ซีรีย์นิยายชุด Diary Love เรื่อง แผนรักร้าย นายกะล่อน ตอนที่ 2-2


แล้วนี่มันคืออะไร? ก็ไหนว่าจะไม่พบไม่เจอกันอีกไง แล้วทำไมนายนั่นถึงได้มายืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าบ้านแถมบอกว่าจะย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านด้วย
หญิงสาวอยากลงไปชักดิ้นชักงอให้รู้แล้วรู้รอด
ไอ้อร แกอยู่ไหนวะ?”เมื่อทำอะไรไม่ได้ เธอก็รีบโทรหาตัวช่วยทันที
อ่านหนังสืออยู่ที่ห้องสมุดเสียงตอบเบาราวกระซิบ
แกกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ กลับมาตอนนี้เลยธีราภรณ์สั่งเสียงสั่น

หือ มีอะไร?”ปลายสายถามอย่างสงสัย
ก็ไอ้บ้าเพื่อนแกนะสิ ย้ายมาอยู่ข้างบ้านเราธีราภรณ์บอกอย่างหงุดหงิด
ไอ้บ้าไหนอะ?”
แกมีเพื่อนบ้าๆอยู่กี่คนวะ?”ธีราภรณ์ถามเสียงขุ่น
เยอะแยะ พวกแกก็บ้า
คำตอบของเพื่อนทำให้ธีราภรณ์ทั้งฉุนทั้งขำ
แกนั่นแหละบ้า ฉันหมายถึงไอ้กะล่อนเพื่อนเก่าแกที่เรียนวิศวะน่ะไม่อยากเรียกชื่อให้เป็นอัปมงคลกับปาก
อ้อ พัทธ์นะเหรอ
เออ นั่นแหละ ตอนนี้นายนั่นมายืนยิ้มอยู่หน้าบ้านเรา แกช่วยมาไล่เขาออกไปที
เฮ้ย! ฉันไม่ใช่เจ้าของบ้านนะ จะไล่เขาไปได้ยังไงอรปรียาทักท้วง
ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ตาม แกต้องกลับมาจัดการให้ฉัน เดี๋ยวนี้ด้วยสั่งเสร็จก็กดวางสายไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายปฏิเสธได้

วทันยูมองหน้าคนที่ทำหน้ามุ่ยตรงหน้าแล้วต้องอมยิ้ม แฟนของเขาทำหน้ายังไงก็น่ารัก
ยิ้มอะไรอ่ะ คนยิ่งกลุ้มๆอยู่นะอรปรียาค้อนขวับ
กลุ้มเรื่องอะไรจ๊ะ? มีอะไรให้ทันช่วยไหม?”
เสียงถามแสนอ่อนโยนเอาใจนั้นทำให้อรปรียายิ้มได้
ก็นายพัทธ์นะสิ  ไปเช่าบ้านอยู่ข้างๆบ้านอร ไอ้น้ำก็เลยเป็นโรควิตกจริต สั่งให้อรไปไล่นายนั่นออกไป อรไม่ใช่เจ้าของบ้านสักหน่อยคนเล่าหน้ามุ่ย พร้อมถอนใจเฮือก
คนฟังขมวดคิ้วหน้าตึงทันที ไอ้พัทธ์กำลังจะทำอะไรกันแน่?’
เรากลับบ้านกันเถอะ
 คำว่าบ้านทำให้คนชวนรู้สึกอบอุ่นวาบหวาม เพิ่งเข้าใจว่าทำไม พวกที่มีแฟนถึงชอบไปเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ
เขามองหน้าคนข้างกาย เธอเพียงพยักหน้ารับไม่สะดุดใจอะไร วทันยูอยากถามความคิดเห็นของหญิงสาวถึงเรื่องที่นักศึกษาชอบไปเช่าห้องอยู่กันเป็นคู่ๆ แต่ก็กลัวเธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นพวกชอบชิงสุกก่อนห่ามจึงสะกดใจไว้ หลังจากที่คบกันมาพักหนึ่งเขาก็รู้ว่ากลุ่มของเธอค่อนข้างหัวโบราณเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

