามยุคตามสมัย
อนพัทธ์เดินสำรวจบ้านซึ่งตอนนี้โล่งสะอาดเพราะเจ้าของบ้านเพิ่งทำความสะอาดเสร็จ สองห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ หนึ่งห้องครัว และมีห้องโถงซึ่งใช้เป็นห้องนั่งเล่นได้อีก กว้างเกินไปสำหรับอยู่คนเดียว แต่เพื่อเป้าหมายที่สำคัญเขาก็พร้อมจะลงทุนกับมัน
ตกลงครับ
นี่หนังสือสัญญาเช่า
เจ้าของบ้านยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้า อนพัทธ์ก็คว้าไปอ่าน ก่อนจะเซ็นชื่อ พร้อมกับยื่นเงินที่ต้องจ่ายให้เจ้าของบ้าน
นี่เบอร์โทรของพี่ ถ้าจะย้ายออกต้องบอกก่อนล่วงหน้าหนึ่งเดือนนะ
อนพัทธ์รับนามบัตรนั้นมา ก่อนจะบอกเบอร์โทรศัพท์ของเขาไป  อยากจะบอกเจ้าของบ้านเหมือนกันว่าผมจะเช่าเดือนนี้เดือนเดียว แต่ดูแล้วมันคงดูไม่ดีนัก รอสักประมาณกลางเดือนค่อยโทรบอกดีกว่า
เจ้าของบ้านกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนเช่ารายใหม่ที่กำลังเดินสำรวจบ้านพร้อมคิดวางแผนการต่างๆอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ขั้นแรกควรจะทำยังไงดีนะ? อ้อ ต้องไปแนะนำตัวกับเพื่อนบ้านก่อน อยากรู้จังว่าถ้ายัยนั่นรู้ว่าเขาจะย้ายมาอยู่ข้างๆบ้านจะทำหน้ายังไง?’

ติ๊ง ต๊องๆๆๆ
ธีราภรณ์ขมวดคิ้ว ใครวะกดออดอยู่ได้ บ้านไม่เคยมีหรือไงนะ?’ หญิงสาวจำต้องวางมือจากการหั่นผัก เดินไปเปิดประตูบ้านด้วยความหงุดหงิด
ทันทีที่มองเห็นคนที่ยืนยิ้มอยู่หน้าบ้าน สมองของเธอก็เกิดอาการช็อคไปชั่วขณะ
สวัสดีครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะย้ายมาอยู่ข้างๆบ้านคุณ ก็เลยมาฝากเนื้อฝากตัวน่ะครับ
หญิงสาวหมุนตัวกลับเข้าบ้านพร้อมปิดประตูตามหลังทันที บอกตัวเองซ้ำๆว่ากำลังฝัน แถมเป็นฝันร้ายสุดๆเสียด้วย
ธีราภรณ์หยิกแขนตัวเองแล้วต้องสะดุ้งโหยง เจ็บนี่นา แสดงว่าไม่ใช่ฝัน หญิงสาวค่อยๆเลิกผ้าม่านแอบมองไปหน้าบ้าน ผู้ชายคนนั้นยังคงยืนยิ้มกริ่มอยู่เช่นเดิม
หญิงสาวยืนหน้าซีดตัวสั่น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้ ผู้ชายที่เธอเกลียดที่สุด กำลังจะกลายมาเป็นเพื่อนบ้าน แล้วรุ่นน้องคู่นั้นย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมถึงปล่อยให้ปีศาจตนนี้เข้ามาสิงสถิตแทนได้

