ตอน น้องสาวข้า ใครอย่าแตะ (ต่อ)
เจ็ดนาฬิกาตรง
แลมโบกีนี่คันสวยก็เลี้ยวเข้ามาจอดหน้าคอนโดมีเนี่ยมหรูตามที่นัดกันไว้
แต่ผ่านไปแล้วห้านาทีคนที่รับคำเป็นมั่นเหมาะก็ยังไม่ลงมา คนรอขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดคิดอยากจะขับรถออกไปเพื่อสั่งสอนคนที่ไม่รักษาเวลาจริงๆ
แต่ก่อนที่เขาจะออกรถอย่างที่คิด
หญิงสาวในชุดกระโปรงพลิ้วลายดอกไม้ก็วิ่งพรวดออกมาจากคอนโด ในมือถือรองเท้ากับกระเป๋า
ผมกระเซิงไม่เป็นทรง หน้าตาก็ไม่ได้แต่ง แค่ดูก็รู้ว่าเพิ่งตื่นนอน
คนอยู่ในรถถอนหายใจยาว ก่อนจะผลักประตูอีกฝั่งเปิดออกให้คนที่เพิ่งออกจากคอนโดก้าวเข้ามานั่ง
“ขอโทษค่ะ
ฉัน…”หญิงสาวอึกอักหาข้อแก้ตัว
“ค่ะ”เมื่อเขารู้แล้วก็ไม่รู้จะปฏิเสธไปทำไม
“อาบน้ำหรือยังล่ะเนี่ย?”เขาถามตรงๆ
ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้อาบน้ำหรือเปล่า หรือว่าตื่นแล้วก็วิ่งลงมาเลย
“อาบแล้ว”
‘วิ่งผ่านน้ำก็ถือว่าอาบเหมือนกัน’คนที่เพิ่งทำสถิติอาบน้ำได้เร็วที่สุดตั้งแต่เกิดตอบเบาๆอย่างอับอาย
“จะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ไหม?
พี่ให้เวลาอีกครึ่งชั่วโมง”เขาบอก แต่คงจะต้องชิ่งน่าดูถึงจะไปทันเวลานัด
“ฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยหรือคะ?”คนที่ไม่มีเวลาแม้แต่มองกระจกถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจในสภาพของตนเอง
คามินเหลือบมองคนที่หัวกระเซิงอยู่ใกล้ๆก็อดยิ้มไม่ได้
ไม่ได้แย่หรอก แค่เหมือนเด็กเพิ่งตื่นนอน
ดีนะที่ยังเปลี่ยนชุด ไม่วิ่งลงมาทั้งชุดนอน แล้วเขาก็มองรองเท้าที่เจ้าตัวหิ้วมาด้วย
แล้วก็ต้องหัวเราะดังลั่น
โรซาเลียทำหน้าเหรอหรา
นี่เธอดูตลกมากเลยเหรอ เขาถึงได้หัวเราะขำขนาดนี้
ตั้งแต่เจอกันมาก็เพิ่งจะเห็นเขาหัวเราะเต็มที่ก็ครั้งนี้แหละ เพียงแต่คนที่เป็นตัวตลกให้เขาหัวเราะคือเธอนี่สิ
แย่ชะมัด
“เราจะใส่รองเท้าคู่นี้จริงๆเหรอ?”
เขาถามพยายามกลั้นหัวเราะพลางพยักพเยิดไปยังรองเท้าที่เธอหิ้วมาด้วย
เมื่อหญิงสาวก้มมองตามก็ต้องอ้าปากค้าง
เพราะร้องเท้าที่เธอหิ้วมานั้น ข้างหนึ่งเป็นรองเท้าเอาไว้ใส่ในห้องนอนรูปกระต่ายหูยาว
ส่วนอีกข้างเป็นรองเท้าส้นสูงเกือบสามนิ้วสีแดงสด มิน่าล่ะเขาถึงหัวเราะขนาดนั้น
“กลับไปเปลี่ยนชุดก่อน
ชุดนี้ไม่เหมาะ”เขาตัดสินใจในที่สุด
“แล้วต้องใส่ชุดแบบไหนถึงจะเหมาะคะ?”คนที่ไม่เคยทำงานมาก่อนถาม
เพราะไม่รู้ว่าชุดแบบไหนถึงจะเหมาะกับการไปเจรจาธุรกิจ
“ชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อยน่ะ
มีบ้างไหม?”ชายหนุ่มถาม เขาก็ไม่รู้จะบอกอย่างไร
หญิงสาวทำหน้างง
‘ชุดที่ดูสุภาพเรียบร้อย’
ชุดที่เธอใส่ตอนนี้ก็ดูเรียบร้อยดีนี่นา จะให้เรียบร้อยขนาดไหน
“พี่ไปเลือกให้ฉันได้ไหมคะ?
ฉันไม่รู้ว่าชุดไหนที่ดูสุภาพอย่างพี่ว่า”
หญิงสาวขอร้องเขาอย่างไม่ได้คิดอะไร
แค่อยากได้ชุดที่ถูกใจเขาเท่านั้น แต่คนฟังนี่สิถึงกับใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อจู่ๆก็ถูก‘ชวนขึ้นห้อง’ แต่เมื่อมองหน้าคนชวนเขาก็ต้องถอนหายใจยาว
‘ยัยเด็กบ้านี่ ทำอะไรไม่คิดอีกแล้ว’
“ต่อไป
ห้ามชวนผู้ชายคนไหนขึ้นห้องง่ายๆแบบนี้อีกนะ”เขาสั่งก่อนจะลงจากรถเดินนำเจ้าของห้องเข้าคอนโด
โรซาเลียรีบเปิดประตูรถแล้ววิ่งตาม
ถึงแม้หน้าจะแดงเพราะประโยคของเขาที่ว่า ‘ชวนผู้ชายขึ้นห้อง’ก็เถอะ แต่เธอไม่เคยชวนใครขึ้นห้องเลยนะ เขาเป็นคนแรก ..และอาจจะเป็นคนสุดท้าย ถ้าเขา…คนคิดชะงักแล้วยิ้มเขินกับตนเอง
ก่อนจะซอยเท้าวิ่งตามคนขายาวที่ก้าวนำไปก่อน
คามินก้าวเข้าห้องพักสุดหรู
พลางกวาดตามอง ห้องนี้กว้างขวางและหรูหราพอๆกับห้องของเขาเลยทีเดียว แสดงว่ายัยเด็กนี่ต้องเป็นลูกสาวเศรษฐีระดับโลกแน่ๆ
เพราะห้องพักเมืองนี้แพงหูฉี่ แค่ห้องพักธรรมดากว้างไม่กี่ตาราวาราคาก็เกือบล้านยูโร
แล้วห้องกว้างและหรูขนาดนี้ก็มีแต่ระดับเศรษฐีเท่านั้นที่ซื้อได้
“ไหนล่ะชุดที่จะให้พี่เลือกให้?”เขาเลิกสนใจเรื่องห้องพักเพราะยังมีงานสำคัญรออยู่
หญิงสาวเดินนำเข้าไปในห้องนอน
ห้องที่ไม่เคยให้คนนอกเข้ามาก่อน นอกจากคนในครอบครัวของตัวเอง
เขาเป็นคนแรกที่ได้เหยียบเข้ามาในที่ส่วนตัวที่สุดของเธอ
ถึงแม้จะรู้สึกขัดเขินมากแค่ไหน แต่เมื่อเรื่องมาถึงขึ้นนี้แล้วเธอก็ได้แต่กัดฟันปล่อยให้เลยตามเลย
คามินเดินตามหญิงสาวไปที่ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่
พยายามทำใจไม่ให้วอกแวกและรีบเลือกชุดที่เขาคิดว่าเหมาะสมกับเธอให้ชุดหนึ่ง
“รีบเปลี่ยนชุดซะ
พี่จะออกไปรออยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนหน้าไปแต่งบนรถก็แล้วกัน”เขาสั่งก่อนหันหลังเดินออกจากห้องนอนไป
โรซาเลียรับชุดจากเขามาและรีบเข้าห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุดตามที่เขาสั่ง
เมื่อเรียบร้อยก็ออกมาที่ห้องรับแขก
ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นคนที่ออกจากห้องเดินมาใกล้
แล้วเขายื่นรองเท้าคู่ใหม่ให้
“รองเท้าคู่นี้ดูเหมาะกับชุดนี้ดี
ต่อไปอย่าใส่ร้องเท้าส้นสูงๆอีกนะ ไม่ดีต่อสุขภาพ อีกอย่างถ้าเกิดก้าวพลาดขาแพลงขึ้นมาจะลำบาก”เขาว่าก่อนจะเดินนำหน้าออกจากห้องตามเคย
คนที่รับรองเท้ามาถือไว้ถึงกับยืนอึ้ง
ก่อนริมฝีปากจะโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มหวานละไม ใครเลยจะคิดว่าผู้ชายที่ชอบทำหน้าดุจะเอาใจใส่คอยเทคแคร์ใครได้อบอุ่นขนาดนี้
หญิงสาวถือรองเท้าวิ่งตามคนที่ยังเปิดประตูรอ
ก่อนจะวิ่งเข้าไปคล้องแขนของเขาไว้อย่างสนิทสนม ‘แขนนี้เธอจับไว้แล้วนะ
ฉะนั้นอย่างหวังเลยว่าจะสลัดทิ้งได้ง่ายๆ’คนที่ได้ที่ ‘เกาะ’ถูกใจอมยิ้มอย่างหมายมาด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น