“มีอะไรเหรอเปล่าคะพี่ติณห์?”
เสียงใสเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เปิดประตูออกไปพูดกันที่ทอเรซนอกห้องและปล่อยให้เด็กสาวอยู่ที่ห้องรับแขกเพียงลำพัง
‘พี่ติณห์’หรือ‘ติณห์ จินณวัตร’ผู้จัดการใหญ่ประจำภาคพื้นอเมริกาของทีเคกรุ๊ป เขามีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบธุรกิจทั้งหมดของทีเคกรุ๊ปในภาคพื้นทวีปอเมริกา
รวมทั้งคอยดูแลเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบต่อทีเคกรุ๊ปด้วย
อย่างเช่นเรื่องนี้ที่เขาต้องบึ่งรถมาที่นี่ตั้งแต่เช้า เขาเหลือบมองคนถามพร้อมกับถอนหายใจยาว
ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหนานุ่มตัวใหญ่
เจ้าของห้องเห็นดังนั้นจึงเดินไปนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเพื่อจะได้คุยกันได้สะดวกขึ้น
“โรเบิร์ต แลนดรอฟตายแล้ว”คนมาแจ้งข่าวบอกเสียงเครียด
“อะไรนะคะ!”
หญิงสาวอุทานเบาๆ
เธอเคยเจอเขาเพียงสองสามครั้ง แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกับเขาแล้ว เพราะ‘สะพาน’ที่เธอเหยียบข้ามไปแล้วจะไปสนใจทำไมอีก
“ทำไมถึงตายล่ะคะ?”
เธอถามต่ออย่างสนใจ
เพราะการตายของเขาน่าจะเกี่ยวพันมาถึงเธอแน่ ไม่อย่างนั้นผู้จัดการใหญ่ประจำอเมริกาอย่างเขาคงไม่ร้อนรนจนโผล่มาหาเธอแบบกะทันหันอย่างนี้แน่
“ฆาตกรรม”คนส่งข่าวตอบสั้นๆ
“แล้วเกี่ยวอะไรกับเราคะ?”หญิงสาวถามตรงประเด็น
“วูล์ฟ
เบเนท ประกาศล่าตัว จาง เหมยหลิน”
“แล้วจาง
เหมยหลิน ไปเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ?”หญิงสาวถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนน
คาดว่าน่าจะเป็นวันเกิดเหตุ จากกล้องเห็นโรเบิร์ตจอดรถรับหญิงสาวชาวเอเชียคนหนึ่งขึ้นรถไปด้วย”ติณห์เล่าเหตุการณ์คร่าวๆที่ได้รับจากสายข่าวให้หญิงสาวตรงหน้าฟัง
“แล้วอีตาหมาบ้านั่นก็เข้าใจว่า
ผู้หญิงเอเชียคนนั้นคือ จาง เหมยหลิน”หญิงสาวเดาเรื่องต่อได้ทันที
“ใช่…เพราะผู้หญิงในภาพ นั้นคล้าย จาง เหมยหลินมาก”ติณห์เน้นเสียง
เขาคงจะไม่ร้อนใจเลย
ถ้าจาง เหมยหลิน เป็นเด็กสาวสักคนที่เขาไม่รู้จัก แต่เผอิญว่าเขาดันรู้จักเธอดี แถมมีส่วนรู้เห็นในเรื่องที่เธอเข้าไปพัวพันกับโรเบิร์ต
แลนดรอฟด้วยนี่สิ
เพราะท่านประธานของทีเคกรุ๊ปที่ต้องการข้อมูลแบบละเอียดของธุรกิจอีฟินคอย
ดังนั้นวายร้ายด้านจิตวิทยาจึงต้องออกปฏิบัติการตามล่าหาข้อมูล และโรเบิร์ต
แลนดรอฟ คือบันไดขั้นแรกที่จะใช้เหยียบข้ามไปหาแหล่งข้อมูลที่ต้องการ ดังนั้น ‘หยาดพิรุณ โสภนวิชญ์’ ‘จิ้งจอกสาวพันหน้า’แห่งทีเคกรุ๊ปจึงต้องแปลงโฉมเป็นสาวฮ่องกงไปตีสนิทกับโรเบิร์ต แลนดรอฟ
ผู้จัดการของ‘อีฟินคอย’ อีไฟแนนเชียวของ‘เบเนท เวิล์ดแบงค์’
แบงค์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกาที่หันมาจับธุรกิจเงินดิจิทัล
‘อีฟินคอย’เป็นธุรกรรมทางการเงิน
ที่ฉีกข้อกีดกันด้านสกุลเงินซึ่งไม่เหมือนกันเลยทั่วโลก
