ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง ยอดร้าย ยอดรัก ตอนที่ 5-2






เจ็ดนาฬิกาสามสิบนาทีคณะของทีเค กรุ๊ปก็เดินทางมาถึงตึกสำนักงานใหญ่ของ บาฮจา กรุ๊ป ซึ่งขณะนี้มีรถยนต์เกือบสิบคันจอดเรียงรายเตรียมพร้อมสำหรับเดินทางวันนี้ อาบีรกำลังตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเอง
อรุณสวัสดิ์ครับท่านอาบีร
คนตัวเล็กในชุดสูทสีดำที่ก้าวลงจากรถตู้เป็นคนแรกเอ่ยทักทายชายชราอย่างอ่อนโยน
อาบีรยิ้มรับ อรุณสวัสดิ์ครับมิสเตอร์อาทิตย์ ตื่นเต้นไหมกับการเดินทางกลางทะเลทรายครั้งแรก?”
คำถามนี้ทำให้คนตัวเล็กยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นทำให้คนที่เพิ่งเดินออกมาจากตึกสะดุดขาตัวเอง แทบหัวคะมำ
มาเร็วนี่ ข้านึกว่าเจ้าจะมาไม่ทันเสียอีกชีคนาซ เอ่ยถามแก้เก้อเมื่อเห็นคนตัวเล็กจ้องมองเขม็ง

ผมรักษาเวลาเสมอคนตัวเล็กบอกหน้าง้ำ
อะไรวะ ทีกับอาบีรมันยิ้มกว้าง ปากแทบฉีกถึงหู แต่ทีกับข้าทำไมมันถึงชอบทำหน้างออยู่เรื่อยชีคนาซคิดอย่างหงุดหงิดใจ ไม่ชอบให้มันยิ้มกับใครนอกจากตัวเอง
เจ้าพร้อมจะออกเดินทางหรือยัง?ชีคนาซเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากเถียงกับมันตั้งแต่เช้า
พร้อมตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
คนตอบกลับตอบกวนๆเสียอย่างนั้น ทำให้คนไม่อยากมีเรื่องอดที่จะถามประชดกลับไม่ได้
ทำไมเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่เมื่อคืนล่ะ ข้าจะได้ออกเดินทางตั้งแต่เมื่อคืนซะเลย
 คนตัวเล็กมองค้อนแต่ไม่ได้ต่อปากต่อคำอีก
ผมต้องไปรถคันไหน?คนรวนเปลี่ยนเรื่องเสียดื้อๆ
คันนั้นชีคนาซชี้บอก ไม่ต่อความยาวเรื่องที่มันรวนเขาก่อน
คันนั้นคือรถยุโรปสุดหรูสีดำที่มีเพียงไม่กี่คันในโลกที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แค่ดูก็รู้ว่าสร้างมาให้กันกระสุนได้ทั้งคัน ตอนนี้จอดอยู่เป็นคันที่สามในขบวน ข้างๆรถมีบอดีการ์ดยืนเปิดประตูรอ
คนตัวเล็กพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะหันไปหากลุ่มคนของตน
ไผทกับเธอไปกับเรามันหันไปสั่งมือซ้ายกับหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มให้ขึ้นรถ แต่..
ใครบอกว่าจะให้สองคนนั้นขึ้นรถคันนั้น นั่นมันเฉพาะข้ากับเจ้าเท่านั้น ชีคนาซขัดขึ้น
คนตัวเล็กขมวดคิ้วทำไมผมถึงต้องไปกับท่าน?
