ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง ยอดร้าย ยอดรัก ตอนที่ 8


คาราวานอูฐติดตามคน เดินทางมาทั้งคืนจนกระทั่งรุ่งสาง แต่ยังไม่เห็นแม้เงาของกลุ่มบอดีการ์ดของชีคอัลลามตามที่หน่วยข่าวรายงาน แสงสีทองเริ่มส่องประกายจับขอบฟ้าด้านตะวันออก
เราควรจะพักก่อน หรือเดินทางต่อ?”
คนตัวเล็กมองแสงสีทองจับขอบฟ้าตะวันออกถามขึ้นลอยๆโดยไม่หันหน้ามามองคนตัวโตที่นั่งอยู่บนหลังอูฐตัวข้างๆ

ไปต่อ..แดดกล้าค่อยพักชีคนาซบอก
อาทิตยาพยักหน้ารับ ก่อนจะหันกลับโบกมือส่งสัญญาณให้กองกำลังเคลื่อนที่ แต่ขณะกำลังจะเคลื่อนขบวนต่อนั้นเอง ข้างหน้าก็เกิดปรากฎการณ์แปลกประหลาดขึ้น
“ดูนั่น!”อาทิตยาชี้มือไปยังกลุ่มทรายดำทะมึนด้านซ้ายมือ     
อะไร?ชีคนาซซัก...และต้องชะงัก เมื่อมองตาม
ท้องฟ้าที่เมื่อสักครู่นี้ยังแจ่มใส แสงแดดเริ่มส่องแสงสว่างไสวมองเห็นทะเลทรายกว้างไกลสุดสายตา แต่ ณ ตอนนี้กลุ่มทรายดำทะมึนเคลื่อนเข้ามาบดบังแสงสว่างอย่างรวดเร็วจนทำให้ทั่วทั้งบริเวณมืดมัวลงในทันใด
เร็วเข้า ไปให้ถึงกำแพงหินข้างหน้า ชีคนาซตะโกนก้อง
ไม่ต้องให้บอกซ้ำทุกคนต่างเร่งอูฐให้เร็วขึ้น พายุทรายขนาดมหึมาเคลื่อนที่เข้ามาใกล้พร้อมกับหอบเอาฝุ่นทรายปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วท้องฟ้า คนบนหลังอูฐต่างพากันปิดหน้าด้วยผ้าโพกหัว เมื่อพายุพัดแรงขึ้นอูฐของอาทิตยาก็มีอาการพยศ เธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง เพราะตัวเองไม่ได้มีความชำนาญในการบังคับอูฐมาก่อน ขณะที่กำลังกังวลใจก็ได้ยินเสียงทุ้มนุ่มปลอบโยนเป็นภาษาอาหรับอยู่อีกฟากหนึ่ง อูฐที่กำลังพยศก็คลายอาการขัดขืนและยอมเคลื่อนที่ตามแต่โดยดี คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงคำว่า วางใจในใครสักคน
เมื่อคาราวานอูฐไปถึงกำแพงหิน อูฐทุกตัวก็คู้เข่าลง ทุกคนรีบหามุมที่มีก้อนหินกำบังตัวแล้วหมอบคุดคู้ตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเลี่ยงการปะทะกับพายุโดยตรง  พายุทะเลทรายทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนคนตัวเล็กเริ่มทรงตัวไม่อยู่เนื่องจากอยู่วงนอกสุดของกำแพงหิน ชีคนาซเห็นดังนั้นก็ลากมันเข้ามากอดแนบอกเพราะกลัว มันจะปลิวหายไปตามลมเสียก่อน คนตัวเล็กตัวแข็งทื่อในทันใด ก่อนจะขยับตัวดิ้นรนขัดขืน  
อย่าขยับสิ หรือเจ้าอยากบินขึ้นไปบนท้องฟ้าแทนเดินทางบนพื้นดิน
เสียงกระซิบเอ็ดเบาๆข้างหู พร้อมกับกระซับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น แต่นั่นยิ่งทำให้คนที่อยู่ในอ้อมแขนดิ้นรนมากขึ้น
ชีคนาซก้มลงมองร่างที่ดิ้นรนขัดขืนในอ้อมแขนแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข   ตัวมันช่างนุ่มนิ่มบอบบางและหอมกรุ่น หอมจนเขาอดใจไม่ไหวต้องกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นเพื่อจะได้สูดดมกลิ่นหอมนั้นได้อย่างเต็มที่
คนตัวเล็กพยายามดิ้นรนให้พ้นจากอ้อมแขนแข็งแรงที่รัดไว้แน่น ...แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งโดนรัดแน่นแถมยังโดนฝุ่นทรายกระหน่ำใส่อีก ดังนั้นเธอจึงยอมสงบลงชั่วคราว...ได้แต่อาฆาตอยู่ในใจ...มีโอกาสเมื่อไรล่ะก็....จะเอาคืนให้สาสมแน่
พายุทรายพัดกระหน่ำอยู่ราวครึ่งชั่วโมงจึงค่อยสงบลง กองคาราวานอูฐถูกทรายถมจนเกือบมิดหัว เมื่อพายุพัดผ่านทุกคนจึงตะเกียกตะกายออกมาจากหลุมทราย
ชีคนาซคลายอ้อมแขนอย่างเสียดาย แม้ไม่ชอบใจที่ต้องเผชิญกับพายุทรายแต่กลับพอใจยิ่งกับร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นในอ้อมกอด คนตัวเล็กรีบตะกายขึ้นจากหล่มทรายทันทีที่ร่างเป็นอิสระไร้พันธนการ พลางมองค้อนคนที่นั่งอมยิ้มอยู่ในหล่มทรายตาเขียว เธอไปช่วยขุดทรายให้คนอื่นๆที่ยังออกมาจากหลุมทรายไม่ได้ ชีคนาซขึ้นจากหลุมทรายได้ก็มายืนกอดอกมองอย่างขันๆ เพราะตอนนี้ทุกคนมอมแมมจนเทียบจำหน้ากันไม่ได้  มีเพียงไอ้ตัวร้ายตาดุเท่านั้นที่เขาจำมันได้ขึ้นใจ