โดยกำหนดเงินในรูปของเหรียญ(คอย)โดยไม่ระบุสกุลเงินตรา ดังนั้นทั้งคนที่ใช้บริการ ‘อีฟินคอย’ไม่ต้องกังวลถึงอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่างๆที่ขึ้นลงไม่คงที่ในแต่ละวัน
พวกเขาทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลโดยไม่ต้องคอยตัวกลางอย่างธนาคาร
ซึ่งธุรกิจนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ทำให้ธุรกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วจากมูลค่าทางธุรกิจเริ่มต้นแค่ร้อยล้านดอลลาร์
ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนมูลค่าทางธุรกิจก็ขยายตัวเป็นสามพันล้านดอลลาร์แล้ว
และคาดว่าจนถึงสิ้นปีมูลค่าธุรกิจอาจจะเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เลยก็ได้
แล้วจะไม่ให้จอมมารร้ายสนใจธุรกิจเงินดิจิทัลที่โตเร็วกว่าพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบเช่นนี้ได้อย่างไร
ดังนั้นวายร้ายด้านจิตวิทยาจึงถูกส่งมาทำหน้าที่ ‘สปายมืออาชีพ’ในครั้งนี้ แต่ใครเลยจะคาดคิดว่า ‘สะพาน’ที่ก้าวข้ามไปจะถูกฆาตกรรมเช่นนี้ และที่สำคัญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคล้ายมีคนจงใจให้
‘จิ้งจอกสาวพันหน้า’เป็นแพะรับบาปเสียด้วย…แต่มีหรือที่วายร้ายจะยอมให้ใครมาใส่ร้ายป้ายสีได้ง่ายๆ
“นั่นมันเป็นการจงใจใส่ร้ายกันชัดๆ”คนโดนใส่ร้ายกระแทกเสียงอย่างแค้นเคือง
ติณห์ถอนหายใจยาว
เขารู้ดีว่านั่นเป็นการจงใจใส่ร้าย
แต่เขาจะไปป่าวประกาศความจริงเรื่องนี้ได้อย่างไร ก็ในเมื่อจาง เหมยหลิน
นั้นไม่ได้มีตัวตนจริงๆเช่นกัน
“พี่รู้
แต่ว่าเราก็บอกความจริงกับใครไม่ได้”ติณห์ถอนหายใจอย่างหนักใจ
ถ้าคู่กรณีในครั้งนี้ไม่ใช่
วูล์ฟ เบเนท ‘หมาป่าโลกันตร์ พ่อมดทางการเงิน’คนนั้น เขาจะไม่หวั่นใจเลยสักนิด แต่นี่.. ทั่วทั้งอเมริกามีใครบ้างที่ไม่รู้จัก ‘วูล์ฟ เบเนท’ ‘หมาป่าโลกันตร์’ผู้ล่าไล่ทุกอย่าง ไม่ว่าเงินตรา อำนาจทางการเมือง
หรือแม้กระทั่งผู้หญิง และที่สำคัญ อะไรก็ตามที่วูล์ฟ ต้องการของเหล่านั้นจะต้องตกมาอยู่ในอุ้งมือของเขาอย่างง่ายดาย
คล้ายกับว่าเขามีเวทย์มนต์เสกมันมาได้อย่างไรอย่างนั้น
แล้วอย่างนี้จะให้เขานิ่งนอนใจได้อย่างไร
แต่…
คนที่ถูกหมายหัวอยู่ในขณะนี้กลับไม่ได้แสดงอาการหวาดกลัวเลยสักนิด
“พี่ว่า
เรนนี่กลับเกาะสักพักก่อนดีกว่าไหม?”เขาเสนอ
“ไม่ค่ะ”หญิงสาวปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด
‘ว่าแล้วไหมล่ะ?’คนยื่นข้อเสนอแอบถอนหายใจ
“เรนนี่ก็รู้ว่าวูล์ฟร้ายกาจมาก”ติณห์ยังไม่ละความพยายาม
หยาดพิรุณได้ฟังมุมปากก็ยกยิ้มเยาะหยัน
‘ร้ายกาจแค่ไหนกันเชียว โดนวางยาหน่อยเดียวก็นอนเป็นง่อยอยู่ริมถนนอย่างนั้น…
ถ้าเธอไม่กลับไปช่วยเรียกรถพยาบาลให้ ป่านนี้คงนอนแข็งตายกลายเป็นผีเฝ้าถนนไปแล้วมั้ง’
นางมารร้ายคิดอย่างลำพอง
“ตอนนี้วูล์ฟ
ส่งรูปจาง เหมยลินไปทางอินเตอร์เน็ต แถมยังตั้งค่าหัว..ถึงร้อยล้านเหรียญอีกด้วย”คนมากล่อมขยายข่าวต่อ
“เขารัก
‘พี่เขย’ขนาดนั้นเชียว?”