เพราะเจ้าเป็นแขกของข้า ทำไม ไปกับข้า เจ้ามีปัญหาอะไร?ชีคนาซถามอย่างหงุดหงิดเมื่อคิดว่ามันไม่อยากนั่งรถคันเดียวกับเขา
“แต่เลขาของผม”อาทิตยาเป็นห่วงจินนี่ เพราะถึงจะเป็นแค่หญิงเทียม แต่เธอก็บอบบางยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ๆบางคนเสียอีก
 ทำไม เจ้ากับนางตัวติดกันหรือไง? ถึงจะต้องนั่งรถคันเดียวกันด้วย
ชีคนาซถามอย่างประชดเมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาใจใส่เลขาสาวคนนั้น ทีเมื่อคืนไม่เห็นมันจะสนใจนางรำคนไหนเลย แต่เช้านี้กลับดูเป็นห่วงเป็นใยเลขาสาวออกนอกหน้า หรือว่าจะไม่ใช่แค่เลขาแต่เป็นคู่รักที่มันพามาด้วย คิดถึงตรงนี้ยิ่งทำให้คนคิดหงุดหงิดใจยิ่งขึ้น
ก็เธอเป็น....ผู้หญิง  ถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทางจะทำยังไง?คนเป็นแขกท้วง
เจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นงั้นรึ?ชีคนาซถามหน้าบึ้งตึง
ก็ท่านบอกเองว่า การเดินทางผ่านทะเลทรายอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ เช่นอาจจะเจอกับพวกโจรทะเลทรายมันทวนประโยคที่ชีคนาซเคยบอกอย่างแม่นยำ
เจ้ากลัว?ชีคนาซเลิกคิ้วถาม
ผมไม่ได้กลัว แต่ห่วงว่าคนของผมจะได้รับอันตราย ท่านเคยได้ยินไหม ประโยคที่ว่า กันดีกว่าแก้น่ะมันบอก
เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก คนของข้าที่จะไปด้วยเป็นมือดีทั้งนั้น ข้ารับรองความปลอดภัยของพวกเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ท่านชีครับรอง
ให้เธอไปกับผมก็ได้ ไม่ต้องห่วง
ไผทรีบขันอาสา เพราะดูแล้วชีคนาซคงจะไม่ยอมให้คนตัวเล็กห่างกายแน่ แถมยังเหมือนจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาแทรกกลางอีกต่างหาก ผู้ชายด้วยกันดูกันออกว่าชีคนาซนั้นรู้สึกพิเศษกับเจ้านายตน แต่อาจจะไม่ถึงกับ รักเพราะยังไม่รู้ความจริง แต่ถ้ารู้ความจริงแล้วล่ะก็  เขาก็ไม่อยากคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเจ้านายของเขานั้นไอคิวสูงลิ่ว แต่อีคิวติดลบ อย่าว่าแต่มีคนมาคอยตื้อคอยตามจีบเลย แค่มีใครเข้ามาคุยให้รำคาญใจ ฝ่ายนั้นก็เตรียมตัวต้อนรับความหายนะได้เลย

เมื่อไผทออกมารับหน้า อาทิตยาก็พยักหน้ารับก่อนจะโบกมือให้คนของตนขึ้นรถตามที่คนของชีคนาซชี้บอก แล้วเฝ้ามองจนคนของตัวเองกับบอดีการ์ดของชีคนาซ ทยอยขึ้นรถจนหมด ก่อนจะก้าวขึ้นนั่งเคียงข้างคนตัวใหญ่ที่นั่งหน้าบึ้งรออยู่ในรถ ทันทีที่ประตูรถคันสุดท้ายปิดลง ขบวนเดินทางก็เริ่มเคลื่อนที่