เพียงสิบนาทีรถซีวิกซ์สีบอร์นก็แล่นมาจอดหน้าบ้านแฝดหลังเล็ก ซึ่งมีชายหนุ่มหน้าตาดียืนยิ้มร่ารออยู่
หวัดดีอร พัทธ์มาเช่าบ้านอยู่ข้างบ้านอรล่ะ
อนพัทธ์ยิ้มหน้าบาน อรปรียาขมวดคิ้วพยักหน้ารับรู้ ด้วยสีหน้าไม่สบายใจนัก
อร ทันขอคุยกับไอ้พัทธ์แป๊บนึงนะวทันยูรีบกันแฟนสาวออกห่าง พร้อมกับจ้องหน้าเพื่อนเขม็งอย่างไม่ไว้ใจ
อรปรียาพยักหน้ารับก่อนเดินเข้าบ้านพักของตัวเอง

ไอ้อร แกคุยกับเพื่อนแกหรือยัง?”ธีราภรณ์เอ่ยถามอย่างร้อนใจทันทีที่อรปรียาเปิดประตูเข้าบ้านไป
ทันกำลังคุยอยู่
หือ ทำไมแฟนแกต้องไปคุยกับหมอนั่นด้วย?”ธีราภรณ์ขมวดคิ้วสงสัย
ก็เขาเป็นเพื่อนกัน
หือ แฟนแกก็เป็นเด็กวิศวะเหรอ?”ธีราภรณ์ตาโต
อ้าว ฉันยังไม่ได้บอกพวกแกเหรอ?”อรปรียาเลิกคิ้วถามอย่างไม่แน่ใจ
ธีราภรณ์ค้อนขวับ บอกบ้าอะไรล่ะ แกพาเขามาแนะนำและเล่าเรื่องที่เจอกันยังได้ไงแค่นั้น
อ้าวเหรอ โทษทีอรปรียายกมือขอโทษ
ช่างมันเถอะ แต่ว่าแฟนแกจะไล่หมอนั่นไปได้ไหม?”ธีราภรณ์ถามถึงเรื่องที่ร้อนใจอยู่ขณะนี้
ไม่รู้สิ เดื๋ยวก็คงรู้เรื่อง ว่าแต่แกกำลังทำอะไรอยู่น่ะ?”อรปรียาเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นผักที่ถูกหั่นค้างไว้
ว่าจะแกงส้ม ไอ้บ้านั่นมากดออดก่อน ฉันก็เลยสติแตกคิดอะไรไม่ออกธีราภรณ์บอกอย่างหงุดหงิด
ฮ่าๆๆ แกนี่ท่าจะเป็นเอามาก กลัวนายพัทธ์อะไรนักหนา?”อรปรียาส่ายหน้าหัวเราะขำ
ธีราภรณ์ตาวาว ฉันไม่ได้ กลัว แต่ ฉัน เกลียด เข้าใจไหม?”เธอกล่าวย้ำทีละคำ
เออๆ เข้าใจแล้ว ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ระวังนะ เขาว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอนะแกอรปรียาแหย่พร้อมหัวเราะเบาๆ
ธีราภรณ์ค้อนขวับ ไอ้บ้า ปากไม่เป็นมงคล