คนถามเลิกคิ้วขึ้นถามเสียงหยัน
ก็เจอกันตอนนั้นเห็นเขาเขม่นพี่เขยจนอีกฝ่ายเผ่นหนีแทบไม่ทัน แต่พออีกฝ่ายตาย
เขากลับเป็นเดือดเป็นแค้นตามล่า ‘ฆาตกร’ถึงขนาดตั้งค่าหัวเป็นร้อยล้านอย่างนี้..ใครจะเชื่อลง
“เปล่า
เขาไม่รักพี่เขยหรอก..อาจจะเกลียดเลยด้วยซ้ำ”ติณห์ตอบ
“แล้วทำไมเขาถึงตามล่า
เหมยหลินอย่างนั้นล่ะ?”หญิงสาวถามอย่างกังขา
“เพราะ..พี่สาวเขากินยานอนหลับฆ่าตัวตายตามสามีไปด้วย”ติณห์ตอบอย่างสลดใจ
“อะไรนะคะ!”
หยาดพิรุณอุทานอย่างตกใจจริงๆ
เธอไม่คิดว่าเรื่องในครั้งนี้จะลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ ‘ผู้ชายไร้ค่า’อย่างนั้น
มีอะไรดีนักหนาจนทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งต้องอาลัยถึงขนาดยอมปลิดชีพตัวเองตายตาม
“ดังนั้นพี่จึงอยากให้เรนนี่กลับเกาะไปก่อน”ติณห์กล่อมอีกรอบ
คนถูกกล่อมขมวดคิ้วเม้มปากแน่น..เธอไม่ใช่ฆาตกร แล้วทำไมเธอจะต้อง ‘หนี’ด้วย
“ไม่ค่ะ”คนไม่ผิดและไม่คิดหนียืนยัน
“เรนนี่..เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะ”ติณห์กล่าวอย่างอ่อนใจกับความรั้นของคนตรงหน้า
“เรนนี่ก็ไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องเล็ก
แต่พี่ติณห์จะให้เรนนี่ปล่อยให้คนใส่ร้ายลอยนวลไปง่ายๆอย่างนั้นหรือคะ?”คนรั้นถามเสียงแข็ง
คนอย่างเธอ…แค่มีคนมาทำให้หงุดหงิดใจ คนคนนั้นก็โชคร้ายแล้ว แล้วนี่
มีคนกล้ามาใส่ร้าย จะให้เธอปล่อยอีกฝ่ายลอยนวลไปง่ายๆอย่างนั้นหรือ..ไม่มีทาง
“เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เถอะ”เจ้าของพื้นที่บอก
“ไม่ค่ะ
เรนนี่ไม่หนี”คนที่ไม่เคยหนีตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ไม่ใช่หนี
เพียงแค่ถอยไปตั้งหลักเพื่อดูสถานการณ์สักพัก”ชายหนุ่มเปลี่ยนประโยคให้ดูอ่อนลง
แต่คนฟังกลับค้อนขวับ
‘หนี กับถอยไปตั้งหลัก มันต่างกันตรงไหน?’