ขบวนรถวิ่งไปตามรถขนาดใหญ่ในเมืองดูรฮาล ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านอยู่บนสองข้างทาง อาคารต่างๆถูกออกแบบจากช่างชาวตะวันตกทำให้งดงามและทันสมัยที่สุด ด้วยอำนาจเงินที่ได้จากการขายน้ำมัน ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเจาะลงไปที่ตรงไหนก็เจอ ไม่เว้นแม้แต่ในทะเล ทำให้คนที่นี่ร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ต้นตระกูลบาฮจาเคยเป็นหัวหน้าเผ่าเร่ร่อนที่เก่งกาจที่สุด เขามีอาณาเขตของตัวเองมากกว่าครึ่งประเทศ แล้วทายาทรุ่นต่อมายังมีความยังมีความสามารถทางการค้าอีก  โดยเฉพาะทายาทรุ่นล่าสุดที่มีชีคนาซ อซีซาเป็นผู้นำ เขาได้ขยายธุรกิจของตระกูลไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ทำให้ขณะนี้ตระกูลบาฮจาร่ำรวยและมีอำนาจมากในประเทศนี้ มากกว่าองค์ซีมา อุซามะกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศด้วยซ้ำ

เมื่อขบวนรถวิ่งออกห่างจากตัวเมืองออกไปก็ได้พบกับทะเลทรายกว้างสุดสายตา เนินทรายสูงต่ำสลับกันแลจรดขอบฟ้า ทะเลทรายสีขาวหม่นเป็นเนินสูงๆต่ำๆ ทำให้เกิดภูมิทัศน์แปลกตา ถนนลาดยางสีดำคดโค้งทอดตัวผ่านผืนทราย มองไปคล้ายกับงูยักษ์ที่กำลังเลื้อยออกไปหาอาหาร
อาทิตยานั่งมองทัศนียภาพสองข้างทางอย่างสนใจ เพราะเคยเห็นแต่ในทีวี และไม่คิดจะมาสัมผัสกับบรรยากาศเช่นนี้จริงๆ เพราะในความรู้สึกของเธอ ต่อให้ต้องลำบากแค่ไหนก็ขออย่างเดียวคือให้มีน้ำเพียงพอ เพราะต่อให้ขาดอาหารยังสามารถอดทนได้หลายวัน แต่ขาดน้ำนี่สิอยู่ได้ไม่ถึงสองวัน และเธอก็มีความอดทนต่ำกว่าคนทั่วไปด้วยสิ
เป็นไง ทะเลทรายสวยไหม?ชีคนาซถามขึ้นหลังจากปล่อยให้แขกคนสำคัญมองดูวิวข้างทางอย่างสบายใจ
สวยดีคนตัวเล็กตอบด้วยน้ำเสียงแจ่มใสขึ้น
“ความสวยมักมาพร้อมกับอันตรายเสมอ”
ชีคนาซพึมพำเบาๆ ทะเลทรายที่ดูไปคล้ายไร้สิ่งมีชีวิต แต่กลับซ่อนอันตรายไว้อย่างน่าพรั่นพรึง ทั้งพายุทรายที่ก่อตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะหาที่หลบทัน สัตว์มีพิษที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นทราย รวมทั้งโจรร้ายที่กระจายตั้งกองกำลังและเคลื่อนกลุ่มไปเรื่อยๆซึ่งยากแก่การปราบปราม
 ผู้ชายอาหรับมักเก็บผู้หญิงไว้ในฮาเล็ม จริงรึ?คนตัวเล็กถามขึ้น
ทำไม? เจ้าอยากทำอย่างนั้นบ้างหรือไง?ชีคนาซเย้ายิ้มๆ
ไม่ ผมไม่ชอบผู้ชายแบบนั้นคนตัวเล็กตอบเสียงแข็ง ผู้ชายมักมากแบบนั้น เธอไม่เก็บเอาไว้ทำพันธุ์หรอกมีแต่จะทำลายให้สิ้นซากจะได้ไม่ไปสร้างความทุกข์ใจให้ผู้หญิงได้อีก
แล้วเจ้าชอบ…”ท่านชีคกัดลิ้นไว้ทัน เขาจะถามมันทำไมว่าชอบผู้ชายแบบไหน ก็ในเมื่อมันก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
“หือ?”คนตัวเล็กเลิกคิ้วถาม เมื่ออีกฝ่ายยังพูดไม่จบประโยคแต่ก็เงียบไปเฉยๆ
ชีคนาซถอนหายใจ “เป็นบางคนเท่านั้นที่ชอบมีผู้หญิงเป็นฮาเล็มแต่ส่วนมากก็มักมีภรรยาแค่คนเดียว”เขาตอบ
