ตอนที่
4
คาสโนวี่ตัวแม่
หญิงสาวรูปร่างบอบบางสมส่วนตามแบบฉบับของสาวเอเชียในชุดแซกสั้นเข้ารูปสีขาวลายดอกไม้ก้าวเข้ามาในออฟฟิศของอีฟินคอย
ผมของเธอดัดเป็นลอนอย่างสวยงาม ใบหน้าเรียวเล็กถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง
เรียวปากอิ่มเคลือบด้วยลิปสติกสีสดฉ่ำวาวยวนใจ ดวงตาหงส์หยาดเยิ้มระบายด้วยอายแชร์โดว์ไล่เฉดสีและกรีดอายไลน์เนอร์อย่างมืออาชีพ
ไม่ว่าจะกวาดตามองผ่านใคร คนนั้นก็แทบอยากจะควักหัวใจออกมาวางไว้แทบเท้าของเธอ
“อรุณสวัสดิ์ครับ
ลิลลี่”
ชายหนุ่มวัยสามสิบต้นเดินรี่เข้ามาทักทันใด
เมื่อเห็นเธอก้าวเข้ามาในออฟฟิศ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ดิเอโก วันนี้ก็มาทำงานเช้าเช่นเคยนะคะ ฉันไม่เคยมาทำงานก่อนคุณได้เลยจริงๆ”
หญิงสาวทักทายกลับพร้อมกับรอยยิ้มหวาน
พลางกระเซ้าอย่างสนิทสนม
“ก็ไม่ยากนี่ครับ
แค่คุณยอมรับนัดเดตของผม เราก็สามารถมาทำงานด้วยกันได้แล้ว”ชายหนุ่มรีบ ‘หยอกไก่’ทันที
“แต่..ฉันกลัวว่าฉันจะมาทำงานไม่ได้มากกว่าค่ะ”หญิงสาวย้อนอย่างมีเลศนัย
ดวงตาหยาดเยิ้มเป็นประกายแวววามยิ่งทำให้อีกฝ่ายคันหัวใจมากยิ่งขึ้น
“งั้นเราก็นัดกันวันสุดสัปดาห์ก็ได้นี่ครับ”ชายหนุ่มยังไม่ละความพยายาม
“ไว้ฉันจะลองคิดดูอีกทีนะคะ”
หญิงสาวตอบ..ไม่ได้รับหรือปฏิเสธ ก่อนจะเดินเลยไปยังโต๊ะทำงานของตน
ปล่อยให้อีกฝ่ายมองตามอย่างหมายมาดในใจ…สักวันเขาจะต้องเผด็จศึกเธอให้ได้
“อรุณสวัสดิ์ครับ
ลิลลี่ วันนี้ก็สวยเช่นเคยนะครับ”ชายวัยสามสิบปลายรูปร่างท้วมเดินเข้ามาทักทายและเอ่ยชม
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ
ไรอัน คุณก็อารมณ์ดีเสมอเช่นกันค่ะ”หญิงสาวทักทายและชมกลับ
“แล้ววันนี้
เป็นหนุ่มโชคดีคนไหนที่จะได้รับโอกาสจากคุณครับ?”ชายหนุ่มถามตรงๆ
เขาก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่รอ ‘โอกาส’ที่หญิงสาวจะหยิบยื่นให้
“เอ..ไม่ทราบสิคะ อาจจะเป็นคนแถวๆนี้ก็ได้”หญิงสาวโปรยยิ้ม..และให้ความหวัง
“แถวๆนี้
หมายถึงคนตรงหน้าคุณตอนนี้หรือเปล่าครับ?”ชายหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น
“เอ..ใครน๊า?...รอลุ้นช่วงบ่ายๆดีกว่าไหมคะ
เช้าๆแบบนี้ฉันคิดอะไรไม่ค่อยออกหรอกค่ะ”หญิงสาวแกล้งว่าพร้อมกับอมยิ้มหยอกเย้า
“โธ่..คุณปล่อยให้ผมลุ้นอยู่ทุกวัน จนผมจะกลายเป็นโรคหัวใจอยู่และนะครับ”ฝ่ายชายโอดครวญขอความเห็นใจ
“คุณยังมีเวลาทำคะแนนอีกหลายชั่วโมงเลยนะคะไรอัน