ย้อนกลับไปเมื่อสามเดือนก่อน


ขณะที่อรปรียา ธีราภรณ์ วาสินี และทิฆัมพรกำลังนั่งรอเรียน mechanical ที่โต๊ะกลมข้างตึกเรียนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชายหนุ่มสุดหล่อคนหนึ่งก็เดินยิ้มร่าเข้ามาทัก
หวัดดีอร พัทธ์มองอยู่ตั้งนานนึกว่าไม่ใช่อรซะอีก ใส่ชุดนักศึกษาแล้วดูแปลกตาไปนะปากเอ่ยทักอรปรียาแต่ส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้คนทั้งโต๊ะ
อ้าวพัทธ์ หวัดดีจ๊ะ สบายดีเหรอ?”
สบายดี แล้วอรล่ะ ไม่ยอมติดต่อกันเลยนะทั้งน้ำเสียงและแววตาแสดงอาการตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด
อรปรียาหัวเราะเฉยเสีย
อรจะไม่แนะนำเพื่อนๆให้พัทธ์รู้จักบ้างเลยเหรอ?”
อ้อ โทษที นี่อ๋อมนะ นี่น้ำ แล้วก็แก้ม  ส่วนนี่อนพัทธ์ คณะวิศวะ เพื่อนสมัยม.ปลายของฉันอรปรียาเอ่ยแนะนำง่ายๆ
ยินดีที่ได้รูจักครับชายหนุ่มส่งยิ้มหวานตาพราวระยิบระยับ
ธีราภรณ์ชะงักขมวดคิ้ว นี่มันนายอนพัทธ์ คณะวิศวะ ผู้ชายในแบลคลิสต์ ที่ต้องอยู่ห่างให้มากที่สุดนี่นา ยิ่งเห็นสายตาแวววาวเจ้าชู้นั่นแล้ว ธีราภรณ์ก็บอกตัวเองว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ
ระหว่างที่คุยกันทันทีที่อรปรียาเผลอชายหนุ่มจะแอบมองเธอด้วยแววตาอ่อนหวาน ธีราภรณ์ขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้ง หรือว่านายนี่แอบชอบยัยอร?’

วันต่อมาเวลาเดิม อนพัทธ์หอบกุหลาบแดงช่อใหญ่เดินตรงมาหาสี่สาว ธีราภรณ์คิดว่าเขาคงเอามาให้อรปรียา แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจแทบช็อคเมื่อเขายื่นมันมาให้เธอ เมื่อได้สติหญิงสาวก็รู้สึกถึงควันไฟที่มันพวยพุ่งออกมาจากหู ยิ่งได้ยินเสียงล้อเลียนของเพื่อนตัวดีที่นั่งอยู่ข้างๆ ยิ่งทำให้เธอโกรธจนหัวหมุนอยากจะหันไปบีบคอพวกนกกระจิบเหล่านี้ให้ตายคามือยิ่งนัก
แต่เธอทำได้แค่เพียงลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินหนีไปยังห้องเรียนอย่างหงุดหงิด แต่อรปรียายังอุตส่าห์หอบดอกไม้ช่อนั้นเดินตามมาอีก
แกหอบมันมาทำไมวะไอ้อร?”ธีราภรณ์แหวเสียงแหลม
อ้าว ก็นึกว่าแกเขินไม่กล้าถือ ฉันก็เลยถือมาให้อรปรียาตอบด้วยใบหน้าใสซื่อแต่ตาแวววาว
ฉันไม่ได้เขิน แต่ฉันไม่อยากได้แกเข้าใจไหม?”ว่าแล้วธีราภรณ์ก็แย่งดอกไม้ช่อนั้นไปโยนทิ้งลงถังขยะหน้าห้องเรียนอย่างไม่แยแส
แกเอาทิ้งทำไมอ่ะ?”อรปรียาตาโตถามอย่างแปลกใจ
ไม่อยากได้ หรือแกเสียดาย ฉันไปค้นมาให้ธีราภรณ์ประชด
เปล๊าอรปรียายักไหล่
ธีราภรณ์มองถังขยะอย่างหงุดหงิด นายนั่นกำลังคิดอะไร?’

ไม่เพียงแค่นั้นวันต่อมาเขายังฝากขนมเค้กที่แต่งหน้าเป็นกุหลาบแดงมาให้อีก และคนที่ถือมาให้ก็ไม่ใช่ใครอื่น ก็คืออรปรียาเพื่อนที่แสนดีของเธอนั้นเอง
เอาทิ้งไปเลยไอ้อรธีราภรณ์สั่งอย่างหงุดหงิด
ทำไมล่ะ เค้กร้านอร่อยเลยนะแก น่าเสียดายออกวาสินีทักท้วงทำตาละห้อยอย่างเสียดาย
เสียดายนักแกก็กินมันไปเลยธีราภรณ์ประชดอย่างหมั่นไส้
ได้ผล..  สามสาวเพื่อนซี้ลงมือจัดการกับเค้กก้อนนั้นทันที แถมยังมีหน้าหันมาชวนโดยไม่สนใจตาเขียวๆที่เกือบจะเรืองแสงได้ของเธอ
อื่อ อร่อยนะแก ลองชิมดูสิ
ธีราภรณ์อยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน แต่ที่ทำได้ก็แค่เพียงเดินกระแทกเท้ากลับเข้าห้องนอนอย่างหงุดหงิด ไอ้เพื่อนบ้า จะตะกละตะกลามไปถึงไหนวะ?’