“ไม่ค่ะ”หญิงสาวยืนยันหนักแน่น
“แล้วเรนนี่จะทำยังไง?”ชายหนุ่มถามเสียงเหนื่อยด้วยรู้ดีว่ากล่อมไปก็ไร้ประโยชน์ถ้าอีกฝ่ายทำเสียงแบบนี้แล้วละก็
ไม่ฟังใครอีกแล้วล่ะ
“เรนนี่จะสืบเรื่องนี้เอง
อีกอย่างอย่าลืมนะคะว่าเรายังไม่ได้ข้อมูลอย่างละเอียดของอีฟินคอยเลย
ถ้าเรนนี่กลับเกาะตอนนี้ แล้วท่านประธานจะว่ายังไงคะ?”คนที่ยังไม่ยอมกลับเกาะหาเหตุผลให้ตนเอง
พอพูดถึงท่านประธานตัวร้าย
ติณห์ก็ถอนหายใจยาว เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นคนเช่นไร ‘บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระเป็นร้อยเท่า’ดังนั้นถ้ารู้ว่าคนของตนถูกใส่ร้าย
จอมมารร้ายนั่นคงไม่มีทางอยู่เฉยอย่างแน่นอน
“แล้วเรนนี่จะทำยังไง?”เขาถามประโยคเดิมอีกครั้ง
“เรนนี่จะออกไปหาข้อมูลสักหน่อย ถ้ามีแผนการยังไงจะแจ้งพี่ติณห์อีกที”หญิงสาวตอบ
“โอเค อย่าลืมกำจัด
จาง เหมยหลินทิ้งเสียล่ะ”ชายหนุ่มเตือนเสียงจริงจัง
“อย่าห่วงเลยค่ะ
เรนนี่รู้ว่าควรจะทำยังไง ยังไงเสียหมาป่าโลกันตร์ก็คงไม่ร้ายกาจกว่าจอมมารร้ายแห่งทีเคกรุ๊ปไปได้หรอก”หญิงสาวยักไหล่
ประโยคนั้นทำให้คนฟังถึงกับสะอึก…อย่าเอ่ยถึงจอมมารร้ายนั่นบ่อยๆจะได้ไหม ขืนพูดถึงบ่อยๆเดี๋ยวก็โผล่มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวหรอก
เขายังไม่พร้อมจะรับมือกับวินาศภัยในตอนนี้หรอกนะ
“งั้นพี่กลับล่ะ อย่าลืมบอกก่อน
ถ้ามีแผนการยังไง”
ติณห์ย้ำ
เพราะที่นี่เป็นพื้นที่รับผิดชอบของตน ถ้าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ
รับรองเลยว่าจอมมารร้ายไม่ปล่อยเขาเอาไว้แน่
“ค่ะ”หยาดพิรุณรับคำหนักแน่น
“แต่เดี๋ยวก่อน
เรนนี่ฝากพี่ติณห์ดูแลแพทตี้ชั่วคราวได้ไหมคะ?”หยาดพิรุณขอร้อง เมื่อนึกถึงเด็กสาวที่นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น
“หืม..อะไรนะ?”ติณห์ถามย้ำ
“ช่วยดูแลแพทตี้แทนเรนนี่หน่อย
เด็กนั่นเป็นโรคซึมเศร้า เรนนี่ไม่อยากปล่อยแกไว้คนเดียว
เดี๋ยวจะฟุ้งซ่านไปกันใหญ่”หยาดพิรุณอธิบาย
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรา?”
ติณห์ถามเพราะไม่เข้าใจเหตุผลของอีกฝ่าย
ปกติแล้วคนของทีเคกรุ๊ปแทบจะไม่เคยสนใจใยดีคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพวกตนเลยด้วยซ้ำ
เรียกว่าเย็นชาจนไร้น้ำใจเลยก็ว่าได้
แต่ถ้าเป็นกลุ่มของตนแล้วละก็จะเจ็บร้อนแทนเสมือนหนึ่งว่าเป็นร่างกายเดียวกัน
“ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราหรอกค่ะ
เรนนี่แค่สงสาร เด็กตัวคนเดียวไม่มีใคร เคยช่วยเอาไว้ก็เลยปล่อยผ่านไปไม่ได้”
หยาดพิรุณอธิบาย
เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงรู้สึกสงสารเด็กสาวนัก
วันแรกที่เธอเข้ามาพักที่นี่เผอิญพบเหตุการณ์ที่แพทริเซียโดนเพื่อนรุมแกล้ง เธอจึงลงมือสั่งสอนเด็กร้ายกาจพวกนั้นจนต้องหามส่งโรงพยาบาลกันทั้งกลุ่ม
จากนั้นเธอก็ช่วยปลอบขวัญเด็กสาวด้วยจิตวิทยา จึงรู้ว่าเด็กสาวนั้นน่าสงสารเพียงไร
หลังจากวันนั้แพทริเซียก็มาหาเธอบ่อยๆ จิตที่เคยซึมเศร้าก็ค่อยๆดีขึ้น
เพราะมีที่พึ่งพิง
แล้วอย่างนี้เธอจะปล่อยให้เด็กสาวกลับไปอยู่ในสารภาพเดิมได้อย่างไร
ติณห์กลอกตากับภาระใหม่ที่ได้รับ
แค่งานที่ทำอยู่ก็ยุ่งมากพออยู่แล้ว นี่ยังจะให้เขามาดูแลเด็กป่วยทางจิตอีกหรือเนี่ย?...คิดว่าเขาว่างมากเลยใช่ไหม?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น