ฉันเปิดโอกาสให้คุณเสมอค่ะ”หญิงสาวบอก
เธอชอบนักล่ะที่มีผู้ชายหลายคนมาคอยพะเน้าพะนอเอาอกเอาใจทั้งวันแบบนี้
แม้รู้ดีว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการก็แค่ร่างกายของเธอเท่านั้น แต่เธอจะแคร์ทำไม
ในเมื่อมันก็เป็นความต้องการของเธอด้วยเช่นกัน ..แค่สนุกแต่ไม่ผูกพัน
ตอนนี้ใครๆก็ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ทั้งนั้น ‘รักนิรันดร์’นั้นมีเพียงแค่ในนิทานหลอกเด็กเท่านั้นแหละ
“ฉันขอเคลียร์งานก่อนนะคะ
เดี๋ยวเจ้านายเข้ามาเห็นฉันมัวแต่เมาท์ จะเฉ่งฉันแต่เช้า”หญิงสาวไล่แขกอ้อมๆ
เธอไม่ชอบผู้ชายที่ไม่มีอะไรดึงดูดใจ
แต่ยังคอยตามเซ้าซี้ไม่เลิกรา แต่ที่ยังหว่านเสน่ห์ใส่เขาอยู่ทุกวันก็เพราะเขาคือคนหนึ่งที่ช่วยทำให้เรตติ้งของเธอยังคงสูงลิ่วอยู่เช่นเดิม
และอีกอย่างคือผู้ชายที่ ‘ต่ำกว่ามาตรฐาน’มักจะมีความพยายามสูงกว่าผู้ชายดูดีแต่ ‘ไร้ฝีมือ’มากมายหลายเท่านัก ดังนั้น ‘อ่อย’ไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
“ครับ
แล้วตอนเที่ยงคุณพอจะให้โอกาสผมได้ไหม?”ชายหนุ่มถามเสียงหงอยๆ
เพราะรู้ดีว่าเขามีโอกาสต่ำกว่าคู่แข่งมาก แต่ ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน
ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ไม่ใช่เหรอ
“อืม..แล้วฉันจะโทรหานะคะ ถ้าฉันทำงานเสร็จทัน”หญิงสาวบ่ายเบี่ยง ต้องไปออกเดตกับคนที่ไม่มีอะไรน่าสนใจมันอาจจะทำให้เรากินอะไรไม่ลงเลยก็ได้
“ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ”หญิงสาวอวยพรพร้อมรอยยิ้ม
แต่ความหมายคือ ‘ไล่แขก’
คนที่รู้ตัวว่าโดนไล่จึงถอนหายใจ
ก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองอย่างเซ็งๆ
“ไง…โดนเฉดหัวกลับมาเช่นเคยสินะ”
พนักงานหญิงวัยกลางคนที่นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะข้างๆเอ่ยถามอย่างเยาะเย้ย
…ใครๆก็รู้ว่า ‘คาสโนวี่ตัวแม่’อย่างนั้นจะควงเฉพาะผู้ชายที่ดูดีพอจะเชิดหน้าชูตาหล่อนได้เท่านั้น
แต่ผู้ชายที่ไม่มีอะไรโดดเด่นคนนี้ก็ยังฝันลมๆแล้งๆว่าหล่อนจะเหลียวกลับมามองเขา
ช่างไม่เจียมตัวเลยจริงๆ
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ไรอันตะคอกเสียงขุ่น
ก็เป็นพวกไม่มีใครเหลียวแลเหมือนกัน แล้วยังกล้ามาเยาะเย้ยเขาอีก
ถ้ามีเวลาว่างขนาดยุ่งเรื่องคนอื่นได้ขนาดนี้ ทำไมไม่เอาเวลาไปดูแลตนเอง
เผื่อจะมีผู้ชายหันมามองบ้างล่ะ
“เชอะ!”
คนถูกตะคอกสะบัดหน้าหนี
หันกลับไปสนใจงานตรงหน้าแทน ก็ไม่อยากยุ่งด้วยหรอก เพียงแค่อดสมเพช ‘หมาเห่าเครื่องบิน’ไม่ได้เท่านั้น
หลังจากก้มหน้าก้มตาจัดการงานที่คั่งค้างอยู่นาน
ก็ได้ยินเสียงอินเตอร์คอมดังขึ้น
“คุณหยาง
ช่วยส่งข้อมูลลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเปิดบัญชีเมื่อวานให้ผมหน่อย แล้วเข้ามาหาผมในห้องด้วย”
“ได้ค่ะ”
หญิงสาวรับคำ
พร้อมกับกระวีกระวาดค้นไฟล์ข้อมูลที่เจ้านายต้องการโดยเร็ว
เพราะเขาคือเจ้านายโดยตรงของเธอและยังเป็นคนที่ช่วยผลักดันให้เธอก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ด้วย
เมื่อได้ไฟล์ที่ต้องการ
เธอก็ส่งข้อมูลให้เจ้านาย หลังจากนั้นก็ลุกขึ้น เปิดประตูก้าวเข้าไปในห้อง พร้อมสมุดโน้ตเล่มเล็กเตรียมจดบันทึกงานที่เจ้านายจะมอบมายให้
เพื่อไม่ให้หลุดละเอียดบางอย่างป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในกรณีที่เธออาจจะหลงลืมได้กรณีที่ไม่ใช่งานด่วนที่ต้องทำทันที
“เชิญนั่ง”
‘เจมส์ เลนซ์เซอร์’ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของอีฟินคอย วัยห้าสิบต้นๆรูปร่างสูงใหญ่อ้วนท้วน
เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่ก้าวเข้ามาในห้องทำงานเพียงแวบเดียวพร้อมกับบอกเสียงเรียบ
ก่อนจะก้มหน้าลงสนใจหน้าจอโน๊ตบุ๊คของตนต่อ
“พรุ่งนี้
บิ๊กบอสจะมาที่นี่”เขาเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้า
“บิ๊กบอส?..คุณหมายถึงมิสเตอร์เบเนท?”
หญิงสาวถาม
พยายามอย่างยิ่งที่จะกดความรู้สึกยินดีเอาไว้ไม่ให้มันแสดงออกมานอกหน้านัก
แต่ถึงอย่างนั้นคนฟังยังรู้สึกได้ เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับหรี่ตาลงเป็นเชิงเตือนสติอีกฝ่าย
“ใช่..และที่ฉันเรียกเธอเข้ามาก็เพื่อจะบอกว่า..อย่าได้ไปยุ่งกับมิสเตอร์เบเนทโดยเด็ดขาด”เจ้านายสั่งห้ามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เอ่อ..ทำไมคะ?”
หญิงสาวอดถามถึงเหตุผลไม่ได้
เพราะ ‘วูล์ฟ เนเบท’คือเป้าหมายสูงสุดของเธอ แต่คนตรงหน้ากลับห้ามปราม
แล้วเธอจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร
“เธอแค่ลืมบางอย่าง…หรือว่าโง่กันแน่เนี่ย เพราะอะไรเธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ”เจมส์ว่าเสียงเข้มพร้อมตวัดตามองอย่างหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ได้ดังใจ
เมื่อถูกกระตุ้นเตือนหญิงสาวจึงรำลึกได้
เธอหน้าซีดลงทันใด ก่อนจะพยักหน้ารับปากอย่างเข้าใจในสถานการณ์
“ฉันทราบแล้วค่ะ”
“เอาเถอะ
พรุ่งนี้ ฉันจะให้เธอไปหาลูกค้ากับดิเอโก จะได้ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ”เขาหาทางออกให้
เขารู้สึกหนักใจอยู่บ้าง
แต่..วูล์ฟ
เบเนทจะมาที่ออฟฟิศแห่งนี้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นทำให้เขาพอจะหายใจได้บ้าง
เขาไม่ชอบเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับ ‘หมาป่าโลกันตร์’เลยจริงๆ แม้อีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าเขาเกือบยี่สิบปี
แต่รัศมีอำนาจที่แผ่ออกมากดทับจนเขารู้สึกหายใจไม่สะดวกทุกครั้งที่เผชิญหน้ากัน
อำนาจของคนมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุและประสบการณ์เลยจริงๆ
“แล้ววันนี้แต่งตัวมาซะสวย
ตั้งใจจะมาอ่อยใครล่ะ?”เขาถามตรงๆ ไม่สบอารมณ์ เพราะรู้ดีว่าเธอเป็นคนอย่างไร
แต่บางทีเขาก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้
“ไม่ใช่นะคะ”หญิงสาวรีบปฏิเสธ
“งั้นก็ดี
อย่ารับนัดใครในคืนนี้… ไม่มีอะไรแล้ว ออกไปทำงานได้”เขาสั่ง
หญิงสาวคำนับ
ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป วูบหนึ่งเธอรู้สึกรังเกียจผู้ชายคนนี้อย่างยิ่ง
แต่พอคิดถึงสิ่งต่างๆที่เขาหยิบยื่นให้ เธอก็ทำได้แค่เบ้ปาก..จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ในเมื่อทุกๆอย่างล้วนแล้วแต่เป็นความยินยอมพร้อมใจของเธอเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น