“แล้วพวกเขาไปฉุดผู้หญิงมาเก็บไว้ในฮาเล็มไหม?”คนตัวเล็กตั้งคำถาม
“ไม่กฎหมายของที่นี่ห้ามเด็ดขาดเรื่องฉุดคร่าหญิงสาว ผู้ชายที่จะมีเมียมากได้จะต้องมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะเลี้ยงดูลูกเมียให้สุขสบาย ถ้าใครปล่อยให้ลูกเมียลำบากจะโดนลงโทษ”ชีคนาซอธิบาย
“แล้วถ้ามีพวกที่ไปฉุดผู้หญิงมาโดยที่พวกเธอไม่เต็มใจล่ะ?”คนตัวเล็กถามต่อ
“ถ้าทำอย่างนั้นจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก ทางด้านกฎหมาย และอาจจะโดนลงโทษตามกฎศาสนาด้วย ตามที่ผู้กระทำผิดนับถือ”
คนฟังพยักหน้า แสดงว่าที่ชีคอัลลามกระทำนั้นผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง แต่อำนาจและเงินตราสามารถใช้สองมือปิดฟ้าได้จริงๆ  แต่ถ้าไร้อำนาจและเงินตราเมื่อไรนั้นแหละการกระทำที่เลวร้ายจะผุดขึ้นมาประจานทีหลัง เรียกว่า น้ำลดตอผุด รอก่อน..เธอนี่แหละจะสูบน้ำล่อเลี้ยงไอ้คนชั่วนั้นนั้นเหือดแห้งไปโดยเร็ว แล้วคอยดูว่าเมื่อไม่มีเงินไม่มีอำนาจแล้ว มันยังจะกล้าเหิมเกริมอยู่เช่นเดิมอีกไหม
“ทำไมเจ้าถึงสนใจเรื่องนี้?”ชีคนาซถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งเงียบคิ้วขมวดคล้ายครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในใจ
“ก็เคยได้ยินเรื่องผู้หญิงในฮาเล็มก็เลยถามดู”อีกฝ่ายตอบ จากนั้นก็หันกลับไปมองข้างทางอีกครั้ง

 “ที่เมืองดาเรน นอกจากโรงกลั่นน้ำมันแล้วมีอะไรอีกไหม?”อาทิตยาสอบถาม ทั้งๆที่ได้ข้อมูลรายละเอียดของเมืองดาเรนมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
“ก็มีตลาดนัดที่พวกพ่อค้าเร่จะนำของจากเมืองต่างๆมาวางขาย รวมทั้งมีตลาดขายอูฐด้วย”ชีคนาซตอบ
“ตลาดนัดแล้วก็ตลาดอูฐ?”คนถาม ถามอย่างสนใจ
“ใช่  เจ้าอยากไปดูไหมล่ะ?”ชีคนาซถามเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของมัน
“อืม ไปสิ ผมไม่ค่อยได้ไปตลาดนักหรอก”
 เพราะคนชอบมองเธอเหมือนเห็นตัวประหลาด ยิ่งไปกันเป็นกลุ่มคนยิ่งเรียกว่าตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยเลยทีเดียว ดังนั้นเธอจึงไม่ชอบออกไปที่ชุมนุมชนสักเท่าไร เธอไม่เคยรู้เลยว่าที่คนมองเพราะออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวต่างหาก เพราะไม่เคยใส่ใจเรื่องรูปกายภายนอกเธอจึงไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก
ชีคนาซขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบนั้น หมายความว่ามันไม่ค่อยได้ไปไหนเลยใช่ไหม? ช่างน่าสงสารนัก มันยังเด็กแต่กลับต้องมาทำงานหามรุ่งหามค่ำเช่นนี้ ใครกันนะช่างใจร้ายใช้งานไอ้ตัวเล็กหนักขนาดนี้
ชีคนาซคิดเวทนาคนตัวเล็กข้างกายโดยไม่รู้เลยว่าคนที่น่าสงสารคือคนที่ต้องทำงานกับคนตัวร้ายต่างหาก
 “มีอะไรหรือเปล่า?”