อาทิตย์ต่อมาเขายังฝากผ้าพันคอไหมพรมมาให้อีก ธีราภรณ์ยอมรับว่าผ้าพันคอผืนนั้นถูกใจมาก แต่..ไม่มีวันที่เธอจะยอมรับของกำนัลจากผู้ชายเจ้าชู้อย่างนั้นเด็ดขาด เธอบังคับให้เพื่อนตัวดีที่ริอ่านทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักนำมันไปคืนกับเจ้าตัวให้ได้
จากนั้นเขาก็หายหน้าไปจากชีวิตเธอเกือบสองอาทิตย์ แต่หลังจากที่อรปรียาออกจากโรงพยาบาลเนื่องจากไปกินอาหารไม่สะอาดจนท้องร่วงต้องนอนให้น้ำเกลือเกือบอาทิตย์ เขาก็กลับมาอีกครั้ง โดยทำทีแวะเวียนมาถามไถ่อาการของอรปรียาทุกครั้งที่พวกเธอมีเรียนที่คณะของเขา ถ้าแค่มาถามอาการของอรปรียา ธีราภรณ์จะไม่สนใจเลย แต่นายนั่นกลับชอบมายั่วให้เธอโมโหทุกครั้งที่เจอหน้า ยิ่งเธอวีนใส่เขาก็ยิ่งชอบใจ เดินยิ้มหน้าบานกลับไปราวกับเป็นพวกโรคจิต
แล้วจู่ๆวันหนึ่งเขาก็เรียกอรปรียาไปคุยด้วย ไม่ถึงสองนาทีอรปรียาก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
นายนั่นคุยอะไรกับแกวะ? ไอ้อรธีราภรณ์เอ่ยถามอย่างสงสัย
อรปรียาอึกอักลังเล ก่อนถอนใจ เขาสารภาพรักกับฉัน
ธีราภรณ์รู้สึกหูอื้อตาลาย โกรธจนควันแทบออกหู นายนั่นขยันหาของกำนัลมาฝากเพื่อที่จะหลอกใช้เธอเป็นสะพานข้ามไปหาอรปรียาอย่างนั้นเหรอ มันจะหยามกันเกินไปแล้ว หญิงสาวกัดฟันอย่างโกรธจัด ถ้าฆ่าคนแล้วไม่ผิดกฎหมาย นายนั่นต้องกลายเป็นศพด้วยฝีมือเธอแน่ๆ
ไปเรียนกันเถอะ เสียเวลากับคนไร้สาระมานานแล้วธีราภรณ์เอ่ยชวนเสียงขุ่น จะไปสนใจทำไมกับผู้ชายกะล่อนที่คิดหลอกสาวไปวันๆ สักวันผลกรรมต้องตามสนองแน่ธีราภรณ์บอกตัวเองซ้ำๆว่าเขาไม่มีค่าควรใส่ใจ

และแล้วอรปรียาก็ทำให้เพื่อนในกลุ่มต้องตกตะลึงเมื่อเธอพาชายหนุ่มสุดหล่อคนหนึ่งเข้ามาแนะนำ
เอ่อ นี่ทัน เป็นเอ่อ..อรปรียาอึกอักหน้าแดงก่ำ
ชายหนุ่มคนนั้นหัวเราะเบาๆมองหญิงสาวข้างกายด้วยแววตาอ่อนหวาน เพียงแค่นั้นเพื่อนๆก็รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง
เฮ้ย! แกแอบไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ?”วาสินีอุทานตาโต
อรปรียาหน้าแดงก่ำ ก่อนตอบอุบอิบไม่ได้แอบมีซะหน่อย  เพิ่งจะมีวันนี้เอง
ธีราภรณ์ยิ้มยินดีกับเพื่อน แล้วก็นึกสะใจเมื่อนึกถึงผู้ชายอีกคน

ธีราภรณ์ได้เจอหน้าอนพัทธ์อีกครั้ง  เขาอยู่ในสภาพโทรมสุดๆเท่าที่เคยพบมา เธอส่งยิ้มเยาะอย่างสะใจให้เขา อยากบอกว่า สมน้ำหน้าเสียด้วยซ้ำ แต่เธอก็ยังมีมนุษยธรรมพอ แค่นี้นายนั่นก็ได้ลิ้มรสผลกรรมที่เขาเคยก่อเอาไว้แล้วล่ะ ฉันขออโหสิกรรมให้นาย หวังว่าเราคงจะไม่พบไม่เจอกันอีก หญิงสาวกล่าวอโหสิกรรมในใจก่อนเดินจากไปด้วยความสะใจ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น