เมื่อพายุร้ายผ่านพ้นไปทุกคนก็เดินทางต่อ แสงแดดที่ทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพอากาศเช่นนี้ต่างอ่อนล้าไปตามๆกัน แม้แต่อูฐที่มีความอดทนเป็นเลิศยังอ่อนกำลัง
ข้าว่าพักก่อนดีกว่า ชีคนาซเสนอ
อาทิตยาพยักหน้ารับ ก่อนจะโบกมือส่งสัญญาณให้กองคาราวานหยุด หน่วยจู่โจมที่มาด้วยช่วยกันกางกระโจมเล็กๆบังแดด เนื่องจากบริเวณนี้ไม่มีอะไรที่พอจะอาศัยเป็นร่มได้เลย
ข้าว่าเจ้าเข้ามาพักเอาแรงก่อนไม่ดีกว่าหรือ?”
ชีคนาซบอกคนที่เดินวนเวียนอยู่นอกกระโจมอย่างเป็นห่วง แต่ดูเหมือนมันจะไม่สนใจฟังเขาสักเท่าไหร่ เขาจึงตัดสินใจเดินไปลากมันเข้ามานั่งลงข้างๆ แม้มันจะทำท่าฮึดฮัดบ้างแต่ก็ยอมนั่งลงแต่โดยดี
เจ้าบอกว่า น้องสาวของเจ้าถูกชีคอัลลามจับตัวมา..เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้ไหม ว่าเรื่องมันเป็นยังไง?
ชีคนาซถามเรื่องที่ค้างคาใจ แม้จะเคืองที่มันเอาเรื่องเครื่องเจาะสำรวจน้ำมันมาบังหน้า แต่ก็ไม่ได้โกรธ เพราะถ้าน้องสาวของเขาโดนจับตัวไปแบบนี้เขาก็อาจจะใช้ทุกวิธีเพื่อหาทางช่วยเธอ
คนตัวเล็กถอนหายใจก่อนเล่าเรื่องสั้นๆ น้องผมทำงานอยู่โรงแรมที่ชีคอัลลามเข้าพัก แล้วก็หายตัวไป รู้อีกทีก็หลังจากที่ชีคอัลลามออกนอกประเทศแล้ว
ความจริงแล้วปาริฉัตต์เป็นลูกพี่ลูกน้องของปรายฟ้าเพื่อนสนิทของเธอ น้องสาวเพื่อนก็เสมือนน้องสาวของตัวเอง อีกทั้งปาริฉัตต์ยังเป็นพนักงานของทีเค กรุ๊ปอีกด้วย งานนี้ต้อง เอาคืนสองเท่า
ทำไมถึงรู้ช้านักล่ะ..หรือว่าน้องสาวของเจ้าไม่ค่อยกลับบ้าน?ชีคนาซซัก เพราะผู้หญิงอาหรับไม่มีอิสระที่จะออกไปไหนตามลำพังนักหรอก
คนฟังตวัดตามองค้อน ไม่ใช่อย่างนั้น คืนนั้นเธอไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ และบอกว่าจะนอนค้างบ้านเพื่อน แต่ถูกจับตัวไประหว่างทาง
“อืม  แสดงว่าชีคอัลลามจ้องรอจังหวะอยู่งั้นสิ”ชีคนาซเดาเหตุการณ์
“ใช่ และกว่าพวกเรารู้ก็เช้าวันใหม่ และกว่าจะหาข่าวได้ก็อีกหลายชั่วโมง”คนเล่าขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด
“เจ้าก็เลยใช้การเจรจาธุรกิจมาบังหน้า?”ชีนาซว่า
“ใช่  ขอโทษท่านด้วยที่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนไปด้วย”คนที่ชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อนกล่าวขอโทษอย่างจริงใจที่นานๆครั้งถึงจะเอ่ยออกมา
ช่างเถอะ....ถ้าเป็นข้าก็คงจะทำทุกทางเหมือนกัน”ชีคนาซไม่ถือสา
“ว่าแต่เจ้าจะทำยังไงต่อไป?”ชีคนาซถามต่อ
“ก็จะพยายามหาให้เจอ ไม่ว่าจะเธอเป็นยังไงถ้าท่านไม่ว่าอะไรผมอยากขอร้อง”