คนตัวเล็กสงสัย เมื่อเห็นชีคนาซใช้วิทยุคลื่นสั้นติดต่อกับคนของตนในภาษาที่ฟังไม่เข้าใจ
“เปล่าหรอก ข้าแค่ต้องการให้บางส่วนไปเคลียร์เส้นทางล่วงหน้า เพราะเส้นทางแถวนี้ยังเป็นเขตของพวกพ่อค้าเร่ และเผ่าเร่ร่อน บางทีก็พวกกองโจรทะเลทราย”
อาทิตยารับฟังอย่างสนใจ แสดงว่ากองโจรทะเลทรายมีจริง และพวกเธออาจจะปะทะกับพวกมันเมื่อไรก็ได้ แต่ขณะนี้อาวุธพวกเธอยังไม่พร้อมเลย เพราะมาในคราบนักธุรกิจ ไม่สามารถพกพาอาวุธร้ายแรงมาด้วยได้
“โจรทะเลทรายออกปล้นสะดมปล่อยไหม?”
“ไม่บ่อย เจ้ากลัวรึ?”ชีคนาซตอบและกระเซ้ากลับ
คนถูกกระเซ้ายักไหล่ “เปล่า เพียงแค่ผมไม่ได้เตรียมตัวมาเพื่อรบ ดังนั้นรู้เขารู้เราไว้ก่อนก็ดี”
ชีคนาซหัวเราะกับคำตอบนั้น เขารู้ว่ามันคงจะกังวล เพราะมันยังเด็กถึงจะคุยโวไปบ้าง แต่เด็กก็คือเด็กที่ยังขี้ขลาด แต่เขามั่นใจว่าตัวเองดูแลคุ้มครองมันได้
“อย่ากลัวเลย ในพื้นที่ของข้าไม่มีโจรกลุ่มไหนกล้าอาระวาดหรอก”ชีคนาซรับประกันอย่างมั่นใจ
คนฟังเพียงแค่พยักหน้ารับ ไม่อยากบอกหรอกว่าเธอไม่ได้กลัว เพียงแต่อาวุธยังไม่พร้อม และมีงานสำคัญรออยู่จึงไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเช่นนี้

ขบวนรถยังคงเคลื่อนต่อไปบนถนนที่คดเคี้ยว ทะเลทรายที่ทอดยาวสุดสายตาเมื่อโดนเปลวแดดก็ทอแสงระยิบระยับประดุจอัญมณีอันล้ำค่า บางคราก็มองเห็นกระโจมพักของชนเผ่าเร่ร่อนที่สร้างที่พักแรมชั่วคราว บางทีก็เห็นอูฐบรรทุกสัมภาระเดินเป็นขบวนผ่านทะเลทรายร้อนระอุ

เราจะพักทานอาหารเที่ยงกันที่โอเอซีสข้างหน้าชีคนาซบอกเบาๆ
โอเอซีสที่มองเห็นอยู่ไกลๆในพยับแดดคล้ายภาพลวงตา มันคือแอ่งน้ำอันโดดเดี่ยวกลางทะเลทราย ล้อมรอบไปด้วยพืชพันธ์ไม้ต่างๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นความอยู่รอดและความหวังของสิ่งมีชีวิตในดินแดนที่แห้งแล้งและกันดารแบบนี้
เมื่อขบวนรถของชีคนาซหยุดที่โอเอซีส ก็พบว่าขณะนี้มีอูฐกว่ายี่สิบเชือกและผู้คนหลายสิบคนจับจองอยู่ก่อนแล้ว เมื่อคนตัวเล็กขยับตัวเตรียมก้าวลงจากรถชีคนาซก็รีบห้ามไว้
อย่าเพิ่ง รอให้แน่ใจก่อน
พวกเขาเป็นใคร?”คนตัวเล็กขมวดคิ้วถามอย่างกังขา
พวกเร่ร่อน..แต่อาจจะมีพวกนักฆ่าแฝงตัวมาก็ได้ชีคนาซยักไหล่ตอบเสียงเรียบไม่แสดงอาการหวาดหวั่นแต่อย่างใด
พวกบอดีการ์ดของชีคนาซ รีบลงไปเคลียร์พื้นที่อีกด้านหนึ่งที่ไม่มีใครจับจอง ก่อนจะจัดตั้งสำรับที่ขนมาอย่างมากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะขนมาได้หมด เมื่อเรียบร้อยแล้วนาซีมก็เดินมารายงาน