********

ทันทีที่อรปรียาเดินเข้าบ้าน วทันยูก็หันมาเผชิญหน้ากับเพื่อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ไอ้พัทธ์ แกทำยังงี้หมายความว่าไงวะ?” วทันยูมองเพื่อนตาขวาง
ทำอะไร ? ฉันยังไม่ทำอะไรเล๊ยอนพัทธ์ตีหน้าซื่อ
แกไม่ต้องมาทำไขสือ แกย้ายมาอยู่ข้างบ้านเขา แกต้องการอะไรกันแน่?”วทันยูถามด้วยสีหน้าจริงจัง
อนพัทธ์หัวเราะขำ ไอ้ทัน ถึงจะฉันบ้า แต่ก็ไม่โง่ที่จะยอมอกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอกนะโว้ย จุดประสงค์ของฉันอยู่ที่เพื่อนของอร ยัยหัวฟูๆน่ะ
วทันยูหรี่ตามองไม่ไว้ใจ
ถ้าแกกลัวว่าฉันจะไปวอแวกับอร แกก็ย้ายมาอยู่กับฉันสิ ห้องก็ว่างอีกตั้งห้องนึง
แสดงว่าแกไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม?”วทันยูถามเสียงจริงจัง
เปลี่ยนบ้าอะไรล่ะ ฉันจ่ายไปหมื่นกว่าบาท แกว่ามันเปลี่ยนได้ง่ายนักหรือไง? สัญญาเช่าก็เซ็นไปแล้ว
หือ? ค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่?”
สี่พัน จ่ายล่วงหน้าสองเดือน รวมเดือนนี้ก็สาม มัดจำอีกพัน ไม่รู้ว่าพ่อจะว่าอะไรหรือเปล่า?”
ก็สมควรแล้วล่ะ ห้องที่คอนโดก็ซื้อไว้ให้ แกยังหาเรื่องมาเสียตังค์เช่าบ้านอีกวทันยูส่ายหน้า
อนพัทธ์ยักไหล่ โดนพ่อด่ายังดีกว่าต้องกราบตีนไอ้ชัยล่ะวะ
แล้วแกจะมาอยู่กับฉันไหม?”อนพัทธ์เปลี่ยนเรื่อง
ไม่รู้ว่าอรจะว่าอะไรหรือเปล่า?”วทันยูนิ่วหน้าอย่างลังเล
อนพัทธ์หัวเราะขำ ไอ้นี่สงสัยมาจากเผ่า เกลียมัว  ยังไม่ทันไรก็ออกอาการซะแล้วแล้วอนพัทธ์ก็คลี่ยิ้มดวงตาแวววาวเจ้าเล่ห์
เฮ้อ ถ้าอยู่ใกล้อรมากๆ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะตัดใจได้หรือเปล่า?”
วทันยูตาโต ไอ้พัทธ์! แกพูดอย่างงี้หมายความว่าไงวะ?”
อ้าว แกไม่อยู่คุมฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าจะแอบเผลอใจหรือเปล่า ว่าไงแกจะมาอยู่กับฉันไหม?”คนถามตาวิบวับ
ไอ้บ้า ฉันต้องมาอยู่แล้ว ใครจะไว้ใจแกวทันยูตอบอย่างหงุดหงิด ไอ้หมอนี่ไว้ใจได้ซะที่ไหน
งั้นเราก็ไปเก็บของกันเถอะอนพัทธ์ชวนหน้าบาน
เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแกจะย้ายมาอยู่ตั้งแต่วันนี้วทันยูตาโต
ก็เออสิวะ คนยิ่งไม่มีเวลาอยู่ด้วย
เวลาอะไร? แกกำลังวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่า?”วทันยูถามอย่างระแวง
อ้าว ฉันก็ต้องรีบทำคะแนนสิโว้ย ยิ่งอยู่ใกล้เขาเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีไม่ใช่หรือ? หรือว่านายไม่อยากอยู่ใกล้ๆอร?”
ก็อยากอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะว่ายังไง
นายนี่มันเผ่าเกลียมัวชัดๆ เราเป็นผู้ชายนะโว้ย อย่าให้ผู้หญิงข่มได้สิวะอนพัทธ์ตบบ่าเพื่อนอย่างล้อเลียน
วทันยูยิ้มเขิน เออๆ แล้วฉันจะคอยดูแก
คงต้องรอไปถึงชาติหน้าโน้นแหละ เพราะฉันมันเผ่า มัวเกลีย ไม่ใช่เผ่าเกลียมัวแบบนาย อนพัทธ์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างอย่างมั่นใจ
วทันยูยิ้มที่มุมปาก พลางคิดในใจ  ฮึ แล้วฉันจะคอยดู ไอ้พวกปากดีอย่างนี้แหละ ยิ่งกลัวมากกว่าใครเพื่อน
ส่วนอนพัทธ์กำลังอมยิ้ม เมื่อเขานึกภาพตัวเองนั่งเอนตัวอย่างสบายอารมณ์อยู่บนโซฟาหนานุ่มพลางชี้นิ้วสั่งงานโดยมียัยหัวฟูวิ่งลุกลี้ลุกลนทำตามบัญชาของเขาราวกับทาสผู้จงรักภักดี

สองหนุ่มก็ขับรถตามกันออกไป ด้วยรอยยิ้มอย่างหมายมาดไปคนละทาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น