อาทิตยามองหน้าชีคนาซอย่างอ้อนวอนที่นานๆครั้งจะทำเช่นนี้กับใคร เพราะปกติมักใช้อำนาจบังคับ หรือไม่ก็ใช้เล่ห์เล็กๆน้อยๆแค่นี้ทุกคนก็พร้อมจะยอมทำตามคำสั่งทุกอย่างแล้ว
แค่เห็นแววตาอ้อนวอนของคนตรงหน้า ใจเขาก็ละลายยิ่งกว่าขี้ผึ้งถูกไฟลนเสียอีก
“ข้าจะช่วยเจ้าเองชีคนาซเสนอตัวเข้าช่วยโดยอีกฝ่ายไม่ต้องร้องขอใดๆเลย มันจะรู้ไหมว่าแววตามันในขณะนี้สามารถฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็นได้เลยนะ
 ท่านจะช่วยจริงๆเหรอ?อาทิตยาถามให้แน่ใจ...เพราะที่ต้องการอย่างยิ่งในตอนนี้คือความช่วยเหลือจากคนในพื้นที่ โดยเฉพาะจากคนที่มีอิทธิพลสูงสุดบนพื้นทรายแห่งนี้
ใช่...ในเมื่อเจ้าเป็นคนสนิทของข้า ข้าช่วยคนสนิทของตนเองจะแปลกอะไรชีคนาซกระเซ้า แต่เมินหน้าหนี ไม่อยากมองหน้ามันให้มากกว่านี้ กลัวใจไม่รักดีจะแสดงอะไรออกมาให้คนตรงหน้าจับได้
คนสนิทกลอกตามองค้อนแต่เถียงไม่ออก..เพราะคำพูดนั้นหลุดออกจากปากของตนจริง
ท่านจะช่วยยังไง?เธอถามอย่างสนใจ จะเป็นคนสนิทขนาดไหนนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ปาริฉัตต์สำคัญกว่า
เจ้าอยากให้ข้าช่วยยังไงล่ะ ข้าทำได้ทุกอย่าง
คำพูดที่หลุดออกจากปากทำให้ชีคนาซชะงัก แต่ก็ไม่คิดกลับคำ...ไม่ว่ามันต้องการอะไร เขาสามารถให้มันได้ทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว...ขอแค่ให้มันอยู่ใกล้ๆเขาอย่างนี้ก็พอ
ท่านพูดแล้วนะ ว่าผมอยากให้ช่วยยังไง ท่านจะทำให้ทุกอย่างแววตาคนถามวาววามสมใจ
ชีคนาซหรี่ตามอง..เจ้าตัวร้ายมันมีแผนอะไรในใจหรือเปล่าหว่า..แต่พูดแล้วจะกลับคำนั้น ไม่เคยมีในประวัติคนอย่างเขา
ข้าพูดจริง ทำจริงเสมอ
ขอบคุณ
คนสมใจยิ้ม....เป็นยิ้มที่ลิงโลดดีใจยิ่ง จนคนพูดจริง ทำจริงบอกตัวเองว่า แค่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรให้มันก็คุ้มแล้วล่ะ
แววตาแปลกๆที่มองมาทำให้คนที่กำลังยิ้มชะงักเก็บงำรอยยิ้มทันใด .....หัวใจมีอาการเต้นแปลกๆ แถมเต้นแรงจนน่าตกใจ ใบหน้าก็รู้สึกร้อนวุบวาบ...หรือเพราะอยู่กลางแดดจัดนานเกินไปก็เลยเป็นไข้ไม่สบายกะทันหัน...อัจฉริยะที่ไอคิวสูงลิ่วแต่อีคิวต่ำกว่ามาตรฐานเริ่มวิเคราะห์อาการของตนเอง และเริ่มกังวล..ถ้าเกิดเป็นไข้ตอนนี้จะทำยังไงดีล่ะ...
ชีคนาซมองรอยยิ้มที่หายไปอย่างแสนเสียดาย แล้วก็เห็นคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนแทบเป็นปม เขาจึงยื่นมือไปหวังจะช่วยคลายปมนั้นให้ แต่เจ้าของคิ้วผงะใบหน้าหนีอย่างตกใจเพราะกำลังอยู่ในภวังค์
จะกังวลอะไรหนักหนา ข้าบอกว่าจะช่วยเจ้าทุกอย่าง ข้าก็ต้องช่วยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว..เจ้าจะได้เจอกับน้องเร็วๆนี้แน่ ข้ารับรองชีคนาซบอกอย่างอ่อนโยนแต่หนักแน่น

คนที่เป็นกังวลเงยหน้าขึ้นสบตากับคนที่ให้คำสัญญา สายตาที่มองมามีแต่ความหนักแน่นมั่นคง ทำให้คนมองรู้สึกอุ่นใจไว้วางใจจนต้องพยักหน้ารับใช่ เธอจะต้องหาปาริฉัตต์เจอในเร็ววันนี้แน่นอน

ขณะที่ทุกคนกำลังพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูกำลังสำหรับการเดินทางต่อ จู่ๆชีคนาซก็ก้มลงเอาหูแนบกับพื้น
มีกองม้ากำลังมุ่งหน้ามาทางนี้
เขาลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพลางกวาดตาหาเนินทรายที่จะใช้เป็นชัยภูมิ ไม่รู้ว่ากองกำลังที่มานั้นเป็นพวกไหน ป้องกันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
ไปหลบที่หลังเนินทรายโน่นเขาสั่ง ทุกคนรีบปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว แต่กองกำลังอีกฝ่ายมาเร็วกว่าที่คิด
ชีคนาซเขม้นมอง..กองโจรของชีคอัลลาม...
เจ้าหลบไปก่อน
ชีคนาซสั่ง แต่คนตัวเล็กหาฟังไม่ยังยืนปักหลักอยู่คู่กับเขา บอดีการ์ดของบาฮจาและทีเคกรุ๊ป ก็กระจายกำลังเป็นครึ่งวงกลม เตรียมพร้อมรับการจู่โจมและปกป้องเจ้านายของตน
 “เจ้าได้เจอกองโจรทะเลทรายของจริงแล้วล่ะชีคนาซกระซิบบอกเสียงเครียด ...กองกำลังที่โอบล้อมอยู่นั้นมีประมาณสี่สิบกว่าคน ซึ่งพอๆกับกองกำลังของบาฮจาและของทีเคกรุ๊ปรวมกัน

ชีคนาซส่งสัญญาณให้คนของตน บอดีการ์ดเมื่อได้รับสัญญาณจู่โจมก็ทิ้งตัวลงบนพื้นทราย และเคลื่อนตัวเข้าหาศัตรู คนของทีเค กรุ๊ปก็ทิ้งตัวลงและปฏิบัติตามเจ้าของถิ่น คนตัวเล็กก็เข้าร่วมกับเขาจนชีคนาซต้องทิ้งตัวลงตามประกบตัวไม่ห่าง

เมื่อศัตรูเคลื่อนที่เข้ามาในรัศมีอาวุธ บอดีการ์ดของชีคนาซกับคนของทีเคกรุ๊ปก็เปิดฉากโจมตีทีทัน เสียงปืนดังก้องไปไกลในทะเลทรายอันเวิ้งว้าง

กองโจรล่วงลงจากหลังม้าราวกับใบไม้ล่วงจนขณะนี้เหลือไม่ถึงครึ่ง แต่พวกมันล้วนเป็นพวกเดนตาย เสียงปืนและเลือดของพวกพ้องคล้ายเป็นยากระตุ้นสัญชาตญาณสัตว์ป่าให้ลุกโชนขึ้น พวกมันควบม้าตรงเข้าหาฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่กลัวตาย พร้อมกับชักดาบยาวที่เหมาะสำหรับต่อสู้ในระยะประชิดตัวเข้าโรมรัน บอดีการ์ดของชีคนาซกับคนของทีเคกรุ๊ปประสานเป็นทีมเดียวกันได้อย่างดียิ่ง ทั้งสองทีมต่างช่วยกันรับมือและโค่นกลุ่มโจรลงอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานศัตรูก็ถูกเก็บจนเหลือแค่ไม่กี่คน

ระวัง!”
ชีคนาซร้องเสียงหลง พร้อมกับกระโดดคว้าคนตัวเล็กมากอดไว้แนบอกอย่างปกป้องเมื่อเห็นพวกโจรที่โดนยิงนอนกองอยู่บนพื้นทรายผงกหัวขึ้นและเล็งปืนมาที่คนตัวเล็กที่กำลังต่อสู้อยู่กับเจ้าโจรร่างยักษ์ไม่มีเวลาระวังหลัง
ปัง!
ไม่!” เสียงใสร้องก้องเมื่อรับรู้ถึงแรงกระตุกของคนที่กอดตนแน่น
ฆ่ามันให้หมด
 อาทิตยาร้องสั่งอย่างเดือดดาล เลือดในกายเดือดพลั่กคล้ายดั่งน้ำเดือด อยากสับพวกมันให้เละกับมือ แต่เป็นห่วงคนที่ทรุดลงกองที่ยังกอดตนไว้แน่นอย่างปกป้อง จนเธอต้องกอดเขาตอบ ใช้ร่างกายตนเป็นโล่กำบังไม่ให้ใครมาทำร้ายเขาซ้ำได้อีก
บอดีการ์ดของชีคนาซและทีเคกรุ๊ปรีบเคลื่อนตัวมาตั้งวงป้องกันเจ้านายตนอย่างรวดเร็ว และลงมันปลิดชีพศัตรูที่เหลือจนแน่ใจว่าไม่มีใครเหลือลมหายใจมาลอบกัดพวกตนได้อีก
เรียบร้อยแล้วครับเจ้านาย
เวธน์ก้มลงบอกเจ้านายตนที่ยังกอดร่างสูงไว้อย่างปกป้อง...ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด แววตาหวาดหวั่นอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
ผมขอดูแผลท่านชีคก่อนเวธน์ทรุดนั่งลงข้างๆชีคนาซ คนตัวเล็กยอมถอยห่าง แต่มือใหญ่ของคนเจ็บกลับเอื้อมมาคว้ามือเล็กไว้ไม่ยอมวาง
ข้าไม่เป็นไรคนเจ็บกัดฟันบอก
อย่าเพิ่งพูด ให้เวธน์ดูแผลก่อนคนตัวเล็กบอกเสียงอ่อนโยน ดวงตาเริ่มฝ้าด้วยหยาดน้ำจนต้องกระพริบตาไล่
ชีคนาซเห็นดังนั้นก็อมยิ้มจนดวงตาเป็นประกายวาววับ ทั่งๆที่ใบหน้าซีดเซียวเพราะเสียเลือดมากเจ้าร้องไห้เพราะเป็นห่วงข้าสินะ
 เวธน์เข้ามาดูแผลให้อย่างชำนาญเพราะเขาเป็นนายแพทย์ที่ผ่านการฝึกอย่างหฤโหดเพื่อมาเป็นหนึ่งในทีมบอดีการ์ดฝีมือฉกาจของทีเคกรุ๊ป
กระสุนฝังใน ต้องผ่าตัดด่วน ผมจะห้ามเลือดให้ก่อนเวธน์รายงานเสียงเครียด ก่อนจะช่วยพยาบาลชีคนาซอย่างรวดเร็ว

บอดีการ์ดของบาฮจา วิทยุขอเฮลิคอร์ปเตอร์ฉุกเฉิน ส่วนคนของทีเค กรุ๊ป ก็ติดต่อกับฐานที่ประเทศไทยเพื่อให้ฝ่ายนั้นใช้ดาวเทียมหากลุ่มคนร้ายที่อาจจะมีอยู่ในพื้นที่ใกล้ เพื่อเตรียมการรับมือ ส่วนคนที่จับมือกับคนเจ็บนั้นนั่งนิ่งยิ่งกว่าศิลา แต่คนที่ใกล้ชิดรู้ดีว่า..นั่นคือสัญญาณของระเบิดเวลานั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น