เรียบร้อยแล้วครับ
พวกนั้น...ชีคนาซพยักเพยิดไปทางคนกลุ่มนั้น
พวกพ่อค้าเร่ร่อน..กำลังจะเดินทางไปที่ดาเรนเหมือนกันครับนาซีมรายงาน
ข้าว่าพวกมันคงไม่ใช่พวกเร่ร่อนธรรมดาแน่..จับตาดูให้ดีชีคนาซกำชับ นาซีมคำนับรับคำสั่งก่อนจะไปสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น
ท่านรู้ได้ยังไงว่าพวกนั้น ไม่ใช่พวกเร่ร่อนธรรมดาคนตัวเล็กถามอย่างกังขาระหว่างเดินเคียงกันมายังที่ตั้งสำหรับ
สัญชาตญาณชีคนาซตอบสั้นๆ
กองคาราวานของพวกเร่ร่อนเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาโค้งคำนับเป็นเชิงล่ำลาอยู่ไกลๆก่อนออกเดินทาง เมื่อไม่มีกองคาราวานอยู่ด้วยทั้งโอเอซีสก็เปรียบเสมือนโลกส่วนตัวของชีคนาซ

เจ้าอยากอาบน้ำก่อนจะออกเดินทางต่อไหม?
ชีคนาซถามขณะนอนเอกเขนกอยู่ใต้ร่มอินทผลัมอย่างสบายใจหลักจากรับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว ราวกับว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวฉะนั้น
อาบน้ำ!”คนตัวเล็กอุทานตาโต  ให้อาบน้ำในที่โล่งแจ้งท่ามกลางผู้ชายหลายสิบนายนี่นะ
ไผท ก้มหน้าซ่อนยิ้มเมื่อเห็นอาการของเจ้านายตน
หัวเราะอะไร?มันหันมาทำตาเขียวใส่มือซ้ายของตน
ผมว่าก็เข้าท่าดีนะครับ อากาศร้อนขนาดนี้ ถ้าได้อาบน้ำเย็นๆคงสดชื่นดีเขากระเซ้า เพราะความคุ้นเคยบวกกับเคยเป็นครูฝึกสอนเรื่องการต่อสู้ทำให้คนตัวเล็กไม่ค่อยกล้าแผงฤทธิ์ใส่มากนัก เพราะรู้ว่าฝีมือตนสู้คนเป็นครูไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกันต์กล่าวเช่นนี้ ป่านนี้คงได้ลงไปนอนกองกับพื้นแล้ว
 “เดินทางต่อเถอะมันบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างหงุดหงิด
ชีคนาซขมวดคิ้วไม่เข้าใจกับอาการของเจ้านายกับลูกน้องคู่นี้ จะว่าไม่ถูกกันก็ไม่ใช่ จะว่ารักกันก็ไม่เชิง    
ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ ยังไงวันนี้ก็ดาเรนแน่ๆชีคนาซลุกตามพร้อมบอกอย่างอารมณ์ดี
แต่ผมอยากให้ถึงเร็ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งทำงานได้เร็วขึ้นคนเดินนำบอกเรากับผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบมากมาย
ชีคนาซมองอาการของมันแล้วก็ขมวดคิ้ว  บางทีมันเหมือนเด็กไร้เดียงสา บางครามันก็เหมือนผู้ใหญ่ที่แบกภาระรับผิดชอบไว้มากมาย หรือเพราะหน้าที่ที่มันทำอยู่ จึงทำให้มันต้องกลายเป็นแบบนี้  มันที่ควรสดใสร่าเริงแบบเด็กๆกลับต้องมารับผิดชอบงานที่ใหญ่เกินตัว..ช่างน่าสงสารยิ่งนัก
เจ้ามาอยู่กับข้าดีไหม?”ชีคนาซเอ่ยถามเบาๆเมื่อนั่งเคียงกันบนรถ
อยู่กับท่าน?”อาทิตยาทวนคำถามอย่างแปลกใจ
ใช่ มาอยู่กับข้า เจ้าจะได้ไม่ต้องมาทำงานหนักอย่างนี้ชีคนาซบอกเสียงอ่อนโยน
คนถูกชวนนิ่วหน้าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างสดใส รอยยิ้มนั้นทำให้คนที่นั่งข้างๆหัวใจเต้นแรงแทบกระดอนออกมานอกอก จนต้องเมินหน้าหนีเพื่อซ่อนอาการ
แล้วจะให้ผมทำอะไร?คนถามถามอย่างสนใจ
ก็แล้วแต่เจ้า..ชีคนาซบอก ขอแค่อยู่ข้างๆข้าอย่างนี้ก็พอเขาบอกประโยคหลังในใจ
ว่าไงล่ะ?.ชีคนาซถามซ้ำเมื่อไม่ได้รับคำตอบ
คงไม่ได้หรอก บริษัทของผม..เอ่อ..ผมหมายทีเคกรุ๊ปจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีผมคนถูกชวนปฏิเสธพร้อมให้เหตุผล
เจ้าสำคัญกับทีเค กรุ๊ปขนาดนั้นเชียวรึ?ชีคนาซถามอย่างกังขา
แน่นอนคนตอบยึดอกอย่างภูมิใจ...ประธานบริษัทก็ต้องสำคัญแน่นอนอยู่แล้ว
เจ้าทำอะไรที่ทีเครึ?”ชีคนาซถามตรงๆ
ก็..คนตอบอึกอัก ทุกอย่างนั่นแหละ แล้วแต่สถานการณ์
ประธานบริษัททำอะไร เธอก็ทำอย่างนั้นแหละ แต่อาจจะมากกว่าประธานบริษัทอื่นนิดหน่อยตรงที่ถ้ามีใครกล้ามาหยาม จะต้องตาม เอาคืน แบบนี้
ถ้าข้าให้เจ้ามากกว่าทีเค สิบเท่าล่ะ?ท่านชีคลองยื่นข้อเสนอ
สิบเท่า!”
อาทิตยาอุทานตาโต ก่อนจะหัวเราะเบาๆ สิบเท่า..ตอนนี้ทีเค กรุ๊ปมีมูลค่าทรัพย์สินอยู่เท่าไรนะ คงต้องถามกันต์ซะแล้ว เพราะเธอมัวแต่สนุกกับงานมากกว่าสนใจมูลค่าของสินทรัพย์ แต่ถ้าได้จากชีคนาซมาอีกสิบเท่า เธอคงกลายเป็นคนรวยที่สุดในโลกแน่ๆ
เจ้าคิดว่าข้าพูดเล่นอย่างงั้นรึ?ชีคนาซถามอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นมันหัวเราะคำพูดของตน
เปล๊าเธอปฏิเสธเสียงสูงแต่ยังคงยิ้มขัน...เธอเชื่อว่าชีคนาซพูดจริงแต่จะจ่ายได้จริงหรือเปล่านั่นมันอีกเรื่องหนึ่ง
ขอบคุณที่ท่านให้โอกาส..ผมจะลองกลับไปคิดดูก็แล้วกันเธอบอกเพื่อไม่ใช่ชีคนาซเสียหน้าจนเกินไป
ชีคนาซพยักหน้ารับ แต่ดูจากท่าทางของมันแล้วเขาก็รู้ว่ามันคงปฏิเสธ..มันคงมีตำแหน่งไม่น้อยในทีเค กรุ๊ป..หรือว่ามันเป็นลูกของผู้บริหาร มีโอกาสจะก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารต่อไป....อาจจะเป็นไปได้ เพราะว่ามันฉลาดมากถึงแม้อายุยังน้อยแต่มันก็มีสมองสมราคาคุย ที่ทีเคกรุ๊ปส่งมันมาเจรจาในครั้งนี้ทั้งๆที่เพิ่งถูกปฏิเสธไปก็แสดงว่า ทีเคกรุ๊ปต้องเชื่อมั่นในตัวมันไม่น้อย

ไม่เป็นไร..ยังมีเวลา มันบอกว่าจะอยู่ต่ออีกสักพัก บางทีอาจจะมีวิธีรั้งมันไว้ได้ ชีคนาซบอกกับตัวเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น