ซีรีย์นิยายชุด:วายร้ายยอดรัก เรื่อง ยอดร้าย ยอดรัก ตอนที่ 12


                                                  ตอนที่ 12 ส่งตัววายร้ายกลับเมืองไทย
เมื่อชีคนาซ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าท่านที่ปรึกษา อารบี นั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ
“ท่านชีคดีจริงที่ท่านไม่เป็นไร”
ชายชราน้ำตาซึม พึมพรำขอบคุณพระเจ้าอย่างยินดี  เขาติดตามรับใช้ชีคอูลาที่เป็นทั้งนายและเพื่อนสนิทมาตั้งแต่เยาว์วัย และเขาก็ได้ดูแลชีคนาซ มาตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งชีคอูลาสิ้นพระชนน์ เขาได้ติดตามสองแม่ลูกมาอยู่กับตระกูลบาฮจา ส่วนหนึ่งเพราะชีคอูลาเคยฝากฝังไว้ แต่อีกส่วนหนึ่งเพราะ..หัวใจ หัวใจรักและภักดีที่มีให้นางเดียวโดยไม่เคยเหลียวแลใครเลยหัวใจที่เก็บงำไว้ไม่ให้ใครรู้และจะเก็บไว้จนกว่าตายไปพร้อมกับตัว และหัวใจดวงนี้เขาได้มอบให้ลูกชายของนางด้วย เช่นกัน
“ท่านมานานแล้วรึ? อารบี”ชีคนาซถามเบาๆ
“สักครู่ใหญ่แล้วครับ”ชายชราตอบ
“เจ้าตัวเล็กล่ะ?”
ไม่ว่าลืมตาขึ้นเมื่อไร คำถามแรกที่พยาบาลเฝ้าไข้ได้ยินคือ ตัวเล็กล่ะ? 
คนตัวเล็กเป็นที่กล่าวขวัญถึงในหมู่นางพยาบาลที่มีโอกาสได้พยาบาลชีคนาซว่า รูปงามยิ่ง แม้ชีคนาซจะหล่อเหลาจนได้ชื่อ เพล์ยบอยหน้าหยก แต่สมญา มัจจุราช ทำให้นางพยาบาลต่างครั่นคร้าม ผิดกับคนตัวเล็กหน้าสวย ที่นางพยาบาลยังไม่เคยเห็นฤทธิ์ จึงพากันปลาบปลื้มเป็นหนักหนา เรียกได้ว่าทันทีที่คนตัวเล็กปรากฏกาย โรงพยาบาลก็เริ่มปั่นป่วนวุ่นวายเพราะเหล่านางพยาบาลวิ่งกันวุ่นเพื่อได้ยลโฉมหนุ่มหล่อแม้แค่แวบเดียวก็ยังดี
“เพิ่งกลับไปคฤหาสน์เมื่อสักครู่ เพราะอยู่ที่นี่นานไม่ได้ เดี๋ยวโรงพยาบาลอาจจะกลายเป็นเวทีมวยไปซะก่อน”อารบีเล่ายิ้มๆ
เนื่องจากพยาบาลสาวๆต่างสรรหาวิธีเพื่อผูกไมตรีกับ คนตัวเล็กดังนั้นแต่ละนางจึงพยายามงัดกลเม็ดมัดใจชายมาใช้จนเกิดการเขม่นกันขึ้น ยังดีที่มีบอดีการ์ดคอยคุ้มกัน ไม่อย่างนั้น ไอ้ตัวเล็กคงจะโดนสาวๆลากไปรุมทึ้งแน่
“ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?”ชีคนาซขมวดคิ้ว เกิดอะไรขึ้นกับ ไอ้ตัวเล็กของเขา
“เกิดศึกชิงนายครับ”อารบีบอกพร้อมกับหัวเราะขัน ทำไมเขาไม่เนื้อหอมอย่างนี้บ้างนะ
“ศึกชิงนาย ?”ชีคนาซทวนประโยคงงๆ
“ใช่ครับ ก็พยาบาลสาวๆปลื้มเจ้าตัวเล็กมากจนแทบจะตีกันตาย”อารบีเฉลย
“อะไรนะ!”ชีคนาซอุทาน ใคร๊ ใครกันที่บังอาจมาตบตีแย่งชิงไอ้ตัวเล็กของเขา  ไอ้ตัวร้ายนั่นมันเป็นของเขานะ ของเขาเท่านั้น ใครก็อย่าฝันว่ามาจะชิงมันไปจากเขาได้ชีคนาซคิดอย่างหงุดหงิด
“เปลี่ยนเป็นบุรุษพยาบาลทั้งหมด อย่าให้พวกนั้นมาวุ่นวายให้ไอ้ตัวเล็กรำคาญใจ”ชีคนาซสั่งการอย่างฉุนเฉียว แค่เลขาของมันคนเดียวเขาก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรดีเลย แล้วยังจะมีนางพยาบาลอีกโขยงเพิ่มเข้ามาอีกเหรอ แค่คิดก็ปวดหัว
“ครับ”
อารบีรับคำอย่างงงๆ ก็ไม่เห็นว่าไอ้ตัวเล็กจะรำคาญตรงไหน ดูเหมือนมันจะสนุกด้วยซ้ำที่ได้หว่านเสน่ห์ให้สาวๆแทบตีกันตาย ชีคนาซเองก็เคยทำออกบ่อยไป ก็ไม่เคยเห็นบ่นว่าจะรำคาญสักที

ก๊อก ๆๆๆ
“ท่านชีคบุสฮรา พารองประธานทีเค กรุ๊ปมาขอเข้าเยี่ยมครับ”บอดีการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าห้อง เข้ามารายงาน
ชีคนาซขมวดคิ้ว คนที่จะมาคุมมันกลับเมืองไทยมาถึงแล้วรึ แค่คิดว่ามันต้องกลับไปเขาก็ใจหาย
“รองประธานทีเค กรุ๊ป รึ?”อารบีถามอย่างแปลกใจ ข่าวที่ได้รับมา คนที่กุมอำนาจสูงสุดในทีเคกรุ๊ป คือรองประธานบอร์ดบริหาร
“ครับ ท่านมากับผู้ติดตามอีกหนึ่งคน”บอดีการ์ดรายงานเพิ่มเติม
“อืม”ชีคนาซพยักหน้าอนุญาต บอดีการ์ดกลับออกไป
“ท่านชีคครับ ผมได้ข่าวว่า เขาเป็นคนกุมอำนาจสูงสุดของทีเค กรุ๊ป”อารบีกระซิบรายงานเจ้านายตน
“หือ?”ชีคนาซเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ...หมายความว่า คนที่มีอำนาจสูงที่สุดในทีเครึถึงจะ คุมมันกลับไปได้ แสดงว่า ไอ้ตัวร้ายของเขาคงจะมีตำแหน่งไม่น้อยเช่นกัน

ประตูห้องพิเศษเปิดออก หนึ่งชราหนึ่งเยาว์วัยก้าวเข้ามาในห้อง หนึ่งชรานั้น ทั้งอารบีและชีคนาซ รู้จักดี ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของดรูไรดารานชีคบุสฮรา ฟาทิมา แต่คนที่ทั้งอารบีและชีคนาซสนใจ คือหนึ่งเยาว์วัยที่ก้าวตามเข้ามา
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งผิวขาวใส อายุประมาณยี่สิบปลาย ใบหน้าอ่อนเยาว์เกลี้ยงเกลา หล่อเหลาเหมือนคุณชายเจ้าสำอาง ดวงตาที่อยู่ภายใต้แว่นตากรอบสีทองมีแววสนุกสนานขี้เล่น ริมฝีปากหยักยิ้มละไมคล้ายกับไม่เคยโกรธใครมาก่อนเลยในชีวิต ช่างเป็นภาพที่ขัดกันอย่างรุนแรงกับ ลูกน้องตัวร้ายตาดุ ขี้โมโหเอาแต่ใจคนนั้น
“ชีคนาซ อซีซา บาฮจา และนี่คือมิสเตอร์กันต์ พงษกร รองประธานของทีเคกรุ๊ปครับ”ท่านรัฐมนตรีเป็นคนแนะนำให้ทั้งสองฝ่ายได้รู้จักกัน
กันต์โค้งคำนับ “สวัสดีครับ ยินดีที่รู้จัก และผมขอแสดงความเสียใจที่การมาของพวกเราทำให้ท่านชีคได้รับบาดเจ็บ”
“ยินดีที่ได้รู้จัก เช่นกัน ส่วนเรื่องบาดเจ็บ มันเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ใช่ความผิดของทีเคกรุ๊ปหรอก”ชีคนาซกล่าวอย่างใจกว้าง
กันต์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ชีคนาซไม่ได้เอาเรื่องเอาราวอย่างที่หวั่นเกรง เพราะเขารู้ดีว่าที่ชีคนาซเจ็บหนักแบบนี้เพราะ..ใคร
“นี่ท่านอารบี ที่ปรึกษาของผม”ชีคนาซกล่าวแนะนำคนของตนให้อีกฝ่ายได้รู้จัก
กันต์โค้งคำนับก่อนจะจับมืออวบอูมของอารบีที่ยื่นให้พร้อมรอยยิ้มใจดี
บุรุษทั้งสี่พูดคุยซักถามทำความรู้จักกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ชีคนาซจะถามขึ้น
“คุณได้เจอไอตัวร้ายแล้วหรือยัง?”
มุมปากของกันต์กระตุกยิ้ม ไอ้ตัวร้าย ช่างเป็นคำเรียกหาที่เหมาะสมยิ่งนัก เขาเองก็อยากจะเรียกแบบนี้แทบขาดใจ แต่ด้วยรู้ฤทธิ์กันดี ขืนเขาเรียกแบบนี้บ้าง เขาอาจจะได้นอนโรงพยาบาลแบบชีคนาซขณะนี้ก็เป็นได้  เขาจึงทำได้แค่ แอบเรียกในใจด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่ให้เจ้าตัวจับได้เท่านั้นเอง
“ยังครับ” กันต์ยิ้มตอบ ยังไม่อยากเจอเท่าไร ให้พี่น้องจัดการกันเองก่อนดีกว่า..ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะเจ็บตัวได้โทษฐานที่พาผู้คุมมาโดยไม่ได้รับอนุญาต
ชีคนาซมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจ ยิ่งดูก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงคุมไอ้ตัวร้ายนั้นอยู่  ถึงแม้ว่าจะดูเป็นคนฉลาดและมีไหวพริบดีสมเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่ก็เถอะ แต่ดูไม่มีอำนาจบารมีพอที่จะข่มไอ้ตัวร้ายนั้นให้ยอมอยู่ใต้อำนาจได้เลย  ไผทยังพอมีกลิ่นอายพอที่จะทำให้ไอ้ตัวร้ายนั้นเกรงใจได้บ้าง แต่กับผู้ชายเจ้าสำอางคนนี้แล้ว เขาไม่เชื่อว่าจะเอามันอยู่
“แล้วคุณจะพักอยู่ที่นี่กี่วัน?”ชีคนาซถามต่อ
“ก็ว่าจะกลับทันที ที่จัดการทุกอย่างที่นี่เรียบร้อยครับ” กันต์ตอบ จัดการกับไอ้ตัวร้ายได้เมื่อไรก็ต้องรีบกลับไป เพราะงานยังกองท่วมหัว แถมไอ้ตัวร้ายกลับไปด้วยงานคงเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวแน่
ชีคนาซเลิกคิ้วขึ้น เข้าใจได้ลางๆว่าที่ต้อง จัดการให้เรียบร้อยนั่นหมายถึงอะไร

ก๊อก ๆๆๆ
คนที่โผล่หน้าเข้ามาไม่ใช่บอดีการ์ด แต่เป็นไอ้ตัวร้ายที่ชีคนาซกำลังพูดถึง มันตวัดสายดุๆไปที่เจ้านาย ในนามของตนอย่างคาดโทษครั้งหนึ่ง ก่อนจะบอกกับคนอื่นๆที่ยู่ในห้อง
“ผมขอคุยกับชีคนาซเป็นการส่วนตัวสักครู่ได้ไหมครับ?”
ประโยคขอร้องที่ดูเหมือนคำสั่งกลายๆนั้น ทำให้ชีคนาซขมวดคิ้ว เขาไม่แปลกใจแล้วล่ะ ว่าทำไมมันถึงดูไม่เกรงกลัวใครเลย ขนาดกับเจ้านายของมัน มันยังไม่กลัวแถมยังมองดุๆอีกต่างหาก นิสัยแบบนี้ของมันคงเกินเยียวยาแล้วล่ะ

ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องคนเจ็บยอมถอยออกจากห้องแต่โดยดี เจ้าตัวร้ายจึงเดินมายืนข้างเตียง
“ผมต้องกลับเมืองไทยก่อน”คนเข้ามาใหม่บอกอย่างหงุดหงิด
ชีคนาซพยักหน้ารับรู้ไม่แปลกใจเพราะรู้อยู่ก่อนแล้ว ไผทจัดการได้เร็วกว่าที่คิด
“แต่ผมจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด”คนโดนคุมตัวกลับบอกอย่างหมายมาด ฮึ..คิดว่าส่งพี่ชายมาคุมแล้วจะหนีไปไหนไม่ได้หรือไง
นี่กระมังที่บอดีการ์ดของมันบอก ถ้าไม่จับขังไว้คงไม่อยู่ที่บอกว่าจะรีบกลับมานี่แสดงว่า มันคงจะหนีมาแน่ๆ ชีคนาซอมยิ้ม อืม ให้มันกลับไปก่อนก็ดี ให้เขาแข็งแรงพอจะรับมือกับมันได้ค่อยให้มันกลับมา..จากนั้นเขาจะไม่ปล่อยให้มันหนีไปไหนอีกเลย
“ท่านสัญญาแล้วว่าจะทำทุกอย่างที่ผมร้องขอ”คนที่จะต้องกลับเริ่มทวงสัญญาเมื่อชีคนาซยังนิ่ง
“เจ้าอยากให้ข้าทำอะไรล่ะ?”ชีคนาซถามขึ้นเป็นประโยคแรก
คนทวงสัญญายิ้มเพราะรอประโยคนี้อยู่พอดี
“ช่วยให้ผมกลับมาที่นี่โดยไม่ให้ใครรู้ แม้แต่คนของทีเค”ดวงตาคนขอเป็นประกายแวววาวเจ้าเล่ห์
ชีคนาซหรี่ตาลง ไม่ให้ใครรู้แม้แต่คนของทีเครึ ถ้าเจ้าอยู่ที่นี่ตลอดไปก็คงไม่มีใครรู้สินะ
“ได้ ข้ารับรอง จะไม่ให้ใครระแคะระรายเลยว่าเจ้ากลับมาที่นี่”ชีคนาซรับรองพร้อมกับแอบยิ้มอย่างยินดีในที่สุดข้าหาวิธีที่จะเก็บเจ้าไว้ข้างกายได้แล้ว
“เจ้าจะกลับมาเมื่อไหร่?”ชีคนาซถาม
“ผมจะติดต่อมาอีกที แต่ว่าผมจะติดต่อกับท่านได้ยังไง?”คนถามขมวดคิ้ว
“นี่เบอร์ตรงของข้า โทรมาเมื่อไรก็ได้”ท่านชีคอนุญาตพร้อมกับยื่นนามบัตรที่มีเบอร์โทรศัพท์สายตรงซึ่งเป็นเบอร์พิเศษเฉพาะคนในครอบครัวเท่านั้นให้มัน
“แล้วเบอร์ของเจ้าล่ะ?”ชีคนาซถาม เวลามันกลับไปเขาจะได้โทรหามันบ้าง
“อย่าเลย..เดี๋ยวโดนจับได้  ให้ผมเป็นฝ่ายติดต่อท่านจะดีกว่า”คนรับนามบัตรบอกปัด เพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น
ชีคนาซนิ่งคิด ก็จริงของมัน ถ้าทีเครู้ว่าเขาติดต่อกับมันก็จะติดตามเบาะแสได้ อดทนไว้ พียงไม่นานหรอกที่เขาจะได้มันมาอยู่ด้วยตลอดไป
“แล้วเจ้าจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่?”ชีคนาซถาม
“ตอนนี้แหละ”
คนตอบหน้าบึ้ง เพราะคุณลุงฝากคำขู่มากับพี่ชาย ถ้าตะวันไม่ยอมกลับ ลุงจะบินมาตามเองถ้าทำให้คุณลุงโกรธอาจจะสั่งให้พี่ชายตามประกบแจไปตลอด แล้วก็จะทำอะไรอย่างที่วางแผนไว้ไม่ได้ ตอนนี้ยอมกลับไปก่อนค่อยหาทางกลับมาใหม่ คนหาทางหนี กับคนเฝ้า มันก็ต้องมีเผลอบ้างล่ะ
“ห๊ะ!”ชีคนาซอุทานอย่างตกใจ ทำไมมันปุบปับขนาดนี้ล่ะ เขายังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ
“ทำไมเร็วขนาดนี้?” ไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มเจ้าสำอางนั่นจะจัดการกับมันได้รวดเร็วอย่างนี้
“ก็วันนี้มีเที่ยวบินเดียว ตอนบ่ายสอง นี่ก็เกือบบ่ายโมงแล้ว ผมต้องไปคุยกับไผทสักหน่อย ก็เลยว่าจะมาลาท่านเลย”คนต้องกลับบอกพลางถอนหายใจ
“แล้วเที่ยวบินถัดไปล่ะ?”ชีคนาซถาม
“พรุ่งนี้ จะบินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็สถานการณ์ตอนนี้ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่”คนตัวเล็กบอก
 เที่ยวบินที่จะมาประเทศนี้ ไม่มีเลย ที่กันต์มาที่นี่ได้เพราะเช่าเครื่องบินเหมาลำมา แต่เที่ยวบินไปต่างประเทศยังพอมีบ้าง เพราะยังมีชาวต่างชาติตกค้างที่ต้องการบินกลับประเทศของตนอยู่จำนวนหนึ่ง
ชีคนาซกดโทรศัพท์มือถือสายตรงถึงท่านที่ปรึกษา
“อารบี เตรียมเครื่องไปส่งไอ้ตัวเล็กที่เมืองไทย”สั่งการด้วยภาษาอังกฤษ
แต่ประโยคต่อมาเป็นภาษาอาหรับ “ให้คนไปสืบเรื่องของมันที่เมืองไทยด้วย” ก่อนจะกดวางสาย
“ข้าให้อารบี เอาเครื่องบินส่วนตัวของข้าไปส่ง”ชีคนาซบอก
คนตัวเล็กพยักหน้ารับ ก็คนเขามีน้ำใจ ไม่รับไว้ก็จะเสียไมตรีกันเปล่าๆ
“แต่เจ้าช่วยอยู่กับข้า จนกว่าข้าจะหลับ แล้วค่อยกลับไปได้ไหม?”ชีคนาซบอก น้ำเสียงมีแววอ้อนวอนในที
คนตัวเล็กขมวดคิ้วทำหน้ายุ่ง นึกว่าจะไปส่งฟรีๆ ยังจะมีข้อแม้อีก แต่ก็ยอมพยักหน้ารับคำ “เดี๋ยวผมบอก คนของผมก่อน”บอกก่อนจะเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
ทำไมมันชอบพูดว่าคนของผม ทำไมมันไม่บอกว่าเจ้านายของมัน ชีคนาซคิดอย่างแปลกใจ ดูเหมือนมันไม่ได้เกรงกลัวเจ้านายมันสักเท่าไร แต่ทำไมยอมกลับไปแต่โดยดี ผู้ชายเจ้าสำอางแบบนั้นมันมีอะไรดีนักนะ
เพียงครู่คนตัวเล็กก็เดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง
“ท่านกินยานี่ก่อน”
ยานี่คือเม็ดกลมๆเล็กๆสีดำคล้ายลูกประคำที่มันเอาให้บอดีการ์ดร่างยักษ์กินจนนอนดิ้นทุรนทุรายนั่นแหละ ชีคนาซมองเม็ดกลมๆในมือมันอย่างไม่ไว้ใจ
“ไม่ใช่ยาพิษหรอกน่า นี่เป็นยาสูตรพิเศษที่คนของผมปรุงขึ้นเพื่อรักษาแผลโดยเฉพาะ ท่านกินนี่จะได้หายเร็วๆ”เจ้าของยาบอก
ชีคนาซหรี่ตามอง ทำไมมันถึงชอบมี สูตรพิเศษของคนของตัวเองนักนะ มันทำอะไรที่ทีเคกรุ๊ปกันแน่?
ชีคนาซลังเลใจครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมอ้าปากกลืนเม็ดกลมๆนั่นเข้าไป รสชาติของมันขมเฝื่อนจนเขาต้องเบ้หน้า คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆจึงรีบยื่นแก้วน้ำที่เทรอไว้แล้วให้อย่างรู้ใจ เมื่อชีคนาซดื่มน้ำเข้าไปคราวนี้รสขมเฝื่อนลามจากหลอดอาหารไปจนถึงกระเพาะจนต้องเบ้ปาก
“รสชาติเป็นไงบ้าง?”เจ้าของสูตรถามอย่างกระตือรือร้น
“เจ้าปรุงเอง เจ้าไม่ได้ลองเองหรือไง?”ชีคนาซขมวดคิ้วถาม ชักไม่แน่ใจว่ายาของมันจะดีจริงสมราคาคุยหรือเปล่า ขนาดเจ้าตัวยังไม่ยอมลอง
“ก็เคยลอง แต่รสชาติมันแย่ หลังๆก็เลยให้คนอื่นลอง”
เจ้าของสูตรยิ้มเจ้าเล่ห์ ถ้าเป็นชาแก้พิษน่ะลองเอง เพราะอร่อย และที่สำคัญมันป้องกันได้สารพัดพิษ ขนาดยานอนหลับของชีคอัลลามยังไม่มีผลใดๆเลย แต่ยาสูตรนี้ไม่ไหว ลองทีไรแทบจะกินอะไรไม่ได้ทุกที อีกอย่างก็ไม่เคยถูกยิงก็เลยไม่รู้ว่าจะกินไปทำไม
ชีคนาซตาโต นี่เขากลายเป็นหนูทดลองยาของมันไปแล้วเหรอ?
“ท่านต้องกินติดกันสามวันนะ วันละเม็ด”เจ้าของยายื่นอีกสองเม็ดที่เหลือให้
“รับรองว่าแผลของท่านหายเร็วแน่ พอผมกลับมาท่านจะได้พาผมไปตามหาน้องได้”แถมบอกจุดประสงค์แบบไม่อ้อมค้อม
อ้อ ที่มันให้เขากินยาสูตรพิเศษนี่ เพื่อจะได้หายทันพามันไปตามหาน้องอย่างนั้นสิ ถ้าไม่มีประโยชน์มันคงไม่เหลียวแลเขาเลยสินะ  ชีคนาซคิดอย่างน้อยใจ
เหมือนเจ้าของยาสูตรพิเศษจะรู้ว่าเขาคิดยังไง จึงยิ้มประจบ “น่า..เราเป็นพันธมิตรกันนี่นา ยังไงก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว..อีกอย่าง..นี่ผมหวังดีกับท่านจริงๆนะถึงยอมยกยาวิเศษนี้ให้”
เธอไม่ยอมรับว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณหรอก เพราะถ้าเขาทวงบุญคุณทีหลังเธอจะลำบาก เป็นแค่พันธมิตรกันน่ะดีแล้ว เพราะว่า ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูถาวรบนโลกใบนี้หรอก
ชีคนาซถอนหายใจ ยอมเก็บยาอีกสองเม็ดไว้แต่โดยดี เถอะ..ยอมให้มันก่อน ไหนๆเขาก็ยอมมันมาจนขนาดนี้แล้ว จะยอมอ่อนข้อให้มันอีกนิดหน่อย ก็คงไม่เป็นไรหรอกขอแค่ได้เห็นรอยยิ้มของมันแบบนี้ จะให้เขาทำอะไรก็ยอม

“เจ้าเล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟังบ้างได้ไหม?”ชีคนาซเปลี่ยนเรื่อง เขาอยากรู้เรื่องของมัน ขอให้เขาได้รู้จักมันมากขึ้นไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ยินดีรับฟัง
“เรื่อง?”เจ้าของเรื่องเลิกคิ้วขึ้น ถามอย่างแปลกใจ
“ใช่ เรื่องอะไรก็ได้ อย่างเช่นเจ้ามีพี่น้องกี่คน ตอนเด็กๆ ซนขนาดไหน?”ชีคนาซแนะยิ้มๆ อยากรู้ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับตัวมัน
คนที่ถูกร้องขอขมวดคิ้ว ไม่แน่ใจว่าชีคนาซต้องการอะไรกันแน่
“ข้าแค่อยากรู้จักเจ้า ก็เราเป็นพันธมิตรกันไม่ใช่เหรอ หรือเจ้าไม่ไว้ใจข้า?”เขาว่าอย่างน้อยใจที่เห็นมันลังเลคล้ายไม่ไว้ใจในตัวเขา
“เปล่า แต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนดี”คนตอบขมวดคิ้วครุ่นคิด
“เริ่มตั้งแต่เจ้าเด็กๆเป็นไง?”ท่านชีคแนะอย่างกระตือรือร้น
แต่เจ้าของประวัติ คิ้วขมวดจนแทบพันกัน ตอนเด็กๆอย่างนั้นหรือ จะให้เล่าตอนไหนล่ะ เริ่มจากตอนอายุห้าขวบดีไหม ตอนที่เข้าโรงเรียน พิเศษใหม่ๆแล้วเบื่อคุณครูสอนจริยธรรมที่ชอบทำโทษ เพราะตนนั้นชอบแหกกฎอยู่เป็นประจำ ด้วยความหมั่นไส้ วายร้ายวัยเด็กจึงสรรหาสิงสาราสัตว์น้อยใหญ่เอาไปไว้ในบ้านพักครู ทำให้คุณครูท่านนั้นตกใจจนต้องหามส่งโรงพยาบาล และเธอยังอุตสาห์เสาะหาแมลงที่คุณครูโปรดปราณที่สุดไปเยี่ยมถึงโรงพยาบาล จนคุณครูเกิดอาการประสาทหลอนจนไม่กล้ากลับมาสอนที่โรงเรียนนั้นอีกเลย

หรือจะเล่าตอนที่พยายามปราบกันต์ รุ่นพี่ที่ใครๆต่างชื่นชมว่า อัจฉริยะที่สุดในตอนนั้น ทั้งสองต่างใช้สมองอันชาญฉลาดของตนเพื่อจะปราบอีกฝ่ายให้ยอมอยู่ใต้อานัติ ทำเอาโรงเรียนทั้งโรงเรียนปั่นป่วนวุ่นวายกันไปหมด จนในที่สุดกันต์ก็ยอมศิโรราบด้วยสภาพสะบักสะบอม
จากนั้นเธอก็กล่อมให้อีกฝ่ายมาเป็นพวกเพื่อวางแผนยึดโรงเรียนด้วยกัน คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อตาย สองอัจฉริยะยิ่งสบาย ทั้งสองเริ่มจากปราบเด็กคนอื่นๆก่อนจนเด็กทั้งโรงเรียนยอมเป็นลูกสมุน คราวนี้แม้แต่คุณครูยังต้องยอมศิโรราบ เพราะใครจะสามารถปราบเด็กอัจฉริยะหลายสิบคนได้ ดังนั้นโรงเรียนทั้งโรงเรียนจึงกลายฐานบัญชาการของเธอตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 “เมื่อไหร่เจ้าจะเล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟัง?”ชีคนาซทวงหลังจากนอนรออยู่นานแล้ว และตอนนี้ก็เริ่มง่วงเพราะฤทธิ์ยา
“ก็ไม่มีอะไรน่าเล่า” จะเล่าได้ยังไง มีแต่วีรกรรมร้ายๆทั้งนั้น
“งั้นเอาเป็นว่าเจ้าชอบอะไร? ดูหนัง ฟังเพลง ช็อปปิ้ง?”ชีคนาซเปลี่ยนหัวข้อ เพราะถ้ารู้ว่ามันชอบอะไรเขาจะได้เอาใจมันถูก
คนต้องตอบนิ่งคิด ดูหนัง ไม่ชอบเพราะไร้สาระเกินไป ฟังเพลงก็ ไม่ชอบ เพราะเสียงดังน่ารำคาญ ช็อปปิ้งยิ่งไม่ชอบ เพราะเกลียดที่ที่มีคนพลุกพล่าน
“ไม่ชอบสักอย่าง”เธอตอบ
ชีคนาซเลิกคิ้วประหลาดใจ มีด้วยเหรอคนที่ไม่ชอบอะไรเลยสักอย่าง?
 “เจ้าไม่ชอบอะไรเลยเหรอ?”ชีคนาซถามย้ำ
คนโดนซักเริ่มทำหน้ารำคาญคนชอบซัก ก็ปกติไม่มีใครกล้ามาซักนักหรอก ก็ใครอยากอยู่ใกล้ ตัวอันตรายบ้างล่ะ
“ก็มีบ้าง เช่นแข่งรถ แข่งขี่ม้า ยิงปืน อะไรทำนองนี้แหละ”เธอบอก อะไรที่ท้าทาย..นั่นแหละ.. ชอบ
อ้อ พวกบ้าพลังชอบความท้าทาย งั้นเขากับมันก็เป็นคนประเภทเดียวกันสินะ อย่างนี้ก็ดีสิ อยู่ด้วยกันจะได้สนุก..ชีคนาซคิดอย่างพอใจ
ความง่วงเข้ามาครอบงำ ทำให้ชีคนาซตาปรือ ก่อนจะหลับเพราะฤทธิ์ยา เขายังคว้ามือของมันไปกุมไว้แนบอก

คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างเตียงมองคนเจ็บที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยแววตาสับสน มือใหญ่ที่เกาะกุมมือเล็กไว้นั้นอบอุ่นอ่อนโยนจนซึมเข้าสู่หัวใจ เพียงแค่คิดว่าต้องจากไปก็ใจหาย คนตัวเล็กถอนหายใจยาว ค่อยๆดึงมือของตนออกจากมือใหญ่อย่างนุ่มนวล
กลับไปก่อนเพราะยังมีเรื่องมากมายที่รอสะสาง เรียบร้อยเมื่อไรจะรีบกลับมา
 เธอลุกขึ้นยืนและมองหน้าคนที่นอนหลับสนิทครู่ใหญ่ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป

ทันทีออกจากห้องคนเจ็บกันต์กับไผทก็รออยู่ ส่วนแทนไทขอตัวออกไปเดินดูทหารที่เดินตรวจรักษาความปลอดภัยรอบโรงพยาบาล ตามประสาทหารที่ต้องการจะดูว่าระบบหรือวินัยของทหารที่นี่เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับทหารไทย
“จินนี่ ยังไม่อยากกลับไปตอนนี้”กันต์รายงาน
“ไม่ได้ ไม่กลับแล้วเราจะกลับยังไง”อาทิตยาตวัดตาดุ
ตอนมามีผู้ชายเก้าคน ผู้หญิงหนึ่งคนตรงตามเครื่องสแกน แต่ตอนขากลับมีแต่ผู้ชายกลับ แต่เครื่องสแกนต้องฟ้องว่ามีผู้หญิงกลับด้วยหนึ่งคน คนของบาฮจาไม่สงสัยก็แปลกล่ะ  แล้วดูคนที่จะกลับไปด้วยก็ไม่มีใครที่พอจะสวมรอยเป็นผู้หญิงแทนได้เลยนอกจากจินนี่ยังไงก็ต้องลากกลับไปด้วยกันให้ได้
 “แล้วเด็กสาวที่บาดเจ็บ”ไผทถามถึงเด็กสาวที่ช่วยเหลือออกมาจากคฤหาสน์ของชีคอัลลาม
“ลองเช็คสิว่า เราจะพาไปรักษาตัวที่เมืองไทยได้ไหม?”
อาทิตยาบอก ถ้าทิ้งไว้ที่นี่ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครดูแลหรือเปล่า เมื่อช่วยแล้วต้องช่วยให้ถึงที่สุด บางทีเธออาจจะให้ข้อมูลที่พอจะเป็นประโยชน์ต่อการตามหาปาริฉัตต์ได้บ้าง
กันต์รับไปดำเนินการ ทั้งสามคนกลับไปที่คฤหาสน์ของชีคนาซเพื่อจัดการในเรื่องต่างๆ และพูดคุยกันถึงรายละเอียดของทีมที่จะอยู่ต่อและคนที่จะกลับเมืองไทยให้เข้าใจตรงกัน จนกระทั่งบอดีการ์ดของชีคนาซได้เดินเข้ามารายงานว่าเครื่องบินพร้อมแล้ว
คนที่ต้องกลับเมืองไทยจึงทยอยไปขึ้นรถตู้เพื่อไปที่สนามบิน เพื่อไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของชีคนาซกลับประเทศไทย

“เอาข้อมูลของชีคบ้ากามมาด้วยหรือเปล่า?”ทันทีที่เครื่องบินได้ระดับเพดานบิน อาทิตยาก็ถามหาข้อมูลจากกันต์โดยไม่ยอมเสียเวลาเลยแม้แต่น้อย
กันต์นำโน๊ตบุ๊คของตนมาและเปิดข้อมูลต่างๆที่รวบรวมมาได้ให้ดู แล้วทั้งคู่ก็เริ่มปรึกษากันอย่างเคร่งเครียด

พันโทแทนไท นั่งมองน้องสาวที่กำลังปรึกษางานกับกันต์อย่างครุ่นคิด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆพล..อานนท์ พ่อของตนจึงมีคำสั่งด่วนให้เขาลาพักร้อนหนึ่งเดือนเพื่อเฝ้าประกบน้องสาวไม่ให้คลาดสายตา

ถึงแม้ว่าเขาจะรักน้องสาวมากก็จริง แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก อาจจะเป็นเพราะช่องว่างระหว่างวัย อีกทั้งอาทิตยาไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่เด็ก จะกลับบ้านเดือนหนึ่งแค่ไม่กี่วัน ยิ่งโตก็ยิ่งห่างกัน เพราะต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนคนละประเทศทำให้โอกาสเจอกันน้อยลงไปอีก และยิ่งเขาเข้ารับราชการทหารและได้ไปประจำการอยู่ที่ภาคเหนือ ส่วนน้องสาวก็มีธุรกิจยุ่งวุ่นวาย ทำให้ปีหนึ่งๆได้เจอกันเฉพาะวันพิเศษที่ต้องรวมญาติแค่ไม่กี่วันเท่านั้น

แต่คำสั่งพิเศษที่เขาได้รับและต้องปฏิบัติตามในขณะนี้ คืออะไร และทำไมเขาต้องทำแบบนี้ หรือว่าน้องสาวของเขากำลังถูกปองร้าย แต่ระบบรักษาความปลอดภัยขอทีเค กรุ๊ปก็ดีเยี่ยม แล้วทำไมเขายังต้องมาคอยเฝ้าอีก ?

แทนไท ถอนหายใจ ถึงเขาจะรู้หรือไม่รู้เหตุผลของคำสั่งนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องทำตามอยู่ดี บางทีไม่รู้อาจจะดีกว่า ก็แค่ตามน้องสาว ไม่ใช่เรื่องยากเย็นสักหน่อย  ตอนตระเวนตรวจชายแดนยังอยากกว่านี้ เขาไม่คิดเลยว่างานที่ว่า ไม่ยากเย็นนั้น’…จะทำให้ชีวิตและหัวใจของเขาต้องวุ่นวายมากมายแค